นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า กระทรวงดีอี ได้มอบนโยบายเชิงรุกเพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขที่กำลังส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ที่มีภารกิจหลักในการดำเนินโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ (Health Information Exchange: Health Link) เพื่อยกระดับการบริการสาธารณสุขและสนับสนุนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและกระทรวงดีอีที่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างไร้รอยต่อ ปัจจุบัน Health Link ได้ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพให้กับหน่วยบริการสาธารณสุขได้แล้วกว่า 1,500 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร ประกอบไปด้วยโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร ศูนย์บริการสาธารณสุข และคลินิกบริการสุขภาพ อาทิ คลินิกชุมชนอบอุ่น ร้านยาคุณภาพ คลินิกเวชกรรม คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ คลินิกทันตกรรม คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกแพทย์แผนไทย คลินิกกายภาพบำบัด เป็นต้น ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล สามารถเข้ารับบริการจากหน่วยบริการใกล้บ้านได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
โดยเป้าหมายในอนาคตของกระทรวงดีอี มีความตั้งใจที่จะขยายการเชื่อมโยงไปยังหน่วยบริการในท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง เพิ่มความรวดเร็วในการรักษา ลดความซ้ำซ้อนในการเบิกจ่ายยา และช่วยเหลือชีวิตของผู้ป่วยได้ทันท่วงที ยกระดับระบบสาธารณสุขไทยได้อย่างยั่งยืน จากความสำเร็จของโครงการ Health Link ในวันนี้ กระทรวงดีอีพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของ BDI และภาคีเครือข่าย พร้อมผลักดันเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น
รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ กล่าวว่า สำหรับโครงการจัดทำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทั่วประเทศ หรือ ระบบ Health Link เป็นความร่วมมือระหว่าง สปสช. และ กทม. ในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพประชาชนของทุกหน่วยบริการด้านสุขภาพเพื่อรองรับโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ถือเป็นก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อเป็นประโยชน์ และเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านสุขภาพสู่ภาคประชาชน โดยได้นำร่องเชื่อมโยงข้อมูลในพื้นที่ กทม. ทั้งนี้การดำเนินงานไม่ใช่การรวมศูนย์ข้อมูล แต่เป็นการแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงภายใต้มาตรฐานกลาง โดยหน่วยบริการสาธารณสุขสามารถเปิดดูประวัติการรักษาที่ได้รับการยินยอมจากผู้เข้ารับการรักษาได้ผ่านระบบสารสนเทศโรงพยาบาล (HIS) และระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ HIE Web portal ผ่านระบบ Health Link
สำหรับงานเปิดตัว 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า กรุงเทพมหานคร นอกจาก BDI จะร่วมแสดงผลการดำเนินงานและแสดงแดชบอร์ด (Dashboard) การจัดทำฐานข้อมูลการตรวจสุขภาพอย่างเต็มระบบแล้ว ยังได้สาธิตความพร้อมของระบบเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยบริการเพื่อรองรับโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมรายงานภาพรวมการเชื่อมโยงข้อมูล และนำเสนอแผนการดำเนินงานโครงการ Health Link ต่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย
- ขยายการเชื่อมต่อหน่วยบริการใน กทม. ให้ครอบคลุมทั้งสำหรับหน่วยบริการในปัจจุบันและหน่วยบริการที่สมัครเข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ในอนาคต
- การคืนประวัติการรักษาให้กับประชาชน ผ่านการเชื่อมต่อ API ข้อมูลสุขภาพจาก Health Link ไปยังแอปพลิเคชัน PHR (Personal Health Record - ระเบียนสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล) ของหน่วยงานต่าง ๆ ทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตัวเองได้อย่างง่ายดาย
- ระบบการรับส่งต่อผู้ป่วย (Refer) เพื่อขยายการเชื่อมข้อมูลสุขภาพให้รองรับการส่งต่อผู้ป่วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งต่อการรักษาและประวัติการรักษา นำร่องในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครทั้งคลินิกชุมชนอบอุ่น ศูนย์บริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลในสำนักการแพทย์
- เพิ่มประสิทธิภาพระบบเบิกจ่าย ด้วยการพัฒนา AI ช่วยตรวจสอบความผิดปกติของการเบิกจ่าย รวมถึงการเชื่อมข้อมูลจากระบบ Health Link เข้ากับระบบตรวจสอบของ สปสช. เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการตรวจสอบ ส่งผลให้กับหน่วยบริการสามารถเบิกจ่าย (Claim) ได้เร็วขึ้น
"เรามีความพร้อมในการเป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ Health Link เพื่อรองรับการให้บริการในโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่กรุงเทพฯ และเราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับการบริการด้านสุขภาพของคนไทยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อคนไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้า และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและพลังของ Big Data ที่สามารถนำมาขยายการดำเนินงานให้กับทุกภาคส่วนได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นำไปสู่การพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป" ผอ.BDI กล่าว
ติดตามอัปเดตข้อมูลและกิจกรรมต่าง ๆ ของสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ได้ทางเว็บไซต์ https://bdi.or.th/ และ Facebook: BDI - Big Data Institute
ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์