อแมนดา เดนนิสัน ครูใหญ่และครูผู้บริหารรุ่นก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส กล่าวว่า "โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส ให้ความสำคัญกับการสร้างรากฐานการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งให้เด็กตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยการออกแบบหลักสูตรที่ให้เด็กเป็นผู้นำในการเรียนรู้ และสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนเชิงบวกที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของเด็กให้ครบทุกด้าน การขยายอาคารใหม่ของสาขาซิตี้แคมปัสครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนว่าเรามุ่งมั่นมอบการศึกษาระดับพรีเมียมให้เด็กได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ อีกทั้งยังเพื่อตอบรับกับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นทุกปีของผู้ปกครองที่ต้องการส่งบุตรหลานวัยอนุบาลเข้ามาเรียนที่ซิตี้แคมปัส ซึ่งปีนี้และปีต่อ ๆ ไป เราตั้งเป้าเปิดรับนักเรียนอนุบาลเพิ่มเป็น 232 คน หรือเพิ่มขึ้นราวๆ 33% จากแผนเดิมก่อนที่จะมีการขยายอาคาร"
"Environment as the Third Teacher" แนวคิดให้สภาพแวดล้อมเปรียบเสมือนครูคนที่สาม
อาคารเรียนส่วนต่อขยายสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล (Early Years) ของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด "Environment as the Third Teacher" คือการสร้างสภาพแวดล้อมให้เป็น "ครูคนที่สาม" ที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติของเด็ก ผ่านการที่พวกเขาสามารถสำรวจทุกสิ่งรอบตัวมาเรียนรู้ ท่ามกลางบรรยากาศการเรียนที่ผ่อนคลาย มีความสุข และปลอดภัย ส่งผลให้เด็ก ๆ ได้พัฒนาทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning Skills) อาทิ การคิดวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ การพึ่งพาตนเอง และการปรับตัว เป็นต้น ซึ่งการที่จะทำให้สภาพแวดล้อมเป็นเสมือนครูคนที่สาม โรงเรียนจึงได้สร้างอาคารขึ้นมาอย่างเฉพาะเจาะจง (Purpose-built Facility) เพื่อให้เด็กเล็กใช้เท่านั้น คือ ห้องเรียน เฟอร์นิเจอร์ สิ่งของต่าง ๆ รวมถึงต้นไม้และสวนรอบอาคาร ได้รับการออกแบบและจัดวางให้เหมาะสมกับเด็ก นอกจากนี้ อีกหนึ่งความโดดเด่นคือโซน "Early Years Hub" ซึ่งเป็นพื้นที่ตรงกลางเชื่อมต่อห้องเรียนทุกห้องอย่างกลมกลืน ไม่มีระเบียงทางเดินกั้นระหว่างห้องเรียนเหมือนโรงเรียนทั่วไป เพื่อให้เด็กสามารถเคลื่อนไหวอย่างอิสระทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน และมีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับเด็กและคุณครูคนอื่น ๆ นอกชั้นเรียนของตน พื้นที่ตรงกลางนี้ยังออกแบบขึ้นมาเพื่อผู้ใหญ่ด้วย คือสามารถเป็นจุดพบปะและเชื่อมสัมพันธ์กันระหว่างผู้ปกครองและครูเมื่อมาส่งหรือรอรับบุตรหลาน เกิดเป็นคอมมิวนิตี้ครอบครัวโรงเรียนโชรส์เบอรีที่อบอุ่นและเป็นมิตร
แคธเทอรีน โอคิล ผู้ช่วยครูใหญ่ฝ่ายเด็กอนุบาลและประถมต้น กล่าวว่า "การเปิดตัวส่วนต่อขยายของอาคารใหม่ของฝ่ายอนุบาลคือความภาคภูมิใจของโรงเรียน เพราะการขยายพื้นที่เพื่อรองรับจำนวนเด็กเล็กที่มาสมัครเรียนเพิ่มขึ้นจากเสียงเรียกร้องจากผู้ปกครองรายใหม่ หมายความว่าเราได้รับความไว้วางใจและเสียงตอบรับที่ดีมากจากผู้ปกครองปัจจุบัน อีกทั้งเรายังมีทีมครูผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนเด็กเล็กพร้อมด้วยวุฒิครูรับรองจากกระทรวงศึกษาของประเทศอังกฤษ (UK's Qualified Teacher Status - QTS) ร่วมมือกันเพื่อนำหลักสูตรพัฒนาเด็กเล็กขั้นพื้นฐานของอังกฤษ Early Years Foundation Stage และแนวทางที่เน้นให้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ Reggio Emilia Approach มาใช้กับการเรียนการสอนเด็กเล็กที่นี่ ซึ่งความเชี่ยวชาญในหลักสูตรจากครูของเรา ควบคู่กับอาคารสถานที่เรียนที่สร้างขึ้นอย่างใส่ใจทุกรายละเอียด ยิ่งส่งเสริมให้เด็ก ๆ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และได้เริ่มต้นเส้นทางการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพตั้งแต่ก้าวแรกที่พวกเขาเข้ามาเรียนในโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส"
เปิดตัวมาสคอตประจำชั้นอนุบาล "Starfish"
นอกจากนี้ ภายในงานเปิดตัวส่วนขยายอาคารใหม่ของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส ได้มีการเปิดตัวมาสคอตสุดน่ารักสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล ชื่อ "Starfish" หรือ "ปลาดาว" สัตว์ทะเลซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามารถในการปรับตัวและการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนเป้าหมายหลักของโรงเรียนที่ต้องการสร้างรากฐานการเรียนรู้และทักษะชีวิตที่มั่นคงให้กับเด็ก ๆ ตั้งแต่เยาว์วัย
ทั้งนี้การเปิดตัวอาคารเรียนส่วนต่อขยายสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล (Early Years) สำหรับเด็กเล็กวัย 2-5 ปี อย่างเป็นทางการของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส ในครั้งนี้ ได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ในการเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ของเด็กเล็ก ที่มุ่งส่งมอบประสบกาณ์การเรียนที่มีคุณภาพตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นชีวิตของเด็ก ๆ เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง ปูทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน
ที่มา: เฟลชแมน ฮิลลาร์ด ประเทศไทย