Host Mimosa Jazz มาในลุค Jazz สุดคลาสสิค เปิดงานเรียกความตะลึงโชว์ร้องสด เพลง "Lucky Be A Lady" ก่อนจะชวนแขกรับเชิญพิเศษขึ้นมาพูดคุยในช่วง "Let's Talk About Lady Gaga" นำทีมโดย Drag Queen อันดับ 1 ของประเทศไทยอย่าง Pangina Heals, Mogass และ Toocalderone ก่อนจะเข้าสู่ช่วง Drag Performance ในคอนเซ็ปต์ "Lady Gaga Collaborations" ที่ขนมาถึง 5 โชว์และสอดแทรกด้วยช่วง Q&A ร่วมชิงรางวัลลุ้นรับตั๋วหนัง "Joker: Folie ? Deux" เริ่มด้วยโชว์ซิงเกิลแห่งปี "Die With A Smile" ที่ครองชาร์ตทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ ด้วยลวดลายสุดแซ่บจาก Mogass และ Garfield ที่เรียกเสียงกรี๊ดกันสนั่นฟลอร์ ต่อด้วยโชว์เต้นสะบัดจาก Morrigan Xaster with The Kiki House of Siren ในเพลง "Just Dance" และตามมาติด ๆ กับ Frankie Wonga & Miss Prism Galaxia มอบความสนุกสไตล์ดิว่าในเพลง "Do What U Want" ตามมาด้วยอีกหนึ่งไฮไลท์อย่างเพลง "Telephone" ที่ Jessica Hush & Srirasha Hot Sauce เรียกเสียงหัวเราะและบูสเอเนอร์จี้แบบเกินร้อย นอกจากนี้ Too Calderon และ Miss Gimhuay ร่วมกันโชว์ในเพลง "Rain on Me" ที่เต้นเป๊ะตามเอ็มวีแบบ 100% สร้างสีสันและรอยยิ้มให้ทุกคนที่มาร่วมงาน ก่อนที่ "Amadiva" Karaoke Host จะชวนลิตเติลมอนสเตอร์มาปลดปล่อยพลังเอเนอร์จี้ร้อง Karaoke ไปกับเพลงฮิตจาก "Lady Gaga" อาทิ You And I, Bad Romance, Applause, Poker Face, Judas, Edge of Glory, Shallow, Million Reasons และอีกมากมาย รวมถึง "Die With A Smile" ที่ทุกคนพร้อมใจลุกขึ้นมาเต้นหมุนตาม Lady Gaga สมศักดิ์ศรีเพลงอินเตอร์อันดับ 1 และปิดท้ายด้วยการร่วมฟัง 3 เพลงหลักจาก อัลบั้ม "Harlequin" ของ "Lady Gaga" อย่าง "Happy Mistake", "World On A String" และ The Joker" เรียกว่าเป็นงานรวมตัวแฟนคลับที่ยิ่งใหญ่กิจกรรมแน่น ไฮท์เอเนอร์จี้กันตั้งแต่เริ่มจนจบ!
สำหรับอัลบั้ม "Harlequin" ผลงานล่าสุดของ "Lady Gaga" ที่ได้รับแรงบัลดาลใจจากบทบาท Harley Quinn ในภาพยนตร์ Joker: Folie ? Deux ร่วมโปรดิวซ์โดย "Lady Gaga" และ "Michael Polansky" นี่คือผลงานแนวเพลงที่ท้าทายมากขึ้น โดยรวบรวมทั้งความไอคอนิคและความโกลาหลของตัวละครป๊อปคัลเจอร์ให้ทุกคนได้สัมผัส อัลบั้ม "Harlequin" ยังถูกเรียกว่า "LG6.5" ถ่ายทอดเรื่องราวความซับซ้อนทางอารมณ์ของผู้หญิงที่เติบโตมากับความสับสนวุ่นวาย ด้วยแนวเพลงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เช่นเดียวกันกับตัวตนของ "Harley Quinn" และ "Lady Gaga" ที่เต็มไปด้วยความแตกต่างและกล้าแสดงออกแบบเต็มพิกัด
อัลบั้ม "Harlequin" ถือว่าเป็นอัลบั้มแรกของ "Lady Gaga" ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรี Jazz หลังจากการร่วมงานกับ "Tony Bennett" อัลบั้มนี้แสดงถึงการก้าวไปข้างหน้าด้วยการนำดนตรีคลาสสิคมาสู่ยุคโมเดิร์น ราวกับความอมตะที่ถูกจินตนาการผ่านเลนส์ของดนตรี ซึ่ง "Lady Gaga" ได้มอบชีวิตในกับแทร็กเหล่านี้ของเธอด้วยการผสมผสานดนตรีแจ๊สที่เธอชื่นชอบเข้ากับความโมเดิร์น และสิ่งที่ทำให้อัลบั้ม "Harlequin" ไม่เหมือนใคร นั่นก็คือการลอยอยู่เหนือข้อจำกัดของแนวดนตรีด้วยการใช้ซาวด์ต่าง ๆ จากความรู้สึกว่า นี่แหละคือสิ่งที่ใช่ และนี่คืออัลบั้มที่สร้างขึ้นด้วยความรู้สึกเบาบางที่สุด ชวนให้นึกถึงช่วงที่นักดนตรีทำเพลงตามที่พวกเขาต้องการและอยากให้ทุกคนฟังจากต้นจนจบในครั้งเดียว
กระบวนการแต่งเพลงและอัดเสียง รวมไปถึงโชว์ของอัลบั้ม "Harlequin" ทำขึ้นที่ Malibu และ Las Vegas ในช่วงที่ "Lady Gaga" กำลังจะสิ้นสุดโชว์ Jazz & Piano ในช่วงฤดูร้อนปี 2024 ซึ่งเธอและ "Michael Polansky" บรรจงเลือกนักดนตรีคลาสสิคและนักทำเพลงระดับโลกสำหรับอัลบั้มนี้โดยเฉพาะ เพื่อรวบรวมจิตวิญญาณของ "Harley Quinn" ในโน๊ตทุก ๆ ตัวให้ออกมาดีที่สุด และยังได้ "Benjamin Rice" ร่วมโปรดิวซ์ ถ่ายทอดอารมณ์หลาย ๆ ด้านผ่านทุกบทเพลง นี่คือผลงานแห่งความหลากหลายและซับซ้อนซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากบทบาทของตัวละคร "Harley Quinn" และเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของผู้มีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งที่ไม่อาจกำหนดได้ ทั้งโอบรับความวุ่นวายอันงดงามในแบบที่เธอใฝ่ฝัน เพราะนี่ไม่ใช่ "Lady Gaga" ที่คุณรู้จักมาก่อน นี่คือ "Harlequin" !!
ฟังอัลบั้ม "Harlequin" ได้ที่นี่ : https://ladygagaTH.lnk.to/HarlequinPR
ที่มา: Universal Music Thailand