ทั้งนี้ เพื่อป้องกันอันตรายจากยาเสพติดที่อาจส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน สนอ. จะแจ้งสำนักงานเขต 50 เขตให้สำรวจร้านค้า รถเร่ แผงลอยที่จำหน่ายน้ำท่อมที่มีการผสม หรือขายพ่วงยาอันตรายอย่างต่อเนื่องตามแผนบูรณาการฯ และขอความร่วมมือสำนักงานเขตกำชับแนวทางปฏิบัติแก่เจ้าหน้าที่ กทม. หากพบการจำหน่ายน้ำกระท่อมที่มีการผสม หรือขายพ่วงยาอันตรายในพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ 0 2590 7405, 0 2590 7325 หรืออีเมล : [email protected] เพื่อให้ อย. เข้าตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย
นอกจากนั้น ยังได้บูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ ในทุกมิติ โดยประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน (1 มิ.ย. - 31 ส.ค. 67) โดยบำบัดฟื้นฟูผู้มีปัญหาการใช้ยาเสพติดในชุมชนโดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง (Community Based Treatment and Care - CBTx) ดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพฯ ในชุมชนเป้าหมาย 217 ชุมชน ประกอบด้วย (1) โครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในพื้นที่แพร่ระบาดยาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล (ตร.เฟส 2) ดำเนินการในพื้นที่เป้าหมาย 5 ชุมชน (2) โครงการชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืนในพื้นที่กรุงเทพฯ ดำเนินการในพื้นที่เป้าหมาย 24 ชุมชน และ (3) โครงการ CBTx กองทุนแม่ของแผ่นดิน ดำเนินการในพื้นที่เป้าหมาย 188 ชุมชน ทั้งนี้ ผลการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของหมู่บ้าน/ชุมชน พื้นที่กรุงเทพฯ ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.ค. 67 ดำเนินการแล้ว 209 ชุมชน คิดเป็นร้อยละ 96.31 และปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระดับจังหวัด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
สำหรับมาตรการเชิงรุกขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของ กทม. โดยเฉพาะการเฝ้าระวังภัยยาเสพติดในสถานศึกษา สถานประกอบการ และชุมชน แบ่งเป็น สถานศึกษา ได้เฝ้าระวังความเสี่ยงภายในและนอกสถานศึกษา คัดกรองโดยครูที่พบพฤติกรรมเสี่ยงของนักเรียนและคัดกรองโดยใช้การประเมินภูมิคุ้มกันยาและสารเสพติด หากพบนักเรียนที่มีความเสี่ยงจะประสานผู้ปกครองและศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. เพื่อติดตามช่วยเหลือ สำหรับนักเรียนที่มีความเสี่ยงและสงสัยว่า อาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะตรวจปัสสาวะ โดยจัดทำหนังสือสัญญาและข้อตกลงร่วมกับผู้ปกครอง เพื่อให้ความยินยอมก่อนตรวจปัสสาวะ จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ ทักษะ เสริมภูมิคุ้มกันยาเสพติดให้กับนักเรียน รวมถึงบันทึกข้อมูลเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เพื่อประเมินและวางแผนการช่วยเหลือแบบรอบด้านด้วยแพลตฟอร์ม "เติมเต็ม"
ส่วนสถานประกอบการได้ประสานความร่วมมือสำนักงานเขตและกระทรวงแรงงาน เพื่อจัดกิจกรรมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันยาและสารเสพติดให้กับพนักงาน สนับสนุนการสร้างสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยยาเสพติด สนับสนุนการดำเนินงานตามเกณฑ์มาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ (มยส.) และโรงงานสีขาว สำหรับในชุมชน ได้จัดให้มีอาสาสมัครเฝ้าระวังภัยยาและเสพติดกรุงเทพมหานคร และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานครเชี่ยวชาญยาเสพติดในพื้นที่ 50 สำนักงานเขต เพื่อเฝ้าระวัง สร้างการรับรู้ เท่าทันต่อสถานการณ์ปัญหายาเสพติด และร่วมค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา สนับสนุนการดำเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน เพื่อเป็นกลไกการป้องกันปัญหายาเสพติดในชุมชน อีกทั้ง ได้สนับสนุนการดำเนินงานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยจัดตั้งชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษา ชุมชน และสถานประกอบการ เพื่อให้เกิดกิจกรรมสร้างสรรค์ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจของเด็ก เยาวชน และประชาชนไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ที่มา: กรุงเทพมหานคร