TMAN ชูศักยภาพผู้นำนวัตกรรมสุขภาพ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น ปักธงลงทุนยกระดับเทคโนโลยีการผลิต พัฒนานวัตกรรมยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนหลังเข้าเทรด SET

อังคาร ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๗ ๑๑:๒๕
'บมจ.ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล' หรือ TMAN หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิต และจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในประเทศไทยมากว่า 50 ปี เข้าจดทะเบียนและซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โชว์ฟอร์มเป็นหุ้นในหมวดของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ ที่ลงทุนเทคโนโลยียกระดับการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพ มุ่งมั่นคิดค้น วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเวชภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รุกขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมสุขภาพที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น
TMAN ชูศักยภาพผู้นำนวัตกรรมสุขภาพ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น ปักธงลงทุนยกระดับเทคโนโลยีการผลิต พัฒนานวัตกรรมยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนหลังเข้าเทรด SET

นายประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ" หรือ "TMAN") เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกวันที่ 22 ตุลาคม 2567 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค หมวดของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ โดยใช้ชื่อย่อ 'TMAN' ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งมั่นใจว่าด้วยศักยภาพของกลุ่มบริษัทฯ ที่วางรากฐานอย่างแข็งแกร่ง ทั้งการคิดค้น วิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพ ทั้งเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ตลอดจนการยกระดับมาตรฐานการผลิตเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในระดับสากลด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ จนถึงการวางกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยสนับสนุนให้ TMAN เป็นหุ้นที่มีคุณภาพ และได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมสุขภาพ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ ฯ กลุ่มบริษัทฯ วางงบลงทุนระยะสั้น-กลาง ไม่เกิน 777.5 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) โครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักร 8 โครงการ มูลค่าลงทุนไม่เกิน 298.5 ล้านบาท ได้แก่ 1.1) โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพร 1.2) โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตกลุ่มยาแผนปัจจุบัน 1.3) โครงการขยายส่วนงานวิจัยและพัฒนา 1.4) โครงการขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 1.5) โครงการพัฒนาระบบงานขายบนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 1.6) โครงการซื้อเครื่องมือควบคุมคุณภาพการผลิตกลุ่มยาแผนปัจจุบัน 1.7) โครงการซื้อเครื่องมือควบคุมคุณภาพการผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และ 1.8) โครงการก่อสร้างคลังสินค้าและอาคารสำนักงาน ซึ่งบริษัทฯ เริ่มดำเนินการแล้วหลายโครงการ

และ 2) บริษัทฯ มีโครงการลงทุนในอนาคตอีก 5 โครงการตามแผนการขยายธุรกิจ มูลค่าลงทุนไม่เกิน 479.0 ล้านบาท ประกอบด้วย 2.1) โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ 2.2) โครงการขยายกำลังการผลิตกลุ่มยาแผนปัจจุบันครั้งที่ 1 2.3) โครงการลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop) 2.4) โครงการปรับปรุงพื้นที่การผลิตยาแผนปัจจุบัน และ 2.5) โครงการขยายกำลังการผลิตกลุ่มยาแผนปัจจุบันครั้งที่ 2

นายประพล กล่าวว่า หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว กลุ่มบริษัทฯ วางกลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างและได้รับการยอมรับ ตลอดจนการพัฒนายารักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และกลุ่มยารักษาโรคทางเดินหายใจ เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งเป็นห่วงโซ่ขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมยา โดยปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีแบรนด์ทั้งสิ้นกว่า 226 แบรนด์ นอกจากนี้จะวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพที่หลากหลายและมีคุณภาพ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างครบถ้วน รวมทั้งการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM/ODM) และธุรกิจรับจัดจำหน่าย และมุ่งเพิ่มการเติบโตของรายได้จากการขยายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศกว่า 22 ประเทศทั่วโลก เพื่อก้าวสู่ Global Brand ในอนาคต

นายทินพันธุ์ หวั่งหลี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า TMAN เป็นกลุ่มบริษัทฯ ที่ดำเนินธุรกิจผลิต และจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพชั้นนำของประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในผู้นำการคิดค้น วิจัยและพัฒนาเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเหมาะสมกับภาวะการณ์ เทรนด์การดูแลสุขภาพในเชิงป้องกันและการรักษา โดยเดินหน้ายกระดับศูนย์วิจัยและพัฒนารวมทั้งโรงงานผลิตที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังรุกขยายธุรกิจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยการวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง จะผลักดันให้ TMAN สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ด้านนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ มองหุ้น TMAN มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ด้วยสินค้าเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่หลากหลายกว่า 842 รายการ (SKUs) โดยที่มีผลิตภัณฑ์เป็นที่นิยมในตลาดจำนวนมาก และเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง อีกทั้งวางกลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 10-12 รายการต่อปี ภายใต้การวิจัยและพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ตรงจุดและรวดเร็ว การวางกลยุทธ์มุ่งขยายกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลและการรุกขยายตลาดต่างประเทศ จะส่งผลให้ยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการกระจายสินค้าให้แก่ลูกค้าโดยตรง โดยนักวิเคราะห์ได้ประเมินมูลค่าพื้นฐานอยู่ที่ 24.0-29.5 บาทต่อหุ้น โดยคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยดังนี้ 1) การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เดิม 2) การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ของ TMAN 3) ขยายฐานลูกค้ากลุ่มลูกค้าโรงพยาบาล 4) ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 5) ผลักดันการขายในต่างประเทศเพื่อมุ่งสู่การเป็น Global Brand นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังดำเนินธุรกิจรับจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอกส่งผลให้มีข้อมูลตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคในเชิงลึกซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท ตลอดจนพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ใส่ใจสุขภาพ ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ของโลก

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๔๘ นิวซีแลนด์และไทยกระชับความสัมพันธ์ เสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ผ่านข้อตกลงบันทึกความเข้าใจในภาคส่วนสำคัญ
๑๑:๑๐ บพข. พร้อม ม.แม่โจ้ เชื่อมโยงงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ ให้นักศึกษา ISDSI ได้เรียนรู้วิถีชุมชนคาร์บอนต่ำบ้านผาปัง
๑๑:๐๒ ก.ล.ต. เตือนประชาชนระวังมิจฉาชีพใช้กลโกงหลอกลงทุน แอบอ้างชื่อผู้ประกอบธุรกิจชักชวนให้ลงทุน
๑๑:๔๑ ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติด้านสมาร์ทซิตี้ระดับโลก
๑๑:๕๓ Terra Nova ฉลองครบรอบ 2 ปี เปิดเมนูใหม่อิตาเลียนสไตล์โมเดิร์นกว่า 20 รายการ การันตีทุกคำอร่อยโดนใจ!
๑๑:๔๐ TMAN ชูศักยภาพผู้นำนวัตกรรมสุขภาพ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น ปักธงลงทุนยกระดับเทคโนโลยีการผลิต พัฒนานวัตกรรมยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนหลังเข้าเทรด
๑๑:๔๕ โครงการพัฒนาศักยภาพ และเชื่อมโยงเครือข่าย เพื่อโอกาสการขยายธุรกิจไทย - ญี่ปุ่น สู่ตลาดสากล ตามแนวทาง OTAGAI รุ่นที่
๑๑:๓๗ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมยินดี The Cosmo Clinic คลินิกความงามพร้อมให้บริการด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย
๑๑:๒๙ ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผลวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567
๑๑:๓๕ ทีทีบี ห่วงใยลูกค้าปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% พร้อมขยายอายุมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง เพื่อลดภาระหนี้และพยุงสภาพคล่อง