ทส. ปิดเวที TCAC 2024 "เร่งเปลี่ยนผ่าน สานพลังภาคี สู่สังคมที่เป็นมิตรต่อภูมิอากาศ" แสดงพลังความร่วมมือ ชูผลสำเร็จสู่เวทีโลก

จันทร์ ๐๗ ตุลาคม ๒๕๖๗ ๐๘:๔๓
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับภาคีเครือข่าย ปิดการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 3 หรือ Thailand Climate Action Conference: TCAC 2024 ภายใต้แนวคิด "เร่งเปลี่ยนผ่าน สานพลังภาคี สู่สังคมที่เป็นมิตรต่อภูมิอากาศ Accelerating the Climate Transition" แสดงพลังความร่วมมือ ชูผลสำเร็จสู่เวทีโลก โดยได้รับเกียรติจากนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวปาฐกถาพิเศษและปิดการประชุม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงานและภาพรวมการประชุม TCAC 2024 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ทส. ปิดเวที TCAC 2024 เร่งเปลี่ยนผ่าน สานพลังภาคี สู่สังคมที่เป็นมิตรต่อภูมิอากาศ แสดงพลังความร่วมมือ ชูผลสำเร็จสู่เวทีโลก

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 พร้อมกับบรรลุเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 40 ภายในปี ค.ศ. 2030 ซึ่งรัฐบาลได้จัดทำแผนปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และแผนปฏิบัติการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยภายในปี ค.ศ. 2030 จะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 222 ล้านตัน อีกทั้ง ยังให้ความสำคัญกับการเตรียมระบบเตือนภัยพิบัติ และเร่งพัฒนากลไกการเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อให้ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชน สามารถรับมือและปรับตัวได้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญ รัฐบาลจะมุ่งส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตพลังงานสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์ ลม น้ำ และพลังงานทางเลือกอื่น ๆ พร้อมทั้งพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรีและคาร์บอนเครดิต เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานสำหรับทั้งการใช้ภายในประเทศและการส่งออกสู่ภูมิภาคอาเซียน ปรับปรุงกระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรมและบริการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รัฐบาลส่งเสริม green economy ให้เป็นจุดแข็งของไทย เพื่อกระตุ้นการลงทุนจากต่างชาติมากขึ้น สำหรับในเวที COP 29 ที่จะมาถึงนี้ ประเทศไทยจะใช้โอกาสนี้แสดงให้ประชาคมโลกเห็นว่าประเทศไทยมีความมุ่งมั่น และบูรณาการการทำงานอย่างครอบคลุมและสอดคล้องกับแนวทางของโลก และเชื่อมั่นว่าความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม จะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ แม้จะเป็นการเริ่มต้นเล็ก ๆ แต่มั่นใจว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ เพื่อส่งต่อโลกที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตลอดการประชุม TCAC 2024 ทั้ง 2 วัน ระหว่างวันที่ 3 - 4 ตุลาคม 2567 สะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัว และความมุ่งมั่นในการร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจากทุกภาคส่วน รวมกว่า 4,500 คน ซึ่งมีการนำเสนอ แลกเปลี่ยน เรียนรู้ ความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย และการดำเนินงานตามเป้าหมายระดับโลกภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความตกลงปารีส มีการเสวนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อยกระดับการดำเนินงานภายในประเทศ อาทิ การกำหนดเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดใหม่ หรือ NDC 3.0 ซึ่งเป็นเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจก ภายในปี ค.ศ. 2035 การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก และปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในภาคเกษตรและเมืองยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างวิถีชีวิตแบบคาร์บอนต่ำ การดำเนินงานด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาทิ การคาดการณ์ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาว กลไกการเตือนภัยพิบัติของประเทศไทย รวมถึงการเสริมสร้างขีดความสามารถให้พร้อมรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในทุกระดับ เชื่อมโยงไปสู่การคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ ด้วยการแก้ปัญหาโดยอาศัยธรรมชาติเป็นฐาน หรือ Nature-based Solutions (NbS) ผ่านการนำเสนอตัวอย่างการปฏิบัติที่ดี ทั้งของภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม

นายจตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเงิน การลงทุนซึ่งมีความจำเป็นต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำ โดยต้องมีการดำเนินการเชิงรุก และมีนวัตกรรมทางการเงินโดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน สถาบันทางการเงินทั้งภายในและต่างประเทศ รวมถึงการสื่อสาร สร้างความเข้าใจ ในสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. …. ซึ่งจะเป็นเครื่องมือภาคบังคับและส่งเสริมที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนประเทศไทย ให้บรรลุเป้าหมายการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อีกทั้งยังเป็นเวทีให้กับเยาวชนได้มีส่วนร่วมและแสดงออกถึงแนวคิด บทบาทของผู้นำการเปลี่ยนแปลงในอนาคต รวมถึง Influencer บุคคลต้นแบบในการส่งต่อเจตนารมณ์ ผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการตั้งรับปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ ภาคธุรกิจได้นำเสนอการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ผ่านนวัตกรรมทางความคิดเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ที่จะนำไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ความสำเร็จในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ในทุกระดับและทุกภาคส่วน ซึ่งประเทศไทยจะได้จัดแสดงใน Thailand Pavilion ในห้วงการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 หรือ COP 29 ที่จะจัดขึ้นปลายปี ระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ต่อไป

ทั้งนี้ การประชุม TCAC 2024 ครั้งนี้ ได้มีการนำคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย หรือ T-VER มาชดเชยปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

ที่มา: กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

ทส. ปิดเวที TCAC 2024 เร่งเปลี่ยนผ่าน สานพลังภาคี สู่สังคมที่เป็นมิตรต่อภูมิอากาศ แสดงพลังความร่วมมือ ชูผลสำเร็จสู่เวทีโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ