ราช กรุ๊ป ประกาศกำไร 9 เดือนแรก 5,485 ล้านบาท EBITDA เติบโต 12,830 ล้านบาท

จันทร์ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๐๒๔ ๑๐:๕๖
บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) ของปี 2567 รับรู้กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 12,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,701 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 และกำไรสุทธิ จำนวน 5,485 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 730 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15 สำหรับรายได้ของงวด 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ รับรู้เป็นจำนวน 33,616 ล้านบาท โดยรายได้จากส่วนแบ่งกำไรจากกิจการที่ร่วมทุน สินทรัพย์โรงไฟฟ้าในออสเตรเลียภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ราช ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด และโรงไฟฟ้าพลังน้ำในอินโดนีเซีย ได้ช่วยเสริมหนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ราช กรุ๊ป ประกาศกำไร 9 เดือนแรก 5,485 ล้านบาท EBITDA เติบโต 12,830 ล้านบาท

นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งหมายที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการกำหนดเป้าหมายให้ EBITDA เติบโตปีละไม่น้อยกว่า 12,000 ล้านบาท โดยวางกลยุทธ์เน้นการบริหารประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วให้มีความสามารถดำรงความพร้อมจ่ายให้ดีที่สุด และบริหารโครงการที่มีแผนเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปีนี้ให้สำเร็จตามเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงจัดหาเงินทุนสำหรับขยายการลงทุนของบริษัทฯ ซึ่งผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนได้ถึงความมุ่งมั่นดังกล่าวเป็นอย่างดี โดยบริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในกิจการร่วมลงทุน รวม 5,312 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 64 ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าไพตัน โรงไฟฟ้าหินกอง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้าที่รับรู้รายได้ในปีนี้ ขณะที่รายได้ของโรงไฟฟ้าในพอร์ตการลงทุนของบริษัท ราช ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ก็เติบโตเป็นที่น่าพอใจ เป็นจำนวน 5,409 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 57 ซึ่งเป็นผลสำคัญจากรายได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมลินคอล์น แก็ป 1&2 และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ สแนปเปอร์ พอยท์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนผ่านหุ้นกู้สีเขียว จำนวน 4,000 ล้านบาท ด้วย

"บริษัทฯ ยังคงยึดธุรกิจผลิตไฟฟ้าในการขับเคลื่อนการเติบโต โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจผลิตไฟฟ้าสร้างรายได้แก่บริษัทฯ จำนวน 31,949 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 95 ของรายได้รวม สำหรับรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน มีจำนวน 4,567 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14 ของรายได้รวม ส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลัก จำนวน 27,382 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 82 ของรายได้รวม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถเดินหน้า 4 โครงการ กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น รวม 1,183 เมกะวัตต์ ที่อยู่ในแผนงานปีนี้ได้สำเร็จ และลงทุนในโครงการต่างๆ ไปแล้วเป็นเงินจำนวน 24,619 ล้านบาท อีกทั้งยังได้จับมือกับพันธมิตรเพื่อร่วมกันสร้างโอกาสทางธุรกิจที่สนับสนุนเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ โดยเฉพาะเชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำรูปแบบต่างๆ ที่มีศักยภาพในอนาคตด้วย" นายนิทัศน์ กล่าว

สำหรับ ฐานะการเงินปัจจุบัน (ณ วันที่ 30 กันยายน 2567) บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 212,817 ล้านบาท หนี้สินรวม จำนวน 110,833 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 101,984 ล้านบาท สำหรับสถานะทางการเงินบริษัทฯ ยังมีความมั่นคงและแข็งแกร่ง สะท้อนได้จากอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 1.09 เท่า และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นอยู่ที่ร้อยละ 5.49

ที่มา: ราช กรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๙ ผู้ถือหุ้น READY อนุมัติปันผล อัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น ปักธงปี 68 รายได้โต 10% เติบโตตามเทรนด์การตลาดยุคดิจิทัล
๑๗:๐๗ JMART เตรียมเงินพร้อมคืนหุ้นกู้ 1,500 ล้านบาท ตอกย้ำเสถียรภาพการเงินปิดจ๊อบหุ้นกู้ 856.6 ล้านบาท ขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่น
๑๗:๓๗ Lorde เซอร์ไพรส์! ส่งเพลงใหม่ในรอบ 4 ปี What Was That พร้อมเอ็มวีแนว Vlog สุดเท่ ซีนยิ่งใหญ่แฟนเพลงรวมตัวกว่า 8,000
๑๗:๐๔ Kenny G คัมแบ็ค!! ชวนแฟน ร่วมดื่มด่ำสุนทรียภาพดนตรีแจซระดับโลกอีกครั้ง ใน Kenny G Live in Bangkok 2025 เปิดแสดง 4 กรกฎาคม
๑๗:๒๓ เปิดประตูสู่อนาคตไอที รำไพพรรณี MOU นครระยองวิทยาคมฯ สร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่
๑๗:๐๘ JGAB 2025 เวทีอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียนระดับโลก ดันไทยสู่ศูนย์กลางการค้าและนวัตกรรมเครื่องประดับอย่างยั่งยืน
๑๗:๐๒ อ.อ.ป. ร่วมยินดี อคส. ครบรอบ 70 ปี
๑๗:๓๗ กองทรัสต์อัลไล เดินหน้าขยายพอร์ต เตรียมลงทุน! 2 โครงการใหม่ ทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ และ วิลเลจ ฮับ สายไหม โครงการคอมมูนิตี้มอลล์บนทำเลศักยภาพ
๑๗:๓๕ Bangkok Climate Action Week (BKKCAW) รวมพลังคนกรุง สู้วิกฤตโลกร้อน
๑๗:๓๑ Sherwood Corporation จับมือ Conquest Crop Protection Pty Ltd ขยายช่องทางสู่ตลาดเคมีเกษตรในออสเตรเลีย