พรินซิเพิล เปิดตัวกองทุน 'การันตีสเต็ปอัพ' รับประกันเงินต้น 100% ล็อกกำไรแบบขั้นไดเพิ่มขึ้น เน้นเงินต้นปลอดภัย กลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทน

จันทร์ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๐๒๔ ๑๐:๕๘
พรินซิเพิล เปิดตัวกองทุน 'การันตีสเต็ปอัพ' รับประกันเงินต้น 100% ล็อกกำไรแบบขั้นไดเพิ่มขึ้น เน้นเงินต้นปลอดภัย กลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทน เสนอขายกองทุนเปิด PRINCIPAL GSTEP วันที่ 18 พ.ย. - 4 ธ.ค.นี้
พรินซิเพิล เปิดตัวกองทุน 'การันตีสเต็ปอัพ' รับประกันเงินต้น 100% ล็อกกำไรแบบขั้นไดเพิ่มขึ้น เน้นเงินต้นปลอดภัย กลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทน

บลจ. พรินซิเพิล แนะนำทางเลือกการลงทุนแก่ผู้ลงทุนที่เน้นความปลอดภัยของเงินต้นลงทุน พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี เปิดตัวกองทุนเปิด "พรินซิเพิล การันตีสเต็ปอัพ" (PRINCIPAL GSTEP) ชูจุดเด่นรับ "ประกันเงินต้น 100%" และล็อกกำไรขั้นต้นแบบขั้นบันไดเพิ่มขึ้นเมื่อลงทุนครบตามกำหนดอายุกองทุน เสนอขายครั้งแรกและครั้งเดียวแก่นักลงทุนรายย่อย ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน ถึง 4 ธันวาคมนี้ ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า จากมุมมองการลงทุนในระยะถัดไป ตลาดการลงทุนมีความผันผวน และความไม่แน่นอนสูง หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งทั้ง 2 สภา คือ ส.ว. และส.ส. ทำให้นโยบายของทรัมป์มีผลบังคับใช้ได้ง่ายขึ้น เช่น การขึ้นภาษีกับประเทศคู่ค้า ส่งผลให้เงินเฟ้ออาจกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง และเป็นอุปสรรคต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในอนาคต รวมถึงความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์รอบใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อีกทั้งตลาดหุ้นบางประเทศที่ Valuation ค่อนข้างแพง และปรับตัวขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมา เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสปรับฐานได้ ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าว ทาง บลจ. พรินซิเพิล ได้นำเสนอทางเลือกการลงทุนที่เหมาะกับผู้ลงทุนระยะกลางถึงยาวที่มองหาโอกาสเติบโตให้กับเงินลงทุนแต่ไม่อยากรับความเสี่ยงสูง และสามารถล็อกกำไรจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นตลอดอายุการลงทุน จึงได้เปิดตัวกองทุนเปิด "พรินซิเพิล การันตีสเต็ปอัพ" หรือ Principal Guaranteed Step-up Fund (PRINCIPAL GSTEP) มีทุนจดทะเบียน 5,000 ล้านบาท (Greenshoe 15%) สั่งซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกและครั้งเดียวแก่ผู้ลงทุนรายย่อย ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน - 4 ธันวาคม 2567

กองทุนเปิด PRINCIPAL GSTEP มีจุดเด่นสำคัญ ได้แก่ 1) รับประกันเงินต้น และมีกลไก Step up เพื่อล็อกกำไรแบบขั้นบันไดเพิ่มขึ้น โดย NAV หรือเงินต้นที่รับประกันจะปรับเพิ่มขึ้นตามเงื่อนไขที่กำหนด เมื่อผู้ลงทุนถือหน่วยลงทุนครบตามกำหนดอายุกองทุนประมาณ 5 ปี 6 เดือน 2) สภาพคล่องสูง สามารถขายหน่วยลงทุนบางส่วนหรือทั้งหมดได้ทุกวันทำการ 3) ใช้กลยุทธ์การบริหารพอร์ตการลงทุนแบบยืดหยุ่นตามภาวะตลาด โดยกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลกแบบ Multi Assets เพื่อให้พอร์ตลงทุนเติบโต เช่น ETF, หุ้นสหรัฐฯ และยุโรป, พันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้เอกชน 4) พิสูจน์ผลงานกองทุน Multi Asset บริหารโดยทีมจัดการลงทุน Amundi Asset Management ผลตอบแทนเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง 9.02% ต่อปี และการันตีรางวัล Morningstar 5 ดาว (ที่มา: Amundi 30 กันยายน 2567)

ทั้งนี้ ในการรับประกันเงินต้น และกลไก Step up เพื่อล็อกกำไรแบบขั้นบันไดเพิ่มขึ้นแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนนั้น ทุกๆ ราคา NAV ที่เพิ่มขึ้น 5% กองทุนฯ จะรับประกันราคา NAV เพิ่มขึ้น 2.5% ไปตลอดอายุของกองทุนฯ เช่น เมื่อราคา NAV เพิ่มขึ้นเป็น 10.50 บาทต่อหน่วย หรือ 11.00 บาทต่อหน่วย หรือ 11.50 บาทต่อหน่วย ราคา NAV ที่รับประกัน ณ วันครบกำหนดอายุกองทุนฯ จะอยู่ที่ 10.25 บาทต่อหน่วย 10.50 บาทต่อหน่วย และ 10.75 บาทต่อหน่วยตามลำดับ นอกจากนี้ เมื่อราคา NAV ที่รับประกันถูกปรับเพิ่มขึ้นแล้ว ก็จะไม่ถูกปรับลดลงอีกด้วย

ขณะที่การรับประกันเงินต้นและกลไกการล็อกกำไรแบบขั้นบันไดเพิ่มขึ้นของกองทุนฯ แบ่งเป็น 2 กรณี ได้แก่

  1. กรณีที่ผู้ถือขายคืนหน่วยลงทุน ก่อนถึงวันครบกำหนดอายุกองทุนประมาณ 5 ปี 6 เดือน ผู้ลงทุนจะได้รับคืนเงินต้นที่ราคา NAV ของกองทุนฯ ณ วันที่ทำรายการขายคืน และ
  2. กรณีที่ขายคืนหน่วยลงทุน ณ วันครบกำหนดอายุกองทุนฯ ประมาณ 5 ปี 6 เดือน แบ่งเป็น กรณีที่ราคา NAV ของกองทุนฯ เท่ากับหรือสูงกว่าระดับที่รับประกัน ผู้ลงทุนจะได้รับคืนเงินต้นเท่ากับ ราคา NAV ของกองทุนฯ ส่วนในกรณีที่ราคา NAV ของกองทุนฯ ต่ำกว่าระดับที่รับประกัน ผู้ลงทุนจะได้รับคืนเงินต้นเท่ากับราคา NAV ที่รับประกัน

นายจุมพล กล่าวต่อว่า กองทุนเปิด PRINCIPAL GSTEP บริหารจัดการโดย Amundi Asset Management ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการบริหารสินทรัพย์ที่หลากหลายจากทั่วโลก มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่ากว่า 2 ล้านยูโร และมีความเชี่ยวชาญการบริหารกองทุนประเภท Guarantee Step up โดยถือเป็นผู้นำอันดับ 1 ของยุโรปด้านการทำ Structured Products รวมถึงรับประกันเงินต้นโดย Credit Agricole S.A. ซึ่งเป็นธนาคารจากฝรั่งเศสที่มีขนาดใหญ่ติด Top 10 ของโลก โดยมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งจากส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 135.1 พันล้านยูโร (ข้อมูล ณ สิ้นปี 2023) มีเงินกองทุนชั้นที่ 1 เป็นอันดับ 10 ของโลก และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (เครดิตเรตติ้ง) ที่ A+ จาก S&P และ Fitch Ratings

กองทุนฯ มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย ทั้งตราสารหนี้, ตราสารกึ่งหนี้และกึ่งทุน, ตราสารทุน, หน่วย CIS, หน่วย Property, หน่วย Infrastructure, เงินฝาก และหรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นๆ ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด โดยจะลงทุนในต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนฯ และได้วางกลยุทธ์ปรับพอร์ตการลงทุนเชิงรุกอย่างยืดหยุ่นเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยประมาณ 50% ของพอร์ตลงทุน จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนกลับมาเป็นสกุลเงินบาท ส่วนอีกประมาณ 50% ของพอร์ตการลงทุน จะกระจายการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ เน้นการลงทุนผ่าน ETF ที่มีสภาพคล่อง นอกจากนี้ กองทุนฯ จะป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนอย่างน้อย 75% ของพอร์ตการลงทุน

สำหรับผู้สนใจติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด โทร. 02-686-9500 หรือ www.principal.th หรือดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.principal.th/th/principal/GSTEP นอกจากนี้สามารถเปิดบัญชีและทำรายการซื้อผ่าน Principal TH Mobile App สามารถดาวน์โหลดที่ App Store และ Google Play และ https://www.principal.th/th/principalTH.html

คำเตือน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนมีการประกันเงินลงทุน โดยผู้ลงทุนจะต้องถือหน่วยลงทุนจนครบอผายุโครงการ ประมาณ 5 ปี 6 เดือน (ไม่ต่ำกว่า 5 ปี 5 เดือน และไม่เกิน 5 ปี 7 เดือน) จึงจะได้รับชำระเงินลงทุนคืนตามเงื่อนไขในการรับประกัน และตามความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ประกัน / บริษัทจัดการสงวนสิทธิที่จะยุติการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกและคืนเงินให้กับผู้สั่งซื้อหน่วยลงทุนหรือเลิกกองทุน ในกรณีที่จำหน่ายหน่วยลงทุนได้ต่ำกว่า 1,300 ล้านบาท และบริษัทจัดการพิจารณาเห็นว่าไม่สามารถลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสม / ภายหลังสิ้นสุดระยะเวลาการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิในการยกเลิกการจัดตั้งกองทุนรวมตามดุลยพินิจของบริษัทจัดการ ในกรณีที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 750 ล้านบาทเป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน และบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าการจัดตั้งกองทุนไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยลงทุน เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลให้กองทุนต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำทั้งหมด (Monetization/Cash-Lock) เช่น เมื่อระดับความเสี่ยงที่กองทุนสามารถรับได้ (Risk Budget) ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำ หรือเมื่อมูลค่าหน่วยลดลงเข้าใกล้ระดับมูลค่าหน่วยลงทุนที่รับประกัน เป็นต้น และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน โดยมูลค่าหน่วยลงทุนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับซื้อคืนอัตโนมัติ ต้องไม่ต่ำกว่าราคาเสนอขายหน่วยลงทุนในช่วงเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (มูลค่าที่ตราไว้บวกค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน) / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO