กพร. จับมือ เอ็มเทค สวทช. จัดสัมมนาสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการออกแบบสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ประกอบการไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

พุธ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ๐๘:๒๑
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดสัมมนาสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการออกแบบสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Creating Business Opportunities through Circular Economy Design) ย้ำความสำเร็จของโครงการฯ การประยุกต์ใช้หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ และกระบวนการของสถานประกอบการเพื่อลดใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
กพร. จับมือ เอ็มเทค สวทช. จัดสัมมนาสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการออกแบบสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ประกอบการไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

ดร.ธีรวุธ ตันนุกิจ ผู้อำนวยการกองนวัตกรรมวัตถุดิบและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ถือเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ตามนโยบายโมเดลเศรษฐกิจใหม่ หรือที่เรียกว่า BCG Model โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่จำกัดให้น้อยที่สุดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพิ่มสัดส่วนการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนให้มากขึ้น รักษาคุณค่าของทรัพยากรในระบบและหมุนเวียนใช้ให้นานที่สุด และลดการปลดปล่อยของเสียออกจากระบบให้น้อยที่สุด เพื่อก่อให้เกิดรูปแบบการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน

กพร. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการจัดหาและบริหารจัดการวัตถุดิบ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ทั้งวัตถุดิบจากแหล่งแร่ธรรมชาติ และวัตถุดิบทดแทนที่ได้จากการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนของผู้ประกอบการไทย โดยคำนึงถึงความสำคัญของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าเกิดประโยชน์และมูลค่าเพิ่มสูงสุด ตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน อีกทั้งได้รับมอบหมายให้เป็น Focal Point ด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนของกระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน Circular Economy ของประเทศ โดยมี เอ็มเทค เป็นที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการในปีที่ 3 ภายหลังจากผลการดำเนินโครงการในช่วงปี 2565 - 2566 ที่ผ่านมานั้นประสบผลสำเร็จในการดำเนินงานเป็นอย่างมาก ในการส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้ประกอบการนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ (Design for Circular Economy) ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ กระบวนการผลิต การเลือกใช้วัตถุดิบ การใช้งาน การจัดการเมื่อสิ้นอายุการใช้งานหรือไม่ใช้แล้ว ซึ่งรวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ง่ายต่อการซ่อมแซม ยืดอายุการใช้งาน หรือรีไซเคิล

ซึ่งในปีนี้ผลของการดำเนินโครงการได้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน และมีตัวอย่างผลสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการและได้รับคำปรึกษาแนะนำเชิงลึกจาก เอ็มเทค จำนวน 3 ราย โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากต้นทุนที่ลดลงหรือรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมไม่ต่ำกว่า 142.45 ล้านบาทต่อปี และหากมีการนำต้นแบบที่ได้พัฒนาตามแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้ จะสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ ไม่ต่ำกว่า 880 ตันก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (เทียบเท่า) ต่อปี ยังไม่นับรวมมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นจากการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า การลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และจากผลสำเร็จที่เกิดขึ้นประกอบกับยังมีผู้ประกอบการอีกเป็นจำนวนมากให้ความสนใจ กพร. จึงได้พิจารณาขยายผลการดำเนินโครงการไปสู่ปีที่ 4 ในปีงบประมาณ 2568 เพื่อขยายเครือข่ายผู้ประกอบการที่นำหลักการ Circular Economy ไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมคาร์บอนต่ำที่มีการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน

ดร.อศิรา เฟื่องฟูชาติ รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. กล่าวว่า การจัดสัมมนา สร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการออกแบบสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Creating Business Opportunities through Circular Economy Design) ในวันนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่งภายใต้ "โครงการส่งเสริมการออกแบบตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Design for Circular Economy) เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองนวัตกรรมวัตถุดิบและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการผลักดันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ Circular Economy ที่มีการหมุนเวียนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับนโยบายและทิศทางการพัฒนาประเทศของรัฐบาล ถ่ายทอดประสบการณ์การประยุกต์ใช้แนวทาง Design for Circular Economy ของอุตสาหกรรมไทย เพื่อพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมให้มีการประยุกต์หลักคิด Circular Economy ในการออกแบบ โดยเอ็มเทค ได้ใช้ความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ของกลุ่มวิจัย ผนวกกับการใช้กลไกเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการของเอ็มเทคที่มีอยู่ทั้งในและต่างประเทศ เป็นพี่เลี้ยงให้แก่ผู้ประกอบการ โดยถ่ายทอดข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้องในรูปแบบการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกผ่านการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ กระบวนการผลิต การเลือกใช้วัตถุดิบ การใช้งาน การจัดการเมื่อสิ้นอายุการใช้งานหรือไม่ใช้แล้ว ตามหลักคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน

"เอ็มเทค สวทช. เป็นหน่วยงานหลักด้านการวิจัยและพัฒนาที่พร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีวัสดุและการผลิต ด้วยพันธกิจและความเชี่ยวชาญของทีมวิจัยในการพัฒนาและสร้างขีดความสามารถทางด้านเทคโนโลยีวัสดุให้แก่ภาครัฐและภาคเอกชน ต้องขอขอบคุณ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรมที่ได้ให้ความไว้วางใจเอ็มเทค เป็นที่ปรึกษาในการดำเนินงาน"โครงการส่งเสริมการออกแบบตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Design for Circular Economy) เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และขอขอบคุณบริษัทผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมของโครงการ รวมทั้งผู้ที่ได้ร่วมกันผลักดันโครงการนี้ให้เกิดผลสำเร็จในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการให้มีการประยุกต์หลักคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในการออกแบบ และมีตัวอย่างผลสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างยั่งยืน" ดร.อศิรา กล่าว

สำหรับตัวอย่างความสำเร็จของผู้ประกอบการที่เข้าร่วม "โครงการส่งเสริมการออกแบบตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน" ขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในขับเคลื่อน Circular Economy ของประเทศ และมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำตามนโยบายรัฐบาล โดยมี เอ็มเทค เป็นที่ปรึกษาโครงการ เช่น บริษัท คอทโก้ พลาสติกส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนังเทียม และแผ่นพลาสติกพีวีซี ชั้นนำ ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยบริษัทฯ ได้วิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบริษัทฯ ได้ร่วมเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการต้นแบบของโครงการฯ เพื่อพัฒนาหนังเทียมพีวีซีคุณภาพสูงที่ปราศจากสารอันตราย เพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และมาตรการของประเทศที่บังคับไม่ให้มีสาร Phthalate และ CPs และสามารถเข้าสู่กระบวนการหมุนเวียนเป็น "วัสดุรอบสอง (Secondary Materials) ได้อย่างปลอดภัย

ทีมวิจัย เอ็มเทค สวทช. และบริษัทฯ ร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลและประเมินหาโซลูชันที่เหมาะสม ซึ่งนำมาสู่แนวคิดการพัฒนาหนังเทียมพีวีซีสูตรใหม่ที่ไม่ใช้สารอันตรายอย่าง Phthalate และ Chlorinated Paraffins พบว่าการผลิตหนังเทียมสูตรใหม่นี้ ผ่านเกณฑ์การทดสอบการลามไฟ มีสมบัติเชิงกลที่ใกล้เคียงกับสูตรเดิม และไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์โดยรวมแสดงให้เห็นว่าสูตรการผลิตใหม่สามารถนำมาใช้ทดแทนสูตรเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาการผลิตหนังเทียมที่ปราศจากสารอันตรายนี้ สะท้อนถึงการสร้างคุณค่า (Value Creation) และ การคงคุณค่า (Value Retention) เพื่อนำทรัพยากรหมุนเวียนมาใช้ให้นานที่สุดตั้งแต่ต้นทาง ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนได้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและทิศทางของการพัฒนาประเทศที่มุ่งสู่ความยั่งยืนโดยทางบริษัทฯ ทั้งนี้ภายในงานยังมีตัวอย่างความสำเร็จของบริษัทที่เข้าร่วมโครงการอีกมากมาย เช่น บริษัท ยูเนี่ยนไพโอเนียร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท กรีนสปอต จำกัด และบริษัทอื่น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการในปีที่ 1 และ 2 เป็นต้น

ที่มา: NECTEC

กพร. จับมือ เอ็มเทค สวทช. จัดสัมมนาสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการออกแบบสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ประกอบการไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ