'เอส แอนด์ พี' ร่วมกับ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ ขยายโครงการ S&P Food Rescue อีก 44 แห่ง เพื่อบริหารจัดการเบเกอรี่ส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด

พุธ ๐๖ พฤศจิกายน ๒๐๒๔ ๑๓:๔๒
บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (เอส โอ เอส) ดำเนินโครงการ S&P Food Rescue อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยมีแผนขยายจุดรับเบเกอรี่เอส แอนด์ พี เพิ่ม 44 จุด รวมทั้งสิ้น 88 จุดขายในเดือนตุลาคม 2567 เพื่อส่งต่อเบเกอรี่ส่วนเกินจากการผลิตในแต่ละวันผ่านมูลนิธิ เอส โอ เอส ไปบริจาคแก่ชุมชนที่ขาดแคลน ซึ่งเป็นการบริหารจัดการอาหารส่วนเกินจากการผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยลดการสร้างผลกระทบต่อโลกจากภาวะก๊าซเรือนกระจก
'เอส แอนด์ พี' ร่วมกับ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ ขยายโครงการ SP Food Rescue อีก 44 แห่ง เพื่อบริหารจัดการเบเกอรี่ส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด

มณีสุดา ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร กล่าวถึงการขยายโครงการ S&P Food Rescue ว่า "เอส แอนด์ พี ตั้งเป้าหมายเพื่อควบคุมเบเกอรี่ส่วนเกินจากการผลิตไม่เกิน 4.5% จากยอดขายเบเกอรี่ ภายในปี 2573 รวมถึงยังมีเป้าหมายการเพิ่มความร่วมมือด้านการบริโภคอย่างยั่งยืน ด้วยการบริหารจัดการเบเกอรี่ส่วนเกินจากการผลิตให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม 30% ภายในปี 2573 โดยบริษัทฯ ดำเนินโครงการ S&P Food Rescue ร่วมกับได้ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ พันธมิตรด้านความยั่งยืนช่วยส่งต่อเบเกอรี่ส่วนเกินจากการผลิตในแต่ละวันให้แก่ชุมชนผู้ขาดแคลนตามแหล่งต่างๆ ซึ่งได้หมุนเวียนผู้รับไปในชุมชนทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต และประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากเราตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ โดยขยะอาหารเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญ หากมีการบริหารจัดการขยะที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซมีเทนสู่ชั้นบรรยากาศ ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน

บริษัทฯ ดำเนินโครงการ S&P Food Rescue ในร้านอาหารและเบเกอรี่ช้อพ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 จำนวน 10 จุด และได้มีการขยายโครงการมาอย่างต่อเนื่อง จนในวันที่ 15 ตุลาคม 2567 บริษัทฯ ขยายโครงการเพิ่มอีก 44 จุดขาย รวมร้านอาหารและเบเกอรี่เอส แอนด์ พี เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 88 จุดขาย ทั้งนี้ ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน เอส แอนด์ พี บริจาคเบเกอรี่ส่วนเกินจากการผลิตผ่านมูลนิธิเอส โอ เอส ไปแล้ว จำนวน 168,775 มื้อ สามารถลดขยะอาหารได้ถึง 40,184.32 กิโลกรัม ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 101.67 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

บริษัทฯ ตระหนักถึงความปลอดภัยของอาหารเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด โดยก่อนเริ่มโครงการได้มีการจัดประชุมเตรียมความพร้อมให้แก่พนักงานร้านเอส แอนด์ พี เพื่อให้พนักงานของเราจัดเก็บเบเกอรี่อย่างถูกสุขลักษณะ พร้อมส่งมอบเบเกอรี่คุณภาพดีให้แก่ชุมชน และยังหวังว่าโครงการนี้ จะช่วยสร้างความสุข และเพิ่มการเข้าถึงอาหารคุณภาพดี มีคุณค่าได้อย่างเท่าเทียม เพื่อเป็นพลังให้แก่คนในสังคมไทยได้"

นอกจากนี้ จากการดำเนินโครงการดังกล่าว เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2567 บริษัทฯ ยังได้เข้าร่วม "กิจกรรมส่งมอบอาหารส่วนเกินที่มีความปลอดภัยสู่ผู้ขาดแคลน" ในฐานะผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการส่งต่อเบเกอรี่ส่วนเกินจากการผลิตที่มีคุณภาพดี สามารถรับประทานได้ จัดโดย คณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต ร่วมกับ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ ณ ศูนย์ประสานงาน วัดจันทร์ประดิษฐาราม กรุงเทพฯ

เอส แอนด์ พี ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกับพันธมิตรเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด คำนึงถึงผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ที่มา: เอส แอนด์ พี ซินดิเคท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๐ เขตบึงกุ่มแจงประเด็นร้องเรียน - สร้างความเข้าใจการสั่งรื้ออาคารต่อเติมปากซอยนวมินทร์ 24
๑๖:๑๓ MOTHER เปิดฉากเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ดีเดย์โรดโชว์ออนไลน์ 22 ม.ค.68
๑๖:๐๑ M STUDIO ขึ้นแท่นสตูดิโอผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหนังไทยอันดับ 1
๑๖:๐๐ จับตา จัดเก็บภาษีความเค็มขนมขบเคี้ยว เพิ่มทางเลือกสุขภาพ ลดเสี่ยงโรค NCDs
๑๕:๐๐ จุฬาฯ ร่วมกับ PMCU ชวนน้องๆนิสิต นักศึกษาทุกมหาวิทยาลัย ส่งผลงานออกแบบปรับปรุงภูมิทัศน์ อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ ประกวดภายใต้แนวคิด Chula For
๑๕:๐๐ กลุ่มสมอทอง เข้าร่วมโครงการ Kick off การขับเคลื่อนปาล์มน้ำมัน
๑๕:๐๐ สจส. เร่งสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารหน้าตลาดมีนบุรี
๑๕:๒๐ ลีเอนจาง คลินิก ตอกย้ำความเป็นผู้นำในวงการความงาม คว้ารางวัล Silver Shine ประเดิมศักราชใหม่! ในงาน Nebula Nova: The New Star of
๑๔:๑๗ กลุ่มไทยรุ่งเรือง ส่งน้ำตาลแบรนด์ ษฎา สร้างสีสันงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช 2568 พร้อมเปิดตัวน้ำตาลกรวดธรรมชาติ
๑๔:๔๓ อลิอันซ์เปิด Allianz Risk Barometer 2025 เผยปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจไทยชูอัคคีภัยและการระเบิดขึ้นแท่นความเสี่ยงอันดับหนึ่งทางธุรกิจ