เอกชนแนะ สร้าง Ecosystem ด้านสุขภาพ เพื่อเป็นศูนย์กลาง Medical Hub ของอาเซียน

พฤหัส ๑๔ พฤศจิกายน ๒๐๒๔ ๐๙:๓๓
ประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ผ่านการพัฒนา Ecosystem ด้านสุขภาพที่ครบวงจร ซึ่งไม่เพียงส่งเสริมเศรษฐกิจ แต่ยังยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ โดยรัฐบาลมีนโยบายให้ประเทศเป็น Medical Hub เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต ด้วยกลยุทธ์เติมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-curve) ผ่านการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร การเชื่อมต่อการค้า การลงทุน และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบสุขภาพ ตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
เอกชนแนะ สร้าง Ecosystem ด้านสุขภาพ เพื่อเป็นศูนย์กลาง Medical Hub ของอาเซียน

ในด้านเทคโนโลยีสุขภาพ ประเทศไทยมีความก้าวหน้าด้วยการลงทุนในเครื่องมือแพทย์ขั้นสูง เช่น หุ่นยนต์ผ่าตัด ปัญญาประดิษฐ์ในการวินิจฉัยโรค และโรงพยาบาลเสมือน (Virtual Hospital) โดยคาดว่ามูลค่าเทคโนโลยีทางการแพทย์จะสูงถึง 12.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2573 นอกจากนี้ประเทศยังมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่แข็งแกร่ง มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 59 ล้านคนและบริการ 5G ที่ครอบคลุมทุกจังหวัด ซึ่งทำให้พร้อมเปิดรับการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างเต็มที่ การพัฒนาเหล่านี้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้าง Ecosystem ด้านสุขภาพที่ตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการแพทย์ นับเป็นหนึ่งใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในการพัฒนาประเทศอีกด้วย

คุณเอกฤทธิ์ ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทแบ็คยาร์ด (BACKYARD) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีโซลูชั่นด้านเฮลท์เทค กล่าวว่า "การพัฒนา Ecosystem ด้านสุขภาพที่แข็งแกร่งจะไม่เพียงเสริมสร้างระบบสุขภาพของประเทศ แต่ยังเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดอาเซียน โดยเราจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในระบบการแพทย์ เพื่อให้การเข้าถึงบริการสุขภาพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้บริการ"

"ความสำคัญของการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาระบบสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนทุกกลุ่ม โดยการใช้ทรัพยากรและนวัตกรรมร่วมกันจะช่วยพัฒนาบริการที่มีคุณภาพและสามารถแข่งขันในระดับสากล อีกทั้งมีความพร้อมในการตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป ผมเชื่อว่าการพัฒนา Ecosystem ด้านสุขภาพที่ดีจะทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Medical Hub ของอาเซียนอย่างแท้จริง" คุณเอกฤทธิ์กล่าว

สำหรับในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ความต้องการบริการทางการแพทย์ในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเปิดคลินิกโรคทั่วไปและเฉพาะทาง มีผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง และมีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและพฤติกรรมของประชาชนที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น การสร้าง Ecosystem ด้านสุขภาพนี้ไม่เพียงส่งเสริมเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศและภูมิภาคอาเซียน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนา Ecosystem ด้านสุขภาพในประเทศไทย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.backyard.in.th หรือโทร 02-853-9131

ที่มา: กลุ่มบริษัทแบ็คยาร์ด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๒ ม.ค. มอบรถปิ๊กอัพฉลองปีใหม่ แจกจริงในงาน MONO29 PATTAYA COUNTDOWN 2025
๐๒ ม.ค. เรนวูด ปาร์ค เนรมิตงาน The Essence of an Enriched Life ฉลองเปิดตัว Sales Gallery ระดับ World-Class มูลค่า 120 ล้าน!
๐๒ ม.ค. PLUS ได้รับการรับรองเป็นสมาชิก CAC ยกระดับองค์กรโปร่งใส เดินหน้าต่อต้านทุจริตอย่างยั่งยืน
๐๒ ม.ค. KJL ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14001:2015 มุ่งมั่นสร้างศักยภาพด้านสิ่งแวดล้อมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
๐๒ ม.ค. บลจ.อีสท์สปริง ประเดิมปี 68 เปิดกองพันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น อายุ 6 เดือน มูลค่า 7,000 ล้านบาท IPO 2-9 ม.ค. นี้ ชูยิลด์
๐๒ ม.ค. แสนสิริ ต้อนรับปี 68 จัดโปรแห่งความสุข อยู่แล้วดี ที่แสนสิริ เสิร์ฟบ้านและคอนโดกว่า 102 โครงการ
๐๒ ม.ค. อโกด้าเผย เซี่ยงไฮ้กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทางชาวไทย
๐๒ ม.ค. ซีเอ็ด ชวนคนไทยมอบหนังสือ ส่งต่อแรงบันดาลใจ ให้เด็กไทยได้อ่านกับ โครงการนักอ่านสายบุญ ฉลองครบรอบ 50 ปี
๐๒ ม.ค. บลจ.กสิกรไทย แต่งตั้ง วจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
๐๒ ม.ค. บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุน ทิสโก้ เอเชีย อิควิตี้ ลงทุนในหุ้นเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น - นโยบายเชิงรุกใช้ AI ช่วยบริหารพอร์ต