ผลสำรวจ เฟดเอ็กซ์ เผย กลุ่มธุรกิจและผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก เชื่อมั่นว่ายอดขายช่วงเทศกาลจะมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น

อังคาร ๐๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ๑๐:๔๖
ยอดขายของธุรกิจส่วนใหญ่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นในเอเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชี้ผู้บริโภคออนไลน์กว่า 70% มีแรงจูงใจซื้อจากส่วนลดและโปรโมชั่นสุดพิเศษในช่วงเทศกาล
ผลสำรวจ เฟดเอ็กซ์ เผย กลุ่มธุรกิจและผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก เชื่อมั่นว่ายอดขายช่วงเทศกาลจะมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น

เฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (Federal Express Corporation) หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการขนส่งสินค้าด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เผยข้อมูลจากผลสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มการจับจ่ายซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลปีนี้ภายในตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ต้อนรับฤดูกาลชอปปิงช่วงเทศกาลที่กำลังเริ่มต้นขึ้น

แบบสำรวจนี้จัดทำขึ้นในเดือนตุลาคม 2567 โดยการรวบรวมคำตอบจากกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จำนวน 200 แห่ง และผู้บริโภคจำนวน 300 คน ใน 12 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เกี่ยวกับความต้องการ แรงจูงใจในการซื้อ และข้อกังวลของผู้บริโภคในช่วงเทศกาล ตลอดจนแนวโน้มสำคัญที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค

จากผลสำรวจ พบว่า 70% ของกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs คาดหวังให้ยอดขายเติบโตขึ้นในช่วงเทศกาลเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเกือบ 80% คาดการณ์ว่ายอดขายจะเติบโตขึ้นจากภายในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดโดยรวม เนื่องจากตลาดอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตขึ้นระดับสองหลักในปี 2567 ตามการเพิ่มขึ้นของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการค้าระหว่างประเทศ อีกทั้ง การค้าภายในภูมิภาคเอเชียยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์ว่ามูลค่าทางการค้าจะพุ่งทะลุถึง 13.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2573

ผลสำรวจยังเผยถึงโอกาสเติบโตสำคัญสำหรับกลุ่ม SMEs ว่า

ผู้บริโภคมากกว่าครึ่ง (57%) ชื่นชอบการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ โดยที่ 70% ของผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวระบุว่าส่วนลดและโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลเป็นแรงจูงใจสำคัญในการซื้อสินค้า
การจัดส่งสินค้าฟรียังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่เสริมสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้า รวมถึงกระตุ้นการตัดสินใจในการซื้อของผู้บริโภค โดยผู้บริโภคคาดหวังว่าจะได้รับสินค้าที่สั่งซื้อภายใน 2-3 วันทำการ พร้อมด้วยทางเลือกการจัดส่งที่สะดวกสบาย
ผู้บริโภคต้องการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่คำนึงถึงความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น โดยผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อซื้อของขวัญ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้กับธุรกิจในการสร้างความแตกต่างให้กับร้านค้าของตนเองให้โดดเด่นท่ามกลางตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีการแข่งขันสูง ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่ตอบสนองต่อความต้องการด้านความยั่งยืน
"ฤดูกาลแห่งการมอบของขวัญภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เทศกาลคริสต์มาสไปจนถึงเทศกาลตรุษจีน" คาวาล พรีท ประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เฟดเอ็กซ์ กล่าว "ด้วยการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ ผู้ค้าปลีกออนไลน์ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ต่างเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มยอดขายในช่วงเทศกาลปีนี้ ด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมและโซลูชันดิจิทัลอันชาญฉลาดของเรา เรามุ่งมั่นที่จะช่วยธุรกิจเหล่านี้ให้สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้บริโภค จัดการการขนส่งในช่วงเทศกาลได้อย่างราบรื่น และเติบโตในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการสำรวจ:

SMEs จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากช่องทางอีคอมเมิร์ซในการเพิ่มยอดขาย

อีคอมเมิร์ซยังคงครองส่วนแบ่งในตลาดการค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลสำรวจพบว่า มากกว่า 87% ของกลุ่ม SMEs ใช้ช่องทางแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในการขยายฐานผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสทางการขาย โดยมีเทศกาลสำคัญในการซื้อสินค้าออนไลน์ เช่น วันคนโสด (Double Eleven), แบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) และไซเบอร์มันเดย์ (Cyber Monday)
มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการซื้อสินค้าของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้บริโภคมากกว่าครึ่ง (57%) ชื่นชอบการสั่งซื้อสินค้าบนช่องทางอีคอมเมิร์ซ ซึ่ง 70% ของผู้บริโภคดังกล่าวได้รับแรงจูงใจในการซื้อจากส่วนลดและโปรโมชั่น แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเทศกาลต่าง ๆ ต่อผู้ค้าปลีกออนไลน์และผู้บริโภค

นอกจากนี้ ผู้ค้าปลีกออนไลน์ยังพัฒนาวิธีการขายที่ตอบสนองต่อผู้บริโภคโดยเฉพาะ เช่น การขายสินค้าผ่านการไลฟ์สตรีมมิ่ง (Live Streaming) การสาธิตผลิตภัณฑ์ รวมถึงข้อเสนอสุดพิเศษบนช่องทางโซเชียลมีเดีย ผลสำรวจยังเผยให้เห็นอีกว่า ผู้ประกอบการ SMEs ให้ความสำคัญกับบริการขนส่งที่เชื่อถือได้ การตั้งราคาตามการแข่งขันในตลาด และการใช้เครื่องมือดิจิทัลที่ตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งระหว่างประเทศในช่วงที่มียอดสั่งซื้อสูง โดย 48% ของผู้ค้าปลีกออนไลน์ยังต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติมจากผู้ให้บริการขนส่ง เพื่อช่วยจัดการการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาล

โซลูชันอีคอมเมิร์ซที่ครอบคลุมของ เฟดเอ็กซ์ ช่วยให้ผู้ค้าปลีกออนไลน์จัดการคำสั่งซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ ร่วมมือกับตลาดอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่าง Shopify และ BigCommerce พร้อมพัฒนา FedEx Ship Manager (FSM) เพื่อให้ผู้ประกอบการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสามารถจัดส่งและจัดการเอกสารได้โดยตรงเมื่อมีคำสั่งซื้อออนไลน์เข้ามา ระบบนี้ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการช่วยเหลือผู้ค้าปลีกออนไลน์ ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้งานสะดวกและลดขั้นตอนที่ซับซ้อน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่มีคำสั่งซื้อจำนวนมาก

บริการการจัดส่งที่ตอบโจทย์ ช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้า

นอกเหนือจากส่วนลดและโปรโมชั่นช่วงเทศกาล การจัดส่งยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าแก่ผู้บริโภค โดย 65% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ตัวเลือกการจัดส่งสินค้าฟรีถือเป็นแรงจูงใจสำคัญในการตัดสินใจซื้อ อย่างไรก็ตาม การจัดส่งที่ล่าช้าก็ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ โดย 54% ของผู้บริโภคมองว่า ความล่าช้าในการจัดส่งคือปัญหาหลักในช่วงเทศกาล นอกจากนี้ 60% ของผู้บริโภค คาดหวังให้สินค้าจัดส่งถึงมือภายใน 2-3 วันทำการ และ 45% ให้ความสำคัญกับตัวเลือกการจัดส่งที่สะดวกสบายเพื่อยกระดับประสบการณ์การซื้อสินค้าของตน

เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค บริการจัดส่งอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศอย่าง FedEx(R) International Connect Plus (FICP) สามารถช่วยให้ผู้ค้าปลีกออนไลน์จัดส่งสินค้าภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยบริการจัดส่งนี้มีความคุ้มราคา และใช้ระยะเวลาจัดส่งภายใน 1-3 วันทำการ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการบริการการจัดส่งที่รวดเร็ว

เฟดเอ็กซ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการขนส่งถึงมือผู้รับปลายทาง (Last-mile Delivery) จึงสร้างเครือข่ายตู้รับพัสดุอัจฉริยะจำนวนกว่า 260,000 จุดทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าสินค้าจะถูกจัดส่งอย่างปลอดภัยแม้ในกรณีที่ไม่มีผู้รับพัสดุ นอกจากนี้ ตัวเลือกการจัดส่งถึงมือผู้รับปลายทางที่สามารถปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการ การส่งข้อความโดยตรง และการติดตามสถานะการจัดส่งที่สะดวกสบายผ่านเครื่องมือดิจิทัล เช่น FedEx(R) Delivery Manager International และ Picture of Proof Delivery ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าสินค้าได้ถูกส่งถึงจุดหมายปลายทางตามบ้านอย่างถูกต้องด้วยเช่นกัน

ผู้บริโภคต้องการทั้งความยั่งยืนและความรวดเร็ว

ท่ามกลางตลาดที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน ธุรกิจต่าง ๆ มีโอกาสเพิ่มขึ้นในการสร้างความแตกต่างให้กับร้านค้าของตนเอง ด้วยการนำเสนอตัวเลือกการสั่งซื้อที่ยั่งยืน ในขณะที่ 47% ของผู้ประกอบการ SMEs เชื่อว่าผู้บริโภคมองหาความสมดุลระหว่างความยั่งยืนและความรวดเร็วในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ แต่ก็มีผู้บริโภคถึง 88% ที่ระบุถึงความต้องการในการให้ร้านค้าพัฒนาวิธีการสั่งซื้อออนไลน์ที่คำนึงถึงความยั่งยืนมากขึ้นเพื่อให้โดดเด่นจากร้านค้าคู่แข่งอื่น ๆ

ทั้งนี้ ผู้บริโภคยังมีแนวโน้มที่จะสนใจในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าวิธีการขายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถช่วยเพิ่มความภักดีของผู้บริโภคต่อแบรนด์ได้ โดย 77% ของผู้ซื้อยินดีที่จะจ่ายค่าบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนเมื่อซื้อของขวัญ สะท้อนความพร้อมในการสนับสนุนตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือกของกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ในการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แต่เป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการตัดสินใจซื้อสำหรับผู้บริโภค โดยกลุ่ม SMEs สามารถสร้างผลกระทบที่เป็นรูปธรรมได้ด้วยการประเมินระบบ
โลจิสติกส์ในห่วงโซ่อุปทาน และการใช้เครื่องมือ FedEx(R) Sustainability Insights เพื่อตรวจวัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการจัดส่ง ช่วยให้การติดตามและการรายงานความเคลื่อนไหวของพัสดุเป็นไปอย่างง่ายดาย และโปร่งใสมากยิ่งขึ้น

ที่มา: วีโร่ พับลิค รีเลชั่นส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ