บลจ.กรุงศรี เปิด RMF ใหม่ 2 กองทุน จับศักยภาพ Nasdaq และ Emerging Markets

พุธ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ๑๖:๐๑
บลจ.กรุงศรี เปิดตัว 2 กองทุน RMF สำหรับพอร์ตเน้นสร้างผลตอบแทน จับโอกาสเติบโตสำคัญของดัชนีดาวรุ่งอย่าง Nasdaq 100 และ กลุ่มตลาดเกิดใหม่ไม่รวมจีน เสนอขายครั้งแรก: 21 - 27 พ.ย. นี้
บลจ.กรุงศรี เปิด RMF ใหม่ 2 กองทุน จับศักยภาพ Nasdaq และ Emerging Markets

นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า "บริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุน RMF ใหม่ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุน KFNDQRMF และกองทุน KFEMXCNRMF เนื่องจากมองว่าการลงทุนในหุ้นของดัชนี NASDAQ 100 จะได้รับผลดีจากนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เช่น การลดภาษีสำหรับบริษัทเทคโนโลยี การลดกฎระเบียบภาครัฐ และการสนับสนุนการลงทุนในนวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลกำไรให้กับบริษัทใน NASDAQ และส่งเสริมการเติบโตของภาคเทคโนโลยีและนวัตกรรมในระยะยาว นอกจากนี้ การลงทุนในประเทศกลุ่ม Emerging Markets ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจจากการเติบโตของเศรษฐกิจในอัตราที่สูง และได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายภาครัฐ เช่น มาตรการส่งเสริมการบริโภค การลงทุนภาครัฐ การผ่อนคลายกฎเกณฑ์ทางธุรกิจ มาตรการทางภาษี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของตลาดหุ้นในแต่ละประเทศ รวมทั้งแรงหนุนจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ Emerging Markets"

"สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นดีคิวอินเด็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFNDQRMF) ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Invesco NASDAQ 100 ETF มุ่งสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี NASDAQ-100 ซึ่งมีสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งบรรยากาศการลงทุนในเชิงบวก และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทำให้หลายบริษัทในพอร์ตกลายเป็นดาวรุ่งแห่งทศวรรษ และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง"

"ด้านปัจจัยพื้นฐานของหุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ได้แก่ Alphabet, Amazon, Apple, Meta, Microsoft, Nvidia และ Tesla ก็เป็นตัวขับเคลื่อนที่มีความแข็งแกร่ง รวมทั้งกำไรต่อหุ้น(EPS)ของหุ้นในกลุ่ม Magnificent 7 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจต่างๆเกี่ยวกับ Generative AI ทั้งนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาบริษัทในดัชนี Nasdaq-100 สามารถสร้างการเติบโตทั้งรายได้ กำไร และอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงกว่าดัชนีหุ้นสหรัฐฯอื่นๆอย่างมาก* นอกจากนี้กองทุนหลักใช้กลยุทธ์การลงทุนเชิงรับที่มีเป้าหมายให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี ทำให้กองทุนมีจุดเด่นเรื่องสภาพคล่องสูง และค่าธรรมเนียมต่ำอีกด้วย" (* ที่มา: Nasdaq, Invesco ณ 31 ธ.ค. 66)

"ในส่วนของกองทุนเปิดกรุงศรีอีเมอร์จิ้งมาร์เก็ต เอ็กซ์ไชน่า อินเด็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFEMXCNRMF) เข้าถึงโอกาสการลงทุนในกลุ่ม Emerging Markets ยกเว้นประเทศจีน มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก iShares MSCI Emerging Markets ex China ETF ซึ่งเป็นหนึ่งใน ETF ชั้นนำของกลุ่ม Emerging Markets มีขนาดกองทุนที่ใหญ่และสภาพคล่องสูงเมื่อเทียบกับ Emerging Markets ETF ในตลาด** สำหรับประเทศในกลุ่ม Emerging Markets มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ ซึ่งการไม่ลงทุนในจีนเนื่องจากขนาดตลาดและเศรษฐกิจของจีนคิดเป็นสัดส่วนสำคัญของตลาด Emerging Markets ดังนั้นการแยกการลงทุนในจีนออกจากกลุ่มจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนจากการลงทุนในหุ้นจีนได้"

(** ที่มา : https://etfdb.com/index/egai-emerging-markets-ex-china-index/ ณ 16 ต.ค. 67)

"พอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักมีการกระจายลงทุนในหลายประเทศที่มีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตที่โดดเด่น มีโอกาสเติบโตจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ทั้งในด้านฐานประชากร การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการเป็นฐานการผลิตสำคัญของหลายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ AI และเทคโนโลยี เช่น Semiconductor, Datacenters เป็นต้น โดยประเทศที่มีสัดส่วนการลงทุนในอันดับต้นๆของพอร์ต ได้แก่ อินเดีย ไต้หวัน เกาหลี และบราซิล* ทั้งนี้ อินเดียมีศักยภาพเติบโตจากฐานประชากรจำนวนมาก โดยเฉพาะในวัยทำงานซึ่งส่งผลดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ มีการคาดการณ์กันว่าสัดส่วนประชากรในวัยทำงานต่อประชากรทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นแซงหน้าจีนภายในปี 2573 ด้านไต้หวันและเกาหลีใต้ก็มีสัดส่วนของ GDP ที่เชื่อมโยงกับความก้าวหน้าและความต้องการด้าน AI และเทคโนโลยี นอกจากนี้ไต้หวันยังเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก จึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในระยะยาว ขณะที่บราซิลเป็นผู้ผลิตสินค้าภาคเกษตรรายใหญ่ และเป็นผู้ส่งออกสำคัญในตลาดโลกครอบคลุมทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา และหากพิจารณาด้านระดับราคาของ Emerging Markets ex China ก็ยังไม่แพงเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก* รวมทั้งคาดการณ์รายได้ของกลุ่ม AI Semiconductor มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นอีกด้วย" (ที่มา : ***iShares ณ 16 ต.ค. 67 / ****Bloomberg ณ 15 ต.ค. 67 *****Gartner ณ พ.ค. 67)

"บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่ากองทุนKFNDQRMF และกองทุนKFEMXCNRMF เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีของพอร์ตการลงทุนจากศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมความพร้อมสำหรับการเกษียณอย่างมีประสิทธิภาพ" นางสุภาพร กล่าว

สอบถามเพิ่มเติมพร้อมขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงศรี โทร. 02-657-5757 หรือ www.krungsriasset.com หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

ที่มา: บลจ.กรุงศรี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๕ SOLUX Clinic เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำความสวยที่มีระดับ (พรีเมียม)
๑๖:๓๖ บลจ.อีสท์สปริง เปิดขายกองทุนพันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น อายุ 6 เดือน มูลค่า 6,000 ล้านบาท 21-28 พ.ย.นี้ ชูโอกาสรับผลตอบแทน 1.90%
๑๖:๒๗ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวทัพยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury สะท้อนนิยาม The Art of Cultivated Luxury จัดแสดงครั้งแรกที่ One Bangkok
๑๖:๕๑ 'ผู้ว่าฯ ชัชชาติ' เยี่ยมชมผลงาน DEKOCM SPU เรียน เล่น เล่า ครั้งที่ 2 พร้อมส่งมอบ 7 โมเมนต์แห่งความสุขในกรุงเทพฯ
๑๖:๕๓ ซีพีเอฟ เปิดเวที Feed Sustainovation 2024 เสริมพลังบุคลากรด้วย AI และนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
๑๖:๔๙ ธุรกิจสุกร CPF คิดสร้างสรรค์ Waste No More สานต่อความยั่งยืน พลิกฟื้นคืนของเสีย.สู่ของดีอย่างมีประสิทธิภาพ
๑๖:๒๖ ซีพีเอฟหนุน ร้านกาแฟเด็กน้อยทำมือ มุ่งสู่อาชีพที่ยั่งยืน ฝีกทักษะนักเรียน รร.บ้านราษฎร์ดำเนิน ชัยภูมิ
๑๖:๐๗ NAM ฐานแน่น! แย้มผลงาน Q4/67 ทรงดี อานิสงส์นโยบายภาครัฐหนุนดีมานด์ผลิตภัณฑ์การแพทย์ ลุยเจาะตลาด B2B-B2C
๑๖:๔๙ Finnomena Funds ชูแคมเปญ 'ของดีฟินโนมีนา' เผยโพยกองทุนลดหย่อนภาษีโค้งสุดท้ายปี 2567 พร้อมอีเวนต์สุดพิเศษ
๑๖:๔๖ กรมอนามัย ย้ำ ท้องถิ่นเร่งปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้าน หลังพบการปนเปื้อนแบคทีเรีย