กระทรวงเกษตรฯ หนุน "ลดเผา เบาฝุ่น" โดยบางจากฯ และบีบีจีไอ

ศุกร์ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๗ ๑๑:๐๘
กระทรวงเกษตรฯ หนุน "ลดเผา เบาฝุ่น" โดยบางจากฯ และบีบีจีไอสนับสนุนเกษตรกรไทยลดการเผาตอซังและฟางข้าว เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ด้วยจุลินทรีย์
กระทรวงเกษตรฯ หนุน ลดเผา เบาฝุ่น โดยบางจากฯ และบีบีจีไอ

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการ "ลดเผา เบาฝุ่น" ระหว่างบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตรและกรมพัฒนาที่ดิน เพื่อสนับสนุนการลดการเผาในภาคการเกษตร โดยใช้นวัตกรรมจุลินทรีย์ย่อยตอซังและฟางข้าว ซึ่งโครงการนี้มีเป้าหมายที่จะช่วยเกษตรกรลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 และลดการปลดปล่อยคาร์บอนที่เกิดจากการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม โดยมี นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร และ นายอาทิตย์ ศุขเกษม รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินร่วมลงนาม และได้รับเกียรติจาก นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้ริเริ่มแนวทางการใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซังและฟางข้าว ร่วมเป็นสักขีพยาน

นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บางจากฯ มีความยินดีที่ได้สนับสนุนเกษตรกรใช้นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้ร่วมมือกับบีบีจีไอ บริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก ในการพัฒนาจุลินทรีย์ย่อยตอซังที่มีประสิทธิภาพในการย่อยสลายตอซังข้าวภายใน 7 วัน ลดความจำเป็นในการเผาและช่วยฟื้นฟูคุณภาพดิน ซึ่งนอกจากจะลดฝุ่น PM 2.5 แล้ว ยังช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินในระยะยาว การลงนามในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของบางจากฯ ในการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำที่ทุกคนมีส่วนร่วม ส่งเสริมเกษตรกรไทยปรับเปลี่ยนวิธีการทำเกษตรกรรมให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อการลดมลพิษทางอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ "

นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า "บีบีจีไอภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาจุลินทรีย์ย่อยตอซังและฟางข้าวนี้ จากการศึกษาวิจัยร่วมกับพันธมิตร ทำให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดการเผา แต่ยังเป็นการช่วยพัฒนาเกษตรกรรมแบบยั่งยืน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสร้างประโยชน์ระยะยาวให้กับภาคเกษตรกรรมของประเทศ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบีบีจีไอในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการเติบโตของภาคเกษตรกรรมในยุคที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน"

ายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดการเผาของเกษตรกร ต้องใช้เทคโนโลยีและให้เกษตรกรเห็นผลจริงจากการทดสอบ ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ภาคการเกษตร โดยต้องร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน เพื่อสร้างอากาศสะอาด พื้นฟูและรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน ซึ่งจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการและพื้นที่ของเกษตรกร พบว่าจุลินทรีย์สามารถย่อยสลายตอซังและฟางข้าวได้ภายใน 7 วัน มีขั้นตอนการใช้งานอย่างง่าย ได้รับการยอมรับจากเกษตรกร เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่เผาในพื้นที่การเกษตรของตนเอง และมีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก สำหรับระยะต่อไป มีแผนที่จะสนับสนุนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมในพื้นที่ 6 จังหวัดรอบกรุงเทพมหานคร

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวชื่นชมความร่วมมือของทุกฝ่ายในโครงการนี้ โดยระบุว่า "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย ด้วยการส่งเสริมการทำเกษตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทดแทนการเผา ตามแนวทาง 3R Model ของกระทรวงฯ แนวทาง R1: Re-Habit ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืชเป็นการปลูกแบบไม่เผา โดยเน้นการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจและเป็นประโยชน์ต่อดิน ซึ่งการใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซังและฟางข้าวในโครงการนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยให้เกษตรกรลดการเผาได้อย่างยั่งยืน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจากการลงนามความร่วมมือในวันนี้ แต่ละหน่วยงานจะนำความรู้ และความเชี่ยวชาญของแต่ละหน่วยงานไปจัดทำโครงการและกิจกรรมบูรณาการร่วมกันป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 จากภาคการเกษตร เพื่อส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีและสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับลูกหลานของเราต่อไป"

โครงการ "ลดเผา เบาฝุ่น" จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ครอบคลุมพื้นที่นำร่อง 59,000 ไร่ ใน 6 จังหวัดรอบกรุงเทพฯ ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี สระบุรี ลพบุรี ชัยนาท และสุพรรณบุรี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกษตรกรกว่า 2,400 ราย สามารถปรับเปลี่ยนวิถีการเกษตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

ที่มา: บางจาก คอร์ปอเรชั่น

กระทรวงเกษตรฯ หนุน ลดเผา เบาฝุ่น โดยบางจากฯ และบีบีจีไอ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ