นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันช่างเชื่อมใต้น้ำ เป็นอาชีพที่มีรายได้สูง ต้องใช้ทักษะ และความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก สามารถทำงานได้ทั้งในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม อู่ต่อเรือ งานซ่อมบำรุง แท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ จึงเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ บางบริษัทยอมจ่ายให้แบบรายชั่วโมงสูงถึงชั่วโมงละ 4,500 บาท ส่วนอัตราจ้างรายวันมีตั้งแต่ 3,200-10,000 บาท ซึ่งกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาช่างเชื่อมมาโดยตลอด โดยวางเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องพัฒนาทักษะอาชีพให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ประกอบกับทางกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา ยังเป็นหน่วยงานหนึ่งเดียวในสังกัดกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่สามารถดำเนินการจัดฝึกอบรมในสาขาช่างเชื่อมและตัดโลหะใต้น้ำ เพื่อให้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ จึงผลักดันให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เร่งพัฒนาทักษะแรงงานกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้มอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการแข่งขันช่างเชื่อมในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งดำเนินการจัดแข่งขัน โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา ร่วมกับบริษัท วนาวัฒน์วัสดุ จำกัด เพื่อกระตุ้นให้ช่างฝีมือตำแหน่งช่างเชื่อมพัฒนาศักยภาพด้านทักษะฝีมือเพิ่มสูงขึ้น เป็นการตอกย้ำให้แรงงานช่างเชื่อมมีการพัฒนาทักษะฝีมือของตนเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการรับค่าจ้างที่สูงขึ้นตามสมรรถนะหรือตามทักษะฝีมือที่สูงขึ้นด้วย อีกส่วนหนึ่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงานดำเนินการในทุก ๆ จังหวัดคือสาขาช่างติดตั้งเครื่องปรับอากาศ แต่ที่ สพร.สงขลา นั้น ได้เป็น Center โซนภาคใต้ในการจัดทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน สาขาช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 2 และ 3
หลังจากนั้น นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะได้เยี่ยมชมสาขาการเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือชิ้นงานท่อต่อชนตามมาตรฐานสากล อีกด้วย
ทางด้านของนายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สาขาช่างเชื่อม เป็นสาขาที่ตลาดแรงงานมีความต้องการเยอะมาก ซึ่งในปีงบประมาณ 2568 ได้มอบหมายให้จังหวัดที่มีความพร้องเร่งดำเนินการฝึกในสาขาดังกล่าว ทั้งนี้ให้ดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มอุตสาหรรมในพื้นที่ของตนเองด้วย เช่นเดียวกับ สพร.12 สงขลา ที่สามารถผลิตแรงงานป้อนอุตสาหกรรมในพื้นที่ และแรงงานมีรายได้ที่สูงขึ้น รับรายได้รายชั่วโมงถึงชั่วโมงละ 4,500 บาท หรือรับรายได้นับแสนบาทต่อเดือน ซึ่งตนเองได้มีโอกาสพบปะพูดคุย และมอบวุฒิบัตรให้แก่ช่างเชื่อมที่ผ่านการฝึกอบรมในครั้งนี้ ซึ่งจัดฝึกอบรม ระหว่างวันที่ 6-10 พฤศจิกายน 2567 โดยในแต่ละปีทางสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา มีแผนดำเนินการร่วมกับภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา ดำเนินการพัฒนาทักษะช่างเชื่อมใต้น้ำไม่ต่ำกว่าปีละ 60 คน ซึ่งทุกคนล้วนแต่มีศักยภาพและทักษะฝีมือในงานเชื่อม และมีขีดความสามารถในการดำน้ำเพื่อปฏิบัติงานเชื่อมใต้น้ำได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในครั้งนี้ ต้องการให้ท่านนำความรู้ที่ได้รับนำไปใช้ในการทำงาน จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ อุตสาหกรรมหลักและเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเล
นายเดชา กล่าวอีกว่า การฝึกอบรมในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณบริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ที่ร่วมกับ สพร.12 สงขลา โดยร่วมกันถ่ายทอดความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติด้านความปลอดภัยและสุขภาพของนักดำน้ำ การใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ การดำน้ำลึกด้วยชุด SCUBA และชุดดำน้ำลึกแบบ SSDS ฝึกปฏิบัติงานในลักษณะ Commercial Diving และการเชื่อมชิ้นงานต่อตัวทีในตำแหน่งท่า PA PG PB ต่อเกย ท่า PB PG และกระบวนการตัดโลหะใต้น้ำด้วยไฟฟ้า โดยรุ่นที่ 2 จะเริ่มดำเนินการฝึกอบรมในเดือนมกราคม 2568 ท่านใดที่ต้องการฝึกอบรมหลักสูตรนี้สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา เบอร์โทร 0 7433 6052
ที่มา: กองสื่อสารองค์กร กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน