ทิสโก้แนะกระจายซื้อ "บอนด์สั้น" หวั่นหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐาน

จันทร์ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ๑๒:๕๓
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาดตลาดหุ้นสหรัฐฯ จ่อปรับฐานในไตรมาส 4 รับ 2 ปัจจัย คือ 1. ราคาหุ้นแพง 2. ความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้ง แนะกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุนไปยังตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนดีช่วงอัตราดอกเบี้ยขาลง
ทิสโก้แนะกระจายซื้อ บอนด์สั้น หวั่นหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐาน

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4/2567 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสปรับฐานจาก 2 ปัจจัยคือ 1. ราคาหุ้นแพง และรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปมากแล้ว 2. ความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้ง ดังนั้น ในไตรมาสสุดท้ายของปี TISCO ESU แนะนำให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยการจัดสรรเงินลงทุนบางส่วนไปลงทุนในพันธบัตรระยะสั้นของสหรัฐฯ ที่มีความเสี่ยงต่ำและได้ประโยชน์จากการลดดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อย่างชัดเจน เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนโดยรวม

สำหรับรายละเอียดปัจจัยที่ TISCO ESU คาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจปรับฐานในไตรมาสที่ 4/2567 มีดังนี้

  1. มูลค่าหุ้น (Valuation) ที่แพงและได้สะท้อนความคาดหวังจากการลดอกเบี้ยไปมากแล้ว โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ปรับตัวขึ้นมาราว 30% ในช่วง 1 ปีก่อนที่ Fed จะลดดอกเบี้ยครั้งแรกในวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับรอบการลดดอกเบี้ยที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และยิ่งไปกว่านั้นการปรับขึ้นส่วนใหญ่ยังถูกขับเคลื่อนจากระดับ Valuation ของตลาดที่แพงขึ้น โดยค่าพีอีของดัชนี S&P500 ปรับเพิ่มขึ้นมาราว 20% ในช่วง 1 ปีก่อนขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งหากเทียบกับรอบการลดดอกเบี้ยในอดีต ค่าพีอีของตลาดที่ปรับขึ้นในระดับเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นในช่วง 6-12 เดือนหลังจากมีการดอกเบี้ยไปแล้ว ซึ่งชี้ว่าตลาดได้สะท้อนความคาดหวังจากการลดอกเบี้ยไปมากแล้วเมื่อเทียบกับในอดีต และทำให้การปรับขึ้นต่อจากนี้เป็นไปได้อย่างจำกัด
  2. ความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงต้นเดือน พ.ย. โดยหากอ้างอิงจากพฤติกรรมในอดีต ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะมีการปรับฐานราว 8% โดยเฉลี่ยในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งนับเป็นเทรนด์การเคลื่อนไหวของตลาดที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ไม่มีการเลือกตั้ง ในรอบนี้เราคาดว่าตลาดจะผันผวนเช่นเดียวกัน เนื่องจากความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งที่ค่อนข้างสูงจากทั้งนโยบายเศรษฐกิจที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วของผู้สมัครทั้งสองฝ่าย เช่น อดีตประธานาธิบดีทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเสนอให้มีการลดอัตราภาษีทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา ในขณะที่นางกมลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครตเสนอให้มีการขึ้นภาษีทั้งสองประเภท เป็นต้น และจากคะแนนความนิยมที่ยังมีความคู่คี่สูสี ซึ่งทำให้การคาดเดาผลการเลือกตั้งยังเป็นไปได้ค่อนข้างยาก

ที่มา: ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๓ LE โชว์ผลงาน Q3/67 กำไรทะยาน 312% รายได้อยู่ที่ 720 ลบ. ส่งซิก Q4 โตต่อเนื่อง ล่าสุดกอด Backlog แน่น 1,300
๑๗:๕๐ แม็คโคร พัทยา ปรับโฉมใหม่ รองรับกำลังซื้อช่วงไฮซีซั่น พร้อมจัดแคมเปญขอบคุณลูกค้าส่งท้ายปี ส่งมอบความคุ้มค่าทั่วเมืองพัทยา
๑๗:๒๑ ยันม่าร์ โชว์นวัตกรรมการเกษตร ในงานประชุมใหญ่ชาวไร่อ้อยสามัญประจำปี พร้อมฉลองครบรอบ 45 ปี สนับสนุนเงินดาวน์แทรกเตอร์ถึง 3
๑๗:๕๒ CHAYO งบ Q3/67 สุดปังทั้งรายได้และกำไร งวด 9 เดือนรายได้พุ่ง 38.85% มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20%
๑๗:๔๘ TNP เข้ารับเกียรติบัตร CAC ในฐานะบริษัทฯ ที่ได้รับการต่ออายุรับรองครั้งที่ 2 มุ่งมั่นเป็นองค์กรที่ร่วมต่อต้านคอร์รัปชันในภาคเอกชนไทย
๑๗:๕๙ คริสตัล โฮม ร่วมกับ AXOR จัดเวิร์กชอป The Power of Colors เผยเคล็ดลับดีไซน์ห้องน้ำหรูด้วยสีสันที่โดดเด่น
๑๗:๓๕ ทีเอ็มบีธนชาต ชวนซื้อสลากกาชาดทีทีบี ได้บุญ พร้อมลุ้นโชค 716 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ การให้ บำรุงสภากาชาดไทย
๑๗:๒๕ PRTR ประกาศงบ Q3/67 กำไรนิวไฮอีกครั้ง โตกว่า 14% ธุรกิจ Outsource ดาวเด่น คาด Q4/67 ดีมานด์พุ่ง
๑๗:๔๔ PLUS ส่ง Coco Royal ลุยช่องทางการขายชั้นนำในจีน ดันยอดขายพุ่ง รับออเดอร์ลูกค้ารายใหญ่ พร้อมเดินหน้าเต็มกำลังการผลิต
๑๗:๓๘ PRAPAT ฟอร์มแกร่ง! กวาดกำไร Q3/67 โต 77% แตะ 17.49 ล้านบาท รับปัจจัยหนุนจากรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัว