รายงานเผย "เฟดเอ็กซ์ เอฟเฟ็กต์" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกด้วยความชาญฉลาดทางธุรกิจและการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

พฤหัส ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ ๑๓:๓๒
เฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (FedEx Corp.) (NYSE: FDX) เปิดเผยรายงานผลกระทบทางเศรษฐกิจประจำปี โดยการวิเคราะห์จากเครือข่ายทั่วโลกของบริษัทฯ และบทบาทในการขับเคลื่อนการเติบโตระดับชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2567[1] รายงานนี้จัดทำขึ้นภายใต้คำแนะนำจาก ดัน แอนด์ แบรดสตรีต (Dun & Bradstreet) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจชั้นนำของโลก ซึ่งเน้นย้ำถึง "เฟดเอ็กซ์ เอฟเฟ็กต์" (FedEx Effect) หรือผลกระทบจากการดำเนินงานของ เฟดเอ็กซ์ ที่ช่วยผลักดันการไหลเวียนของสินค้าและแนวทาง เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก
รายงานเผย เฟดเอ็กซ์ เอฟเฟ็กต์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกด้วยความชาญฉลาดทางธุรกิจและการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

"เฟดเอ็กซ์ มีวิสัยทัศน์ในการทำให้ระบบห่วงโซ่อุปทานมีความชาญฉลาดและตอบสนองต่อความต้องการของทุกคน ผ่านการพัฒนาข้อมูลและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพื่อส่งมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าของเราและลูกค้าของบริษัทต่าง ๆ ส่งผลให้เราสามารถขยายขอบเขตการดำเนินงานและสร้างผลกระทบเชิงบวกสู่สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ" ราช สุบรามาเนียม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น กล่าว " 'เฟดเอ็กซ์ เอฟเฟ็กต์' เป็นเสมือนตัวแทนของความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดยั้งของเราในการนำไปสู่ความเป็นเลิศ การเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงการขับเคลื่อนชุมชนที่เราอาศัยและดำเนินงานอยู่ให้พัฒนายิ่งขึ้น"

รายงานนี้เผยว่า เฟดเอ็กซ์ มีส่วนช่วยในการสร้างผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจโลกในปีงบประมาณ 2567 มากกว่า 85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 0.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมทางเศรษฐกิจของโลก[2] ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงขนาดเครือข่ายของ เฟดเอ็กซ์ และความพยายามอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ในการพัฒนาการบริการที่ทันสมัย เพื่อช่วยเหลือธุรกิจทุกขนาดให้สามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าและเสริมสร้างการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย เฟดเอ็กซ์ มีเครือข่ายการขนส่งที่กว้างขวางที่สุดในโลก ส่งมอบการบริการมากกว่า 220 ประเทศและเขตปกครอง ยิ่งไปกว่านั้น เฟดเอ็กซ์ ยังมีพนักงานมากกว่า 500,000 คน ผ่านศูนย์กระจายสินค้ามากกว่า 5,000 แห่ง ที่จัดส่งพัสดุกว่า 16 ล้านชิ้นต่อวัน

ผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนับเป็นศูนย์กลางของโอกาสทางเศรษฐกิจทั่วโลก ด้วยการเติบโตที่รวดเร็วในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก เช่น จีน และญี่ปุ่น รวมถึงในตลาดที่กำลังพัฒนา เช่น เวียดนาม ไทย และอินโดนีเซีย เฟดเอ็กซ์ มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการค้าผ่านเครือข่ายการขนส่งทางบกและทางอากาศที่ครอบคลุม 43 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและเขตปกครอง โดยในปีงบประมาณ 2567 เฟดเอ็กซ์ มีส่วนช่วยโดยตรงในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในภาคการขนส่ง การเก็บรักษา และการสื่อสาร คิดเป็น 0.2% นอกจากนี้ เฟดเอ็กซ์ ยังมีส่วนช่วยในการสนับสนุนภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคดังกล่าวถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 เช่นเดียวกัน

"เราเล็งเห็นบทบาทสำคัญและการมีส่วนร่วมของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกท่ามกลางเศรษฐกิจโลก และเรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนภูมิภาคนี้ให้เติบโตยิ่งขึ้น" คาวาล พรีท ประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เฟดเอ็กซ์ กล่าว "ด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการกระจายเครือข่ายภายในภูมิภาคและทั่วโลก เราพร้อมผลักดันกลุ่มธุรกิจด้วยการเปิดโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ พร้อมทำให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นศูนย์กลางการลงทุนระหว่างประเทศ นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นในการก้าวเข้าสู่เวทีการค้าสากล เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับชุมชน ลูกค้า และธุรกิจทั่วภูมิภาค"

ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจของเฟดเอ็กซ์ในภูมิภาคนี้ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ

  • การค้า: การสนับสนุนนโยบายการค้าของ เฟดเอ็กซ์ ที่ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ในการเชื่อมต่อผู้คนและโอกาสทั่วโลก ขณะที่ประเทศต่าง ๆ เช่น เวียดนาม ได้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยี ชิปเซมิคอนดักเตอร์ สิ่งทอ และอื่น ๆ เฟดเอ็กซ์ ได้มีการพัฒนาการเชื่อมต่อภายในภูมิภาค ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มเที่ยวบินใหม่จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์จากเมืองโฮจิมินห์ไปยังศูนย์กลางกระจายสินค้าเอเชียแปซิฟิกของ เฟดเอ็กซ์ ณ เมืองกวางโจว ประเทศจีน
  • การยกระดับการดำเนินงาน: เฟดเอ็กซ์ ขับเคลื่อนการดำเนินงานภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง และจัดตั้งสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ณ สิงคโปร์ นอกจากนี้ เฟดเอ็กซ์ ยังได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการการขนส่งระหว่างประเทศที่เมืองเซินเจิ้น (Shenzhen International Gateway) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการคัดแยกพัสดุเป็นสองเท่า และยังเริ่มก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติการภาคใต้ของประเทศจีนแห่งใหม่ (South China Operations Center) ณ เมืองกวางโจว ซึ่งสามารถคัดแยกพัสดุและเอกสารได้สูงสุดถึง 25,000 ชิ้นต่อชั่วโมง คิดเป็นสามเท่าของการคัดแยกพัสดุที่ศูนย์ปฏิบัติการกวางโจว (FedEx Guangzhou Gateway) ในปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายศูนย์การขนส่งสินค้าที่ ฟาร์กลอรี่ แอร์ คาร์โก้ พาร์ค (Farglory Air Cargo Park) ณ สนามบินนานาชาติไต้หวันเถาหยวน การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเหล่านี้จะช่วยตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านโซลูชันการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพได้ในอนาคต
  • ความยั่งยืน: เฟดเอ็กซ์ ลงทุนในพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำพลังงานเหล่านี้ไปใช้ในการดำเนินงานต่าง ๆ ภายในบริษัทฯ เช่น บริการรับ-ส่งพัสดุด้วยรถยนต์ไฟฟ้า และการวิจัยกักเก็บคาร์บอนเพื่อพัฒนาวิธีการดักจับคาร์บอนตามธรรมชาติในอุตสาหกรรมการขนส่ง ในปีงบประมาณ 2567 เฟดเอ็กซ์ ได้เปิดโรงงานอนุรักษ์พลังงานแห่งใหม่ ณ ประเทศสิงคโปร์ จีน และออสเตรเลีย รวมถึงเพิ่มรถสามล้อไฟฟ้าจำนวน 5 คันสำหรับบริการรับ-ส่งพัสดุที่ไต้หวัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการส่งพัสดุข้ามพรมแดนเป็นครั้งแรก โดยการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจากมาเลเซียสู่สิงคโปร์ ซึ่งการใช้รถไฟฟ้าในระยะทาง 252 ไมล์อันเป็นประวัติการณ์นี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากท่อไอเสียได้ถึง 220 ปอนด์ เมื่อเทียบกับการใช้รถยนต์ดีเซลในเส้นทางเดียวกัน ความสำเร็จครั้งนี้ส่งผลให้ เฟดเอ็กซ์ ได้รับการบันทึกในหนังสือรวบรวมสถิติของประเทศมาเลเซีย (Malaysian Book of Records) ในฐานะ "การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ครั้งแรกในประเทศมาเลเซีย"
  • ห่วงโซ่อุปทาน: รายจ่ายในการจัดซื้อวัสดุของ เฟดเอ็กซ์ มีความสำคัญอย่างมากต่อตลาดธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SAM) โดยในปี 2566 งบประมาณรายจ่ายการจัดซื้อวัสดุของ เฟดเอ็กซ์ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จำนวน 68% ถูกนำไปใช้สนับสนุนกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ส่งผลให้เกิดการจ้างงานภายในกลุ่มธุรกิจขนาดย่อมภายในภูมิภาคเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
  • ธุรกิจขนาดเล็ก: เฟดเอ็กซ์ ช่วยสนับสนุนกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้มีการเติบโตและการขยายสู่ตลาดสากล โดยผลักดันให้เกิดการสร้างงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งนี้ นอกจากโซลูชันเฉพาะสำหรับกลุ่มธุรกิจ SAM บริษัทฯ ยังช่วยขับเคลื่อนธุรกิจดังกล่าวผ่านโครงการให้ทุนธุรกิจขนาดเล็ก (Small Business Grant) เพื่อยกย่องและมอบเงินทุน มุ่งสร้างการเติบโตให้แก่ผู้ประกอบการ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีบริษัท 4 แห่งจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ที่ได้รับรางวัลรวมมูลค่า 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยผู้ชนะที่ได้รับรางวัลใหญ่มูลค่า 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ คือ ลูเซนซ์ (Lucence) บริษัทสตาร์ทอัพด้านมะเร็งวิทยาจากสิงคโปร์ที่กำลังพัฒนาการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งซึ่งปราศจากอันตราย และยังสามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ
  • การให้คืนสู่ชุมชน: เฟดเอ็กซ์ สนับสนุนชุมชนท้องถิ่นผ่านโครงการ FedEx Cares โดยมุ่งเน้นการบริจาคเพื่อการกุศล งานจิตอาสาจากพนักงาน และการให้บริการจัดส่งทั่วโลกโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในปีงบประมาณ 2567 บริษัทฯ ได้บริจาคเงินมากกว่า 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับองค์กรการกุศลและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กิจกรรมนี้ยังรวมถึงการบริจาคชุดยูนิฟอร์มที่ไม่ใช้แล้วให้กับองค์กรในประเทศจีน การสนับสนุนค่าใช้จ่ายทางการศึกษาให้กับผู้หญิงที่ลงทะเบียนเรียนวิชาวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคแห่งฟิลิปปินส์ (Polytechnic University of the Philippines) การบริจาคคอมพิวเตอร์และโปรแกรมซอฟต์แวร์ให้กับนักเรียนในเมืองจาการ์ตา และการติดตั้งสถานีซ่อมรถจักรยานในประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้สนับสนุนการฝึกทักษะการเป็นผู้ประกอบการให้กับเยาวชนผ่านโครงการภูมิภาค จูเนียร์ อะชีฟเม้นท์ (JA) และร่วมเป็นอาสาสมัครในโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การปลูกต้นไม้ในจีนและสิงคโปร์ การสร้างสวนในเมืองที่มาเลเซีย การทำจิตอาสาในธนาคารอาหารและการเก็บขยะที่ออสเตรเลีย และโครงการห้องสมุดในประเทศจีน

อ่านรายงานผลกระทบทางเศรษฐกิจโลกของ เฟดเอ็กซ์ (FedEx Global Economic Impact Report) ประจำปีงบประมาณ 2567 ฉบับเต็ม และศึกษา เฟดเอ็กซ์ เอฟเฟ็กต์ (FedEx Effect) ระดับชุมชนในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกเพิ่มเติมได้ที่ FedEx | Economic Impact Report

[1] ปีงบประมาณ 2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2566 - 31 พฤษภาคม 2567

[2] ผลิตภัณฑ์มวลรวมทางเศรษฐกิจของโลกสำหรับปีงบประมาณ 2567 ถูกประมาณการจากมูลค่าเพิ่มโดยรวมและภาคอุตสาหกรรมจากการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) และใช้การคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจที่เผยแพร่โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

ที่มา: Vero

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๐๗ น้ำมันเครื่องคาลเท็กซ์ สนับสนุนผลิตภัณฑ์คุณภาพ ระดมทีม และเครื่องจักร ช่วยเหลือฟื้นฟู ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
๑๕:๓๗ MAGURO เปิดตัว The Flavorhood ฟู้ดเดสติเนชันใหม่ บนประดิษฐ์มนูธรรม พบกับร้านมากุโระ ร้านฮิโตริ ชาบู และแบรนด์ใหม่ที่พร้อมเปิดบริการเร็วๆ นี้ คอลแลบ กับ Guss Damn Good รังสรรค์ไอศกรีม
๑๕:๕๖ เอกนัฏ นำทีม ดีพร้อม ผนึกกำลัง จังหวัดโทคุชิมะ ลงนามความร่วมมือ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยุคใหม่ ผลักดันเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่นโตอย่างยั่งยื
๑๕:๒๓ LINE STICKERS จับมือ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เอาใจด้อม 'หมูเด้ง' ส่งเซ็ตสติกเกอร์สุดคิวท์ เด้งเกินต้าน
๑๕:๕๗ BRR ปลื้มคว้าคะแนน CGR ดีเลิศ ระดับ 5 ดาว ต่อเนื่องปีที่ 7 ตอกย้ำมาตรฐานธุรกิจโปร่งใสยั่งยืน
๑๕:๒๐ Prince of Eurasia ภาพยนตร์สารคดีที่จะเปิดเผยเรื่องราวอันน่าทึ่งของ Prince Oak Oakleyski
๑๕:๒๘ โฮมโปร เผยกำไรสุทธิ 4,776.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.41 ล้านบาท หรือ 0.26% จากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน
๑๕:๑๗ PHOL รับรางวัลผลการดำเนินงานโดดเด่นในงาน SET Awards 2024
๑๕:๒๗ ดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ
๑๕:๕๐ VIH คว้า 5 ดาว CGR 2024 ติดต่อกันเป็นปีที่ 7ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการกำกับดูแลกิจการ