"เอกนัฏ" มุ่ง เซฟ SME ไทยให้ดีพร้อม ยกระดับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ในงานเสวนาสภา SME ไทย

ศุกร์ ๐๘ พฤศจิกายน ๒๐๒๔ ๐๙:๑๗
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งขับเคลื่อนนโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส" มุ่ง "เซฟ" SME ไทย สร้างความเท่าเทียมในการแข่งขัน ร่วมกับสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยผ่าน 5 แนวทาง ดังนี้ 1) ปกป้อง SME ไทยจากคลื่นการลงทุนของบริษัทข้ามชาติและการทุ่มตลาดของสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ 2) ยกระดับขีดความสามารถของ SME ไทยให้สามารถแข่งขันได้และทันต่อเศรษฐกิจยุคใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 3) ริเริ่มนิคมอุตสาหกรรม SME 4) ผลักดันการขับเคลื่อนมาตรการ "Made by Thais" และ "SME GP" และ 5) จัดตั้ง SME War Room เพื่อช่วย SME ไทยแก้ปัญหาให้สามารถก้าวข้ามข้อจำกัด และความท้าทายต่าง ๆ เพื่อเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
เอกนัฏ มุ่ง เซฟ SME ไทยให้ดีพร้อม ยกระดับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ในงานเสวนาสภา SME ไทย

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างรายได้จากการส่งออก การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ และพัฒนาเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ การส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ยานยนต์แห่งอนาคต รวมถึงการยกระดับภูมิปัญญาไทยไปสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุน Soft Power ของประเทศ จะเป็นส่วนสำคัญในการเร่งให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง และพัฒนาให้เป็นผู้เล่นสำคัญในเวทีเศรษฐกิจโลกต่อไป ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม ตระหนักถึงความสำคัญของ SME ในฐานะฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของไทย จึงได้มีการกำหนดนโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส" เพื่อมุ่งเน้นการปฏิรูปภาคอุตสาหกรรมใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ "สู้" เพื่อจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นพิษ "เซฟ" เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย สร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SME ไทย และ "สร้าง" เพื่อสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่

นายเอกนัฏ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้นโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ฯ" กระทรวงอุตสาหกรรมจะเดินหน้าเซฟ SME ไทย สร้างความเท่าเทียมในการแข่งขัน เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากลและเติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมกับสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยที่ได้รวบรวมผู้ประกอบการขนาดย่อมในการขับเคลื่อนให้เป็นผู้ประกอบการกลางและขนาดใหญ่ เพื่อมุ่งสู่อุตสาหกรรมใหม่ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ 1) ปกป้อง SME ไทยจากคลื่นการลงทุนของบริษัทข้ามชาติและการทุ่มตลาดของสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ โดยการพิจารณากำหนด หรือ ปรับปรุง มาตรการ กฎระเบียบ และสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องให้มีความครอบคลุม สร้างระบบนิเวศการแข่งขันที่มีความเท่าเทียม โดยเฉพาะการตรวจบังคับด้านมาตรฐานสินค้า และสร้างความเท่าเทียมด้านภาษีระหว่างร้านค้าที่มีหน้าร้านในไทย ผู้ประกอบการออนไลน์ที่อยู่ในไทยและผู้ประกอบการออนไลน์ต่างประเทศ

2) ยกระดับขีดความสามารถของ SME ไทยให้สามารถแข่งขันได้และทันต่อเศรษฐกิจยุคใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านกลไกการส่งเสริมของกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานพันธมิตร โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ SME ไทยให้สามารถแข่งขันได้ทัดเทียมกับนานาประเทศ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือกันระหว่างภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานระดับกระทรวงและกรมที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนร่วมกัน 3) ริเริ่มนิคมอุตสาหกรรม SME เพื่อสนับสนุนการสร้างห่วงโซ่อุปทาน 4) ผลักดันการขับเคลื่อนมาตรการ "Made by Thais" และ "SME GP" เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเลือกผลิตภัณฑ์ของ SME ไทยในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ตลอดจนการอุปโภค บริโภคทั่วไป และ 5) จัดตั้ง SME War Room ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนกระบวนการยกระดับขีดความสามารถ แก้ไขปัญหา และสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันให้กับ SME ทั้งระบบ

"ผมขอยืนยันว่ากระทรวงอุตสาหกรรมมีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนหลักในการยกระดับ SME ไทยสู่เวทีการแข่งขันระดับโลก ผ่านการผลักดันนโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ฯ" และกลไกการดำเนินงานสำคัญตามที่ได้กล่าวไป กระทรวงอุตสาหกรรมมองเห็นอนาคตที่ SME ไทยจะเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรม เป็นต้นแบบของการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจยุคใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประกอบกับความร่วมมือ และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐ และภาคเอกชน จะทำให้ SME ไทยได้รับการยกระดับให้สามารถก้าวข้ามข้อจำกัด และความท้าทายต่าง ๆ เพื่อเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน" นายเอกนัฏ กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: โมเดิร์นเทียร์

เอกนัฏ มุ่ง เซฟ SME ไทยให้ดีพร้อม ยกระดับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ในงานเสวนาสภา SME ไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๑ วช. ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่ 'ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5' มุ่งลดฝุ่นพิษภาคเหนืออย่างยั่งยืน
๑๘:๐๘ TKS จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2568 ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.33 บ./หุ้น
๑๘:๔๙ STECH จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 แจกปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.034 บาท
๑๘:๒๒ SGP จัดประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติเคาะปันผลครึ่งปีหลัง 0.20 บาท/หุ้น
๑๘:๐๖ ผู้ถือหุ้น FLOYD พร้อมใจเห็นชอบ ไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.08 บาท/หุ้น
๑๘:๑๑ TEKA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 พร้อมไฟเขียวจ่ายปันผล 0.155 บาท
๑๘:๒๓ BRR จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นเคาะจ่ายปันผล 0.50 บาท/หุ้น
๑๘:๓๘ กลุ่มเหล็กรุ่นใหม่ เข้าพบ 'เอกนัฏ' ประสานเสียงให้กำลังใจ ดันยกเลิกเหล็ก IF กันเหล็กนำเข้าไร้มาตรฐาน
๑๘:๑๘ ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ เอเชีย เอรา วัน และกรมป่าไม้ จัดกิจกรรมรักษ์โลก สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
๑๗:๒๘ LPH ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห. ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.10 บ./หุ้น