นาทีที่มีข่าวน้ำสีโคลนไหลหลากเข้าท่วมหลายพื้นที่ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พัดพาเอาบ้านและทรัพย์สินของผู้คนไปกับสายน้ำ ผู้ที่ชมภาพและการรายงานข่าวภัยพิบัตินี้เริ่มหวั่นวิตก มีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ
น้ำจำนวนมหาศาลเช่นนี้จะหลากไปทางไหน จะมาถึงชุมชนและบ้านของเราไหม? ฝนจะตกเพิ่มหรือเปล่า? น้ำเหนือจะลงมาถึงพื้นที่ในภาคกลางและกรุงเทพเมื่อไร? เราต้องเตรียมขนของขึ้นที่สูงได้แล้วหรือยัง?
ในช่วงที่ผู้คนสแกนหาข้อมูลความรู้เพื่อเตรียมรับน้ำและภัยพิบัติธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น หนึ่งในแหล่งข้อมูลที่มีผู้สนใจเข้ามาอ่านและแชร์ข้อมูลคือ มิตรเอิร์ธ - Mitrearth ของศาสตราจารย์ ดร.สันติ ภัยหลบลี้ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เพจเชียงรายสนทนา (22 สิงหาคม) ชวนตรวจสอบรายชื่อหมู่บ้านที่อยู่ในแนวร่องน้ำ อ่อนไหวต่อการเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมหากฝนตกหนัก โดยใช้ข้อมูลจาก www.mitrearth.org
เพจ Thai Geographers (23 กันยายน) อ้างอิงแผนที่เส้นทางน้ำหลากจากมิตรเอิร์ธ เพื่อเตือนชาวลำปางให้ระวังและเตรียมรับมือ
เพจ Ramrome Weather (7 ตุลาคม) นำข้อมูลจากมิตรเอิร์ธมาอธิบายเพื่อทำความเข้าใจเรื่องน้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย
แอดมินเพจต่าง ๆ ที่ได้ใช้ข้อมูลจาก มิตรเอิร์ธ (Mitrearth) กล่าวในทำนองเดียวกันว่า"ในช่วงที่เกิดภัยพิบัติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว หมอกควัน ฯลฯ ศ.ดร.สันติจะแจ้งเตือนและให้ความรู้ที่ทันกับสถานการณ์เสมอ"
"อาจารย์ช่วยเหลือผู้คนด้วยข้อมูลความรู้เชิงวิชาการด้านธรณีวิทยา อธิบายด้วยภาษาที่คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย"
"ข้อมูลและแผนที่ต่าง ๆ ในเพจ อาจารย์ก็ให้ใช้ฟรี เพื่อประโยชน์ทั้งการเรียนการสอนและรับมือภัยพิบัติ"
นับตั้งแต่ปี 2562 ศ.ดร.สันติสร้างและเป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ มิตรเอิร์ธ - Mitrearth ด้วยความตั้งใจที่จะแบ่งปันความรู้ทางธรณีวิทยา ข่าวสาร ประสบการณ์ด้านภูมิศาสตร์และวิทยาศาสตร์โลก โดยมีจุดเด่นที่นวัตกรรมชุดแผนที่เชิง
พิกัด ที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจพื้นที่ที่อยู่อาศัยว่ามีโอกาสเกิดเหตุภัยพิบัติอะไรได้บ้าง
"ภัยพิบัติเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ทั้งภัยพิบัติใหญ่ที่นาน ๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง หรือภัยพิบัติที่เล็กกว่าแต่เกิดขึ้นบ่อย ๆ แต่ทุกภัยพิบัติทำให้เราเสียหายเหมือนกัน เราควรเตรียมความพร้อมรับกับภัยทุกภัย การที่คนในสังคมมีความรู้ด้านธรณีวิทยาและภัยธรรมชาติจะมีส่วนช่วยในยามเกิดเหตุ การสื่อสารและเตือนภัยจะทำได้ดีขึ้น และลดความเสียหายและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น" อาจารย์สันติกล่าว
มิตรเอิร์ธ ธรณีวิทยา-เรื่องต้องรู้คู่มือรับภัยพิบัติ
ภูมิอากาศแปรปรวนและภาวะโลกร้อนทำให้ผู้คนในสังคมหันมาสนใจและติดตามข่าวสารสภาพอากาศมากขึ้น - พายุลูกใหม่จะเข้ามาเมื่อไร ความรุนแรงระดับใด น้ำทะเลหนุนวันใด ฯลฯ แต่สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าความรู้ด้านภูมิอากาศคือความรู้ด้านธรณีวิทยา
"ส่วนหนึ่งที่ภัยพิบัติทุกวันนี้สร้างความเสียหายมากขึ้นเพราะจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นและภาวะทางเศรษฐกิจที่ผลักให้ชุมชนเมืองขยายตัวและเขยิบเข้าไปใกล้พื้นที่อ่อนไหวมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น พื้นที่รอยเลื่อน หรือทางน้ำไหลผ่าน" อาจารย์สันติอธิบาย
"เราจึงควรมีความรู้ด้านธรณีวิทยา เช่น พื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับความสูง ทางไหลของน้ำ เพื่อจะได้รู้ว่าเรามีภัยพิบัติอะไรใกล้ตัวบ้าง เช่น หากเราอยู่แถวท่าน้ำนนทบุรีก็ควรรู้ว่าบ้านเราอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเท่าไร อยู่ใกล้ตลิ่งหรือไม่ อยู่โค้งไหน โค้งในหรือโค้งนอก"
เมื่อเอ่ยถึงภัยพิบัติทางธรณีวิทยา ผู้คนมักนึกถึงแผ่นดินไหวและแผ่นดินไหวใต้ทะเลที่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ แต่อันที่จริง มีภัยพิบัติที่ใกล้ตัวกว่านั้น เกิดได้บ่อยและสร้างความเสียหายได้มาก
"ถ้าไม่นับคลื่นสึนามิ ดินโคลนไหลหลากเป็นภัยพิบัติเดียวที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตจำนวนมาก อย่างเหตุโศกนาฏกรรมดินโคลนไหลถล่มบ้านเรือนประชาชนในตำบลน้ำก้อ และตำบลน้ำชุน อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ในปี 2544 มีผู้เสียชีวิตถึง 136 คน ภายในคืนเดียว!"
"สึนามิเป็นภัยพิบัติที่นาน ๆ จะเกิดขึ้นสักที หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตเราอีกแล้วก็ได้ แต่เราอาจจะได้ประสบกับภัยพิบัติ "ดินโคลนไหลหลาก" ได้อีกในช่วงชีวิตนี้" อาจารย์สันติกล่าวและยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นที่แม่สาย จังหวัดเชียงราย
"หากบ้านเราอยู่ใกล้ภูเขาและมีธารน้ำที่ไหลออกมาจากภูเขา แล้วไหลผ่านหมู่บ้านเรา แสดงว่าหมู่บ้านของเราเสี่ยงมาก ๆ ต่อดินโคลนไหลหลาก ดังนั้น เมื่อไรที่มีฝนตกบนภูเขาที่อยู่ใกล้เรา และหากลำธารที่ไหลออกจากภูเขาใกล้บ้านเราหรือที่เราอยู่เริ่มมีสีชากาแฟ เราต้องอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน"
อาจารย์สันติกล่าวว่า ภาครัฐควรมีสื่อหรือแหล่งข้อมูลให้คนได้รับรู้ เรียนรู้ และค้นคว้าเกี่ยวกับภัยพิบัติด้วยตัวเอง "ถ้าให้เห็นเป็นรูปธรรมที่สุดก็ควรจะเพิ่ม "วิชาภัยพิบัติธรรมชาติ" หรือ "ภัยพิบัติท้องถิ่น" ในหลักสูตรการเรียนสำหรับนักเรียนชั้นประถมหรือมัธยม อย่างนี้ก็จะทำให้ทุกคนในสังคมได้ผ่านหูผ่านตาเรื่องเกี่ยวกับภัยธรรมชาติและการรับมือบ้าง"
นี่เองเป็นแรงผลักดันให้อาจารย์สันติสร้างแพลตฟอร์ม มิตรเอิร์ธ - Mitrearth ที่เป็นเสมือนห้องเรียนออนไลน์วิชาวิทยาศาสตร์โลกและภัยพิบัติธรรมชาติให้กับประชาชนทั่วไป นับตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน เพจมิตรเอิร์ธมีผู้สนใจติดตามกว่าสองแสนรายชื่อแล้ว และมีการอ้างอิงไปยังเพจสาธารณะอื่น ๆ ที่นำเสนอสาระเกี่ยวกับธรรมชาติและภัยพิบัติอีกหลายเพจ
มีอะไรบ้างในเพจและเว็บไซต์ "มิตรเอิร์ธ"
เว็บไซต์มิตรเอิร์ธ เป็นพื้นที่รวบรวมบทความและความรู้ที่น่าสนใจทั้งเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์โลก ประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่เชื่อมโยงกับธรณีวิทยา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสนใจและงานอดิเรกของอาจารย์สันติ
เว็บไซต์มีบทความน่าสนใจมากมาย เช่น
- ซากเรือโนอาห์กับธรณีวิทยาน่ารู้
- "ดงพญาไฟ" ทำไมถึงน่ากลัว ภูมิศาสตร์อาจมีคำตอบ
- โอกาสภูเขาไฟปะทุที่เมืองไทย
- 8 ลีลาคนโบราณบริหารจัดการน้ำ
- โบราณคดีใต้ตอต้นตาล
- เขามีดอีโต้ ธรณีวิทยาพาเที่ยว
- หินตั้ง ใครคนตั้ง?
- ทำไมศรีเทพถึงยิ่งใหญ่นัก
- เกลือ : เส้นทางสายปลาแดก
แม้บทความต่าง ๆ จะเป็นสาระความรู้เชิงวิชาการ แต่ก็อ่านง่าย สนุกและน่าติดตามพร้อมภาพประกอบและแผนที่ที่ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพและเข้าใจภูมิประเทศที่เชื่อมโยงกับบริบททางสังคม ประวัติศาสตร์และโบราณคดี นอกจากบทความแล้ว ในเว็บไซต์ยังมีแบบฝึกหัดแบบสำเร็จรูปที่คุณครูสามารถนำไปใช้ในการเรียนรู้และทำแบบทดสอบกับนักเรียน อาทิ แบบฝึกหัดแผ่นดินไหว ทะเลทราย มหาสมุทรและพื้นทะเล น้ำผิวดิน น้ำใต้ดิน ภูเขาไฟและหินอัคนี ฯลฯ
ส่วนเนื้อหาในเพจเฟซบุ๊ก มิตรเอิร์ธ เป็นการอัปเดตข้อมูลความรู้ที่สอดคล้องกับสถานการณ์และความสนใจของผู้คน มีทั้งส่วนที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ทางธรณีวิทยา ภัยพิบัติ และวิทยาศาสตร์โลก โดยข้อมูล สไลด์ แผนที่ และแบบฝึกหัดทั้งหมดที่อยู่บนแพลตฟอร์มออน์ไลน์ของมิตรเอิร์ธ อาจารย์สันติเปิดให้ประชาชนทั่วไปดาวน์โหลดและนำไปใช้ประโยชน์ได้
นอกจากนี้ อาจารย์สันติยังรวบรวมความรู้ในรูปแบบเอกสาร e-book (ฟรี) โดยสรุปเนื้อหาและแบบฝึกหัดในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์โลก (Earth Science) อาทิ เอกภพและโลก ธรณีแปรสัณฐาน โครงสร้างภายในโลก น้ำผิวดิน น้ำใต้ดิน แผ่นดินไหว ธารน้ำแข็ง ทะเลทราย ฯลฯ เพื่อมอบให้กับคุณครูสำหรับเป็นสื่อการเรียนการสอน และประชาชนที่สนใจศึกษาเรียนรู้ในด้านวิทยาศาสตร์โลก
แผนที่ (ฉบับมิตรเอิร์ธ) กับการแจ้งเตือนภัยพิบัติ
สิ่งที่จัดว่าเป็นไฮไลต์ของ "มิตรเอิร์ธ" ที่ผู้คนมักอ้างอิงและใช้ประโยชน์คือ "แผนที่ GIS" นวัตกรรมชุดข้อมูลภูมิประเทศ "แผนที่ชุดข้อมูลภูมิประเทศเป็นข้อมูลจริงทางธรณีวิทยา สามารถบอกพิกัดความสูง-ต่ำของพื้นที่ ให้คนในพื้นที่ได้รู้ว่าพื้นที่ที่เขาอยู่อาศัยเป็นพื้นที่สูงหรือต่ำ หรือเป็นพื้นที่อ่อนไหว ที่อาจจะเกิดภัยพิบัติ"
อาจารย์สันติเล่าว่า แผนที่นี้เกิดจากการนำเข้าข้อมูลภูมิประเทศเชิงพิกัดจากดาวเทียมที่มีเผยแพร่ทั่วโลก และใช้เครื่องมือ GIS (geographic information system) วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ออกมาเป็นชุดข้อมูลภูมิประเทศของประเทศไทยครบทั้ง 77 จังหวัดอย่างละเอียด ซึ่งคนในแต่ละจังหวัดสามารถดาวน์โหลดข้อมูลของพื้นที่ตนเองมาเรียนรู้ ทำความเข้าใจได้อย่างรอบด้าน ทั้งด้านพื้นที่ แหล่งน้ำ
"ในการเตรียมรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ การให้ข้อมูลความจริงที่สามารถเช็กและตรวจสอบได้ทางกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญ และการที่นักวิชาการหรือนักธรณีวิทยาจะสื่อสารว่าจะเกิดภัยพิบัติ นั่นหมายความว่า เขาต้องมีข้อมูลและปัจจัยที่เกี่ยวข้องครบทุกด้าน เนื่องจากต้องคำนึงถึงความเสียหายที่ตามมาหากภัยไม่เกิด ดังนั้น ข้อมูลที่เผยแพร่บนเพจเป็นการให้ข้อมูลความจริงทางธรณีวิทยา"
ที่ผ่านมา แผนที่ในเว็บไซต์และเพจถูกนำไปใช้ประกอบการวางแผนรับมือภัยพิบัติและกระจายไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเพจสาธารณะอื่น ๆ เพื่อการเตือนภัยและเตรียมแผนรับมือ
"เวลาที่มีข่าวสถานการณ์ภัยพิบัติ ผมจะดึงเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น ทำเป็นแผนที่ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ปรับสเกลให้มองเห็นชัด นำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่ายที่สุด และพร้อมใช้งานที่เหมาะกับภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว ดินถล่ม แยกเป็นชุด ๆ เพื่อแจ้งเตือนคนในพื้นที่สามารถนำไปแชร์ต่อหรือนำข้อมูลไปใช้ในการเตรียมรับมือได้อย่างมีประสิทธิผล"
อาจารย์สันติเล่าถึงการใช้แผนที่โดยยกกรณีน้ำท่วมที่จังหวัดน่านและเชียงรายว่า "ผมทำข้อมูลภูมิประเทศของจังหวัดน่านและเชียงรายมาเผยแพร่ว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่อ่อนไหว พื้นที่ใดเป็นทางน้ำไหลผ่านหรือร่องน้ำลึก โดยดูเทียบกับปริมาณน้ำฝน 24 ชั่วโมงในแต่ละวัน เพื่อแจ้งเตือนให้ผู้คนเกิดความตระหนักและเตรียมรับมือกับมวลน้ำที่กำลังมา"
ล่าสุด แผนที่ GIS ของมิตรเอิร์ธยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Digital War Room แพลตฟอร์มจุฬาฯ ฝ่าพิบัติ นวัตกรรมทำนายพื้นที่น้ำท่วมและแนวดินถล่มจากอุทกภัย อันเป็นดำริของอธิการบดี จุฬาฯ ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร ที่อยากให้จุฬาฯ ช่วยสังคมในเรื่องการเตือนภัยพิบัติ ไม่ใช่แค่เฉพาะบริจาคหรือนำของไปให้ผู้ประสบภัย
อาจารย์สันติกล่าวถึงบทบาทในโครงการนี้ว่า "อาจารย์คณะครุศาสตร์มีความเชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีการสื่อสาร และเทคโนโลยีการศึกษา ที่สามารถทำระบบแพลตฟอร์มได้ แต่ไม่มี materials ในการเตือนภัย ซึ่งผมมี ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลร่องน้ำ หรืออื่น ๆ ที่ใช้เตือนภัย เราจึงร่วมมือกัน โดยผมเป็นฝ่ายสนับสนุนข้อมูลให้ทีมอาจารย์คณะครุฯ นำข้อมูลไปขึ้นบนแพลตฟอร์ม และเมื่อเกิดภัยพิบัติ ผมจะช่วยนำเสนอและบอกเล่าสถานการณ์แบบใกล้เคียงเรียลไทม์มากที่สุด เพื่อเตือนภัยระหว่างที่เกิดภัย และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น"
มิตรเอิร์ธ บรรเทาภัยพิบัติทุกมิติ
เมื่อมีการถามถึงโอกาสที่จะนำ AI (Artificial Intelligence) มาใช้ในการพยากรณ์ภัยพิบัติในอนาคต อาจารย์สันติกล่าวว่ายังไม่เหมาะและประเทศไทยอาจยังไม่พร้อม
"ภัยธรรมชาติมีความซับซ้อน และ AI ยังอยู่ในช่วงกำลังเรียนรู้ ยังไม่มีการนำเข้าข้อมูลประสบการณ์ภัยพิบัติที่มากพอ ซึ่งหาก AI พยากรณ์พลาด ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นจะได้ไม่คุ้มเสีย เพราะฉะนั้นในบริบทประเทศไทย เรายังไม่พร้อมที่จะฝากชีวิตไว้กับ AI"
ทุกวันนี้ อาจารย์สันติยังคงตั้งใจเป็นแอดมินเพจด้วยตัวเอง ได้ตอบข้อคำถามและรับฟังข้อคิดเห็นคอมเมนต์จากคนในพื้นที่ประสบภัย ซึ่งเป็นข้อมูลประกอบที่ดีในการทำวิจัยและทำให้เข้าใจภัยพิบัติมากขึ้นด้วย
"ที่ผ่านมา มีทั้งคนในพื้นที่ ปราชญ์ชาวบ้าน หรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ เข้ามาแชร์ข้อมูลจากทางเพจไป หากเขาสงสัยหรือไม่เข้าใจตรงจุดไหน เขาก็จะส่งข้อความมาสอบถาม บางครั้งก็แจ้งข่าวสถานการณ์ ซึ่งทำให้ได้รายละเอียดข้อมูลจริงมาปรับการแสดงผลข้อมูลพื้นที่ทำให้เห็นภาพภูมิประเทศหน้างานจริงว่า ขณะนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง"
"ในฐานะนักวิจัยและนักธรณีวิทยา ผมตั้งใจจะใช้เครื่องมือ GIS ในการพัฒนาและสร้างสรรค์ชุดข้อมูลภูมิประเทศในมิติอื่น ๆ เพื่อบรรเทาภัยพิบัติเพิ่มให้ครบทุกมิติ เช่น แนวร่องน้ำไหล แนวร่องน้ำที่มีถนนกั้นน้ำที่เสี่ยงถนนขาด จุดอพยพได้ จุดเสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง และพัฒนาสเกลของชุดข้อมูลให้ละเอียดขึ้นในระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด และพัฒนารูปแบบการนำเสนอให้มันย่อยง่าย ดูง่ายขึ้น รวมไปถึงให้ข้อมูลควรรู้สำหรับรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ"
แม้ว่าขณะนี้ภัยพิบัติทางภาคเหนือ อีสาน กลาง และภาคใต้ดูจะคลี่คลายไปบ้างแล้ว แต่ภัยพิบัติเกิดขึ้นได้เสมอและแนวโน้มดูจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ถึงเวลาที่เราทุกคนควรมีความรู้ความเข้าใจด้านธรณีวิทยา รู้จักภูมิศาสตร์ท้องถิ่น แหล่งน้ำ ระดับความสูงต่ำของพื้นที่ ฯลฯ ความรู้เหล่านี้เป็นหนทางให้เรารับมือภัยพิบัติล่วงหน้า และแม้เราจะไม่ได้เรียนเรื่องนี้ในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมาก่อน แต่เวลานี้ เรามี "มิตรเอิร์ธ"
ติดตามสาระความรู้ทางธรณีวิทยาและดาวน์โหลดชุดข้อมูลภูมิประเทศ ได้ที่
เฟซบุ๊กเพจ มิตรเอิร์ธ - mitrearth https://www.facebook.com/mitrearth
หรือเว็บไซต์ https://www.mitrearth.org/
ที่มา: ศูนย์สื่อสารองค์กร จุฬาฯ