นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการเดินทางโดยอากาศยานของทุกภูมิภาคทั่วโลกจากช่วงที่ผ่านมาที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของเส้นทางบินสมุย ส่งผลให้ไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,489.3 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 15.3 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เติบโตจากสัดส่วนของรายได้บัตรโดยสารของธุรกิจสายการบิน ที่มีสัดส่วนร้อยละ 68.7 ทำให้ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 878.1 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2566 และมีกำไรสุทธิ 673.3 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่มีผลกำไรจากรายการพิเศษดังเช่นปีก่อนหน้า และสำหรับงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 3,893.9 ล้านบาท และ มีผลกำไรสุทธิ 3,264.9 ล้านบาท โดยเป็นผลกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ 3,256.6 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 1.55 บาท
"ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 สายการบินฯ มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เทียบปีก่อนหน้า เป็นผลจากกลยุทธ์เพิ่มจำนวนเที่ยวบินเข้า-ออกสนามบินสมุยเพื่อรองรับอุปสงค์การเดินทางในฤดูกาลท่องเที่ยว ส่งผลให้มีจำนวนเที่ยวบิน 12,044 เที่ยวบิน และมีจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 1.06 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 จากปีที่ผ่านมา อัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ร้อยละ 79.0 สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของของปริมาณการขนส่งผู้โดยสารทั่วโลก โดยมีผู้โดยสารที่มาจากจุดขายบัตรโดยสาร (Point-of-Sales) ผ่านเว็บไซต์และระบบเชื่อมต่อตรงกับบริษัทฯ ร้อยละ 47.0 และจากต่างประเทศร้อยละ 39.0 ของผู้โดยสารทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคยุโรปและเอเชีย (ไม่รวมประเทศไทย)"
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 20,004.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.5 และมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 3,893.9 ล้านบาท รวมทั้งมีผลกำไรสุทธิ 3,264.9 ล้านบาท โดยมีจำนวนผู้โดยสาร 3.31 ล้านคนเติบโตขึ้นร้อยละ 10.3 เทียบกับปี 2566 อัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ร้อยละ 81.9 และปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 เทียบปีก่อนหน้า นายพุฒิพงศ์ กล่าวสรุป
ติดตามข้อมูลข่าวสารพร้อมเข้าชมรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนสัมพันธ์ได้ทางเว็บไซต์ https://investor.bangkokair.com/th/
ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์