ราช กรุ๊ป - เอไอเอฟ กรุ๊ป - โรนิตรอน จับมือศึกษาและพัฒนาโครงการผลิตกรีนไฮโดรเจน - กรีนแอมโมเนีย จากพลังงานสะอาดใน สปป.ลาว

ศุกร์ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๐๒๔ ๑๕:๐๗
นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (กลาง) ร่วมด้วย ดร. ลิดทิกอน พูมมะสัก ประธานบริษัท บริษัท เอไอเอฟ กรุ๊ป จำกัด (ซ้าย) และนายสุภกิณห์ สมศรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรนิตรอน จำกัด (ขวา) ลงนามบันทึกความร่วมมือศึกษาและแสวงหาโอกาสในการพัฒนาโครงการกรีนไฮโดรเจนและกรีนแอมโมเนียจากพลังงานหมุนเวียนใน สปป. ลาว เพื่อรองรับความต้องการพลังงานสะอาดของภาคอุตสาหกรรม ภาคขนส่งและการผลิตไฟฟ้าในอนาคต พร้อมสนับสนุนความมุ่งมั่นของนานาชาติสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
ราช กรุ๊ป - เอไอเอฟ กรุ๊ป - โรนิตรอน จับมือศึกษาและพัฒนาโครงการผลิตกรีนไฮโดรเจน - กรีนแอมโมเนีย จากพลังงานสะอาดใน สปป.ลาว

การลงนามครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของพันธมิตรธุรกิจ 3 บริษัท ทั้ง ราช กรุ๊ป ที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าชั้นนำที่มีความรู้และประสบการณ์อย่างยาวนานในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนโดยมีฐานการผลิตในประเทศไทย สปป.ลาว ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนเอไอเอฟ กรุ๊ป เป็นกลุ่มธุรกิจชั้นนำของ สปป.ลาว ซึ่งมีฐานธุรกิจที่มั่นคงและลงทุนในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทั้งภาคการเงิน พลังงานและสาธารณูปโภค โลจิสติกส์ ฯลฯ และโรนิตรอน มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี การจำหน่ายและการจัดการโลจิสติกส์ด้านเชื้อเพลิงสะอาด ความร่วมมือของทั้ง 3 ฝ่ายในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างธุรกิจกรีนไฮโดรเจนและกรีนแอมโมเนีย ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงแห่งอนาคตที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน และเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ในการสร้างมูลค่าและคุณค่าในระยะยาวต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมในอนาคต

สำหรับ สปป.ลาว นับว่ามีศักยภาพและเหมาะสมสำหรับที่ตั้งดำเนินโครงการ เนื่องจากมีความพร้อมของปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นใช้ในกระบวนการผลิตเชื้อเพลิงกรีนไฮโดรเจน โดยมีแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่มีความหลากหลาย อาทิ พลังงานน้ำ พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ มีโครงสร้างสายส่งไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าย่อย มีปริมาณแหล่งน้ำดิบที่เพียงพอใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต รวมทั้งมีระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งจะรองรับกระบวนการผลิตเป็นเชื้อเพลิงกรีนไฮโดรเจนและกรีนแอมโมเนียได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งระบบโลจิสติกส์ที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย ทั้งนี้ ตลาดเป้าหมายรองรับความต้องการใช้กรีนไฮโดรเจนและกรีนแอมโมเนีย ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ เป็นต้น

ที่มา: ราช กรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๔๖ MEDEZE ต้อนรับสถาบันนักลงทุน CSI เยี่ยมชมบริษัท
๑๓:๔๙ บริษัท อินเตอร์ไฟเบอร์ คอนเทนเนอร์ จำกัด รับประกาศนียบัตร เครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ประจำปี 2567
๑๓:๔๓ AJA จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ผถห. โหวตผ่านทุกวาระ พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ใหม่ รีแบรนด์ AJ EV BIKE สู่
๑๓:๕๑ SCAP ตั้งเป้าระดมทุนโดยการขายหุ้นกู้1,600 ล้านบาท ชูดอกเบี้ยสูงสุด 5.05% ต่อปี ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือที่ BBB เปิดขายวันที่ 31 ม.ค. และ 3-4 ก.พ.
๑๒:๐๐ สกสว. - สวทช. รุกปั้นกลุ่ม ผู้จัดการงานวิจัยและนวัตกรรม หนุนระบบบุคลากร
๑๒:๑๕ HMD ประเทศไทย เปิดแผนธุรกิจปี 68 ย้ำมุ่งพัฒนาสมาร์ทโฟนคุณภาพ ด้วยปรัชญา ใช้งานปลอดภัย ไว้ใจได้ ด้วยราคาเข้าถึงง่าย
๑๑:๑๒ VEHHA Hua Hin คว้า Fitwel มาตรฐานคอนโดระดับโลก ยกระดับคุณภาพชีวิตระยะยาว ต่อยอดจุดแข็งสู่ที่สุดของความครบครัน
๑๑:๐๐ ttb reserve มอบประสบการณ์ใหม่เหนือระดับเพื่อลูกค้าคนสำคัญ
๑๑:๓๙ ศิลปะจักสานหลินซู ภูมิปัญญาโบราณสู่ตลาดโลก
๑๑:๐๐ ฉลองครบ 10 ปี HOUSE OF LITTLEBUNNY กระเป๋าแบรนด์ไทย จากกระต่ายน้อยตัวเล็ก เติบโตสู่ตลาดอินเตอร์ จัดแฟชั่นโชว์ยิ่งใหญ่