กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ ได้จัดตั้งเครือข่ายการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในบรรยากาศ ด้วยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศแบบอัตโนมัติ โดยใช้วิธีการตรวจวัดตามมาตรฐานสากล และเป็นไปตามข้อกำหนดของประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และประกาศกรมควบคุมมลพิษ โดยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศแบบอัตโนมัติของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 96 สถานี ครอบคลุม 65 จังหวัด และกรมควบคุมมลพิษ มีเป้าหมายจะติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศให้ครอบคลุมทุกจังหวัดของประเทศไทย โดย 1 จังหวัด ต้องมีสถานีตรวจวัดฯ อย่างน้อย 1 สถานี เพื่อให้มีข้อมูลสถานการณ์คุณภาพอากาศให้ครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับการกำหนดจุดตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศ จะแบ่งออกเป็น 2 จุดหลักๆ ได้แก่ 1) จุดตรวจวัดสำหรับพื้นที่ทั่วไป ซึ่งจะอยู่ห่างจากขอบถนนหลักประมาณ 50 เมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดปริมาณสารมลพิษทางอากาศที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ ในบริเวณชุมชน และที่พักอาศัยเป็นหลัก และ 2) จุดตรวจวัดสำหรับพื้นที่ริมถนน ซึ่งจะอยู่ห่างจากขอบถนนหลักที่มีการจราจรหนาแน่นไม่เกิน 10 เมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจวัดปริมาณของสารมลพิษทางอากาศในพื้นที่ริมถนนที่เกิดจากการจราจรเป็นหลัก สำหรับสารมลพิษทางอากาศที่ทำการตรวจวัดด้วยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติของกรมควบคุมมลพิษนั้น ประกอบด้วย ฝุ่นละออง PM2.5 ฝุ่นละออง PM10 ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซโอโซน และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ นอกจากนี้ยังมีการตรวจวัดสภาพอากาศทางอุตุนิยมวิทยาในระดับผิวพื้น เพื่อใช้สำหรับเป็นข้อมูลประกอบการประเมินสถานการณ์คุณภาพอากาศเพิ่มเติม ได้แก่ ความเร็วลม ทิศทางลม อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ ความดันบรรยากาศ และปริมาณน้ำฝน
ข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศดังกล่าว จะแสดงข้อมูลแบบ Real Time บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Air4Thai เพื่อให้ประชาชนและผู้ที่สนใจสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังถูกนำไปใช้สำหรับประเมินระดับความรุนแรงของสภาพปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้น อีกทั้งใช้ประเมินการได้รับสัมผัสมลพิษทางอากาศและการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน การวิเคราะห์และการประเมินผลกระทบของการปล่อยมลพิษจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ รวมถึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการเฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนการนำไปใช้ประกอบการกำหนดมาตรการและนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศระดับประเทศ พร้อมทั้งขับเคลื่อนการดำเนินงานแก้ปัญหามลพิษในระดับพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุมลพิษทางอากาศเกินค่ามาตรฐาน ประชาชนจะสามารถรับรู้มลพิษได้ด้วยตนเอง เช่น กลิ่นไม่พึงประสงค์ การหายใจอึดอัด ความระคายเคือง เป็นต้น สามารถแจ้งหรือร้องเรียนผ่านสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด หรือติดต่อกรมควบคุมมลพิษ ได้ที่สายด่วน 1650 เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ที่มา: ซี.เอ.อินโฟ มีเดีย