"ศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้" เผย นวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมการรักษาผู้มีบุตรยาก "การตรวจน้ำเชื้อ (สเปิร์ม) ด้วย AI"

พฤหัส ๒๖ กันยายน ๒๐๒๔ ๑๕:๕๘
การรักษาภาวะมีบุตรยากเป็นหนึ่งในความท้าทายที่คู่รักหลายคู่ต้องเผชิญ และการประเมินคุณภาพของน้ำเชื้อ (สเปิร์ม) ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการวินิจฉัยปัญหาด้านการเจริญพันธุ์ของฝ่ายชาย วิธีการมาตรฐานในการตรวจน้ำเชื้ออาศัยการประเมินของนักเทคนิคการแพทย์หรือแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งเป็นการวิเคราะห์โดยใช้ประสบการณ์โดยเฉพาะส่วนบุคคล ในการประเมินคุณสมบัติของสเปิร์ม เช่น การเคลื่อนที่ รูปร่าง และจำนวน อย่างไรก็ตาม ความแม่นยำในการวิเคราะห์ด้วยวิธีการมาตรฐานยังคงมีข้อจำกัด ทำให้เกิดการพัฒนาวิธีการที่มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย AI
ศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ เผย นวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมการรักษาผู้มีบุตรยาก การตรวจน้ำเชื้อ (สเปิร์ม) ด้วย AI

นพ.นภดล ใยบัวเทศ สูตินรีแพทย์ เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เผยว่า

ปัจจุบันนวัตกรรมการใช้ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการตรวจน้ำเชื้อจึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่เปลี่ยนโฉมการรักษาผู้มีบุตรยากอย่างมาก เทคโนโลยี AI ไม่เพียงแค่เพิ่มความแม่นยำในการประเมินคุณภาพของน้ำเชื้อ แต่ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกและนำเสนอข้อมูลที่ซับซ้อนได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดย การทำงานของ AI ในการตรวจน้ำเชื้อคือการทำหน้าที่เหมือนกับนักวิเคราะห์ดิจิทัลที่เรียนรู้จากข้อมูลหลายพันรายการในอดีต และพัฒนาขึ้นมาเพื่อประเมินคุณภาพของสเปิร์มได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยกระบวนการทำงานของ AI ในการตรวจน้ำเชื้อจะเริ่มจากการถ่ายภาพหรือวิดีโอของน้ำเชื้อผ่านกล้องจุลทรรศน์ จากนั้น AI จะวิเคราะห์คุณสมบัติหลัก ๆ ของสเปิร์มดังนี้ การเคลื่อนที่ของสเปิร์ม (Motility) : AI สามารถติดตามและประเมินความสามารถในการเคลื่อนที่ของสเปิร์มได้อย่างละเอียด โดยแยกแยะระหว่างสเปิร์มที่เคลื่อนไหวได้ดี เคลื่อนไหวผิดปกติ หรือไม่เคลื่อนไหวเลย รูปร่างของสเปิร์ม (Morphology) : AI สามารถวิเคราะห์รูปร่างของสเปิร์มได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาว่าสเปิร์มนั้นมีความสมบูรณ์เพียงพอสำหรับการปฏิสนธิหรือไม่ จำนวนสเปิร์ม (Concentration) : AI สามารถนับจำนวนสเปิร์มต่อมิลลิลิตรของน้ำอสุจิได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งช่วยในการประเมินความหนาแน่นของสเปิร์มในตัวอย่างน้ำเชื้อ การวิเคราะห์เหล่านี้ทำให้แพทย์สามารถประเมินภาวะมีบุตรยากในฝ่ายชายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถนำข้อมูลไปปรับแผนการรักษาเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ด้าน คุณพงษ์เพชร เบญจพลวัฒนา นักวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ประจำศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ รพ.นครธน เผยว่า

ข้อดีของการใช้ AI ในการตรวจน้ำเชื้อ ดังนี้ 1. ความแม่นยำที่สูงขึ้น: AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล ได้แม่นยำกว่าสายตามนุษย์ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำและน่าเชื่อถือมากขึ้น 2. ความรวดเร็วในการวิเคราะห์: การประมวลผลด้วย AI สามารถให้ผลลัพธ์ได้รวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการตรวจและวินิจฉัยปัญหา 3. ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก: AI สามารถวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำเชื้อหลายรายการได้พร้อมกัน ทำให้กระบวนการตรวจสอบสามารถดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 4. การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมมากขึ้น: AI สามารถตรวจสอบลักษณะของสเปิร์มในหลายมิติที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของสเปิร์มในทิศทางต่าง ๆ หรือการประเมินโอกาสในการเจาะเซลล์ไข่ นอกจากนั้น การใช้ AI ในการตรวจน้ำเชื้อไม่เพียงแต่เพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้แพทย์สามารถออกแบบแผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้ ตัวอย่างเช่น การเลือกสเปิร์มที่มีคุณสมบัติดีที่สุดเพื่อใช้ในกระบวนการ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ทำให้มีโอกาสในการปฏิสนธิสูงขึ้น และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ AI ยังช่วยให้การรักษาภาวะมีบุตรยากมีความเข้าถึงได้มากขึ้น โดยลดเวลาการรอผลการตรวจ และช่วยให้ผู้รับบริการได้รับการรักษาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

สรุปได้ว่า การตรวจน้ำเชื้อด้วย AI เป็นนวัตกรรมที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนโฉมการรักษาภาวะมีบุตรยากอย่างมาก ด้วยความแม่นยำและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การวินิจฉัยภาวะมีบุตรยากของฝ่ายชายทำได้ดีขึ้น แต่ยังเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้กับคู่สมรสที่เผชิญปัญหานี้ เทคโนโลยี AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการนำพาการรักษาภาวะมีบุตรยากไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ นพ.นภดล ได้ให้ คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาคุณภาพของน้ำเชื้อ (สเปิร์ม) สำหรับผู้ชาย ได้แก่ 1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยในการสร้างสเปิร์ม เช่น วิตามิน C, วิตามิน E, สังกะสี (Zinc) , และกรดโฟลิก โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ธัญพืช และอาหารที่มีไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน อะโวคาโด และถั่ว 2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะสืบพันธุ์แล้ว ยังช่วยลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจลดคุณภาพของสเปิร์มได้ 3. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์เพราะผลกระทบต่อคุณภาพของสเปิร์มและการผลิตฮอร์โมนเพื่อการเจริญพันธุ์ 4. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน 5. พักผ่อนให้เพียงพอ (7-9 ชั่วโมงต่อคืน) ให้ร่างกายมีเวลาฟื้นฟูและสร้างฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการผลิตสเปิร์ม 6. หลีกเลี่ยงความร้อนมากเกินไปที่บริเวณอัณฑะ การสัมผัสกับความร้อนสูง (เช่น การแช่น้ำร้อนบ่อยๆ การใช้คอมพิวเตอร์บนตักนานๆ) อาจลดคุณภาพของสเปิร์มได้ เนื่องจากอัณฑะควรอยู่ในสภาวะที่เย็นกว่าอุณหภูมิร่างกายปกติเล็กน้อยเพื่อให้สามารถผลิตสเปิร์มได้ดี 7. ลดความเครียดจะส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสเปิร์ม หาวิธีจัดการกับความเครียด เช่น การทำสมาธิ หรือการเล่นกีฬาเบาๆ

เมื่อสอบถามเกี่ยวกับ ช่วงวัยที่คุณภาพสเปิร์มของผู้ชายแข็งแรงที่สุด ทาง นพ.นภดล กล่าวว่า โดยทั่วไปในช่วงอายุ 20-35 ปี คุณภาพของสเปิร์มมักจะดี มีจำนวนสเปิร์มที่เพียงพอและการเคลื่อนไหวของสเปิร์มที่แข็งแรง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการมีบุตร แต่หลังอายุ 40 ปี คุณภาพของสเปิร์มจะเริ่มลดลงตามธรรมชาติ จำนวนสเปิร์มจะน้อยลง การเคลื่อนไหวของสเปิร์มจะช้าลง และมีความเสี่ยงต่อความผิดปกติทางพันธุกรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์หรือสุขภาพของบุตร ดังนั้น หากคุณผู้ชายวางแผนที่จะมีบุตรในอนาคต แต่ยังไม่พร้อมในช่วงนี้ การเก็บสเปิร์มในช่วงอายุ 20-35 ปีเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการรักษาคุณภาพของสเปิร์มไว้

ทั้งนี้ ศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ รพ.นครธน เป็นศูนย์ที่มีทีมแพทย์เฉพาะทางทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เทคโนโลยีที่ทันสมัยในระดับสากล พร้อมการบริการที่ช่วยวางแผนในการมีบุตรไปจนถึงการรักษาภาวะมีบุตรยาก เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ผู้รับบริการ ก้าวไปสู่การสร้างครอบครัวในฝันได้

ที่มา: พีอาร์ มงกุฎเพชร

ศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ เผย นวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมการรักษาผู้มีบุตรยาก การตรวจน้ำเชื้อ (สเปิร์ม) ด้วย AI

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO