ธุรกิจในปัจจุบันเต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย แบรนด์ต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อครองใจผู้บริโภค LINE หนึ่งในแพลตฟอร์มดิจิทัลชั้นนำที่เข้าถึงผู้ใช้งานไทยได้มากกว่า 56 ล้านคน พร้อมเครื่องมือทางการตลาดมากมายที่หลากหลายธุรกิจเลือกใช้ ล่าสุด จัดงาน LINE Agency Day 2024 ภายใต้หัวข้อ "DECODE TO UNLOCK Business Potential with LINE Solutions" นำโดย สุวัจฉรี ยลสิริธรรม หัวหน้าฝ่าย Agency Relationship & Development จิรพัฒน์ เดชดนู หัวหน้าทีม LINE Ads Product & Marketing Strategy และ กวินทร์ สวัสดิ์ศรี หัวหน้าทีม Official Account Campaign & Communication จาก LINE ประเทศไทย ชวนพันธมิตรเอเจนซี่ทั่วประเทศ ร่วมอัปเดตข้อมูลสรุปเทรนด์การตลาดดิจิทัลบน LINE ที่มาแรงแห่งปี พร้อมเทรนด์การใช้งานหลากหลายเทคโนโลยี ยกระดับธุรกิจไทยสู่ความสำเร็จในปีที่ผ่านมา
ภายในงาน ได้เผยถึงสภาพการณ์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลต่อทิศทางการทำการตลาดดิจิทัลในเมืองไทยอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าสู่ยุค Cookieless ทำให้แบรนด์ต้องหันมาให้ความสำคัญกับการเก็บข้อมูล 1st Party Data มากขึ้น การรับมือกับกลลวงบนโลกออนไลน์ สถานการณ์ Marketing overwhelming หรือกิจกรรมทางการตลาดที่มีจำนวนมากและซับซ้อนเกินไป จนทำให้ทั้งแบรนด์และผู้บริโภคจัดการหรือตัดสินใจยากขึ้น ผู้บริโภคที่มีความละเอียดและซับซ้อนมากขึ้นในความต้องการ ไปจนถึงพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคที่เลือกมากขึ้นโดยจะซื้อสินค้าที่ตอบโจทย์โดนใจจริงๆ เท่านั้น
สถานการณ์เหล่านี้ ทำให้หลากหลายแบรนด์มีการปรับตัวในการทำการตลาด ด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัลบน LINE เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญที่น่าสนใจและจะดำเนินต่อเนื่องต่อไปในปี 2025
ปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้าถึง เข้าใจผู้บริโภคไทย
ในยุคที่ "ดาต้า" คือขุมทรัพย์ หลายแบรนด์ใช้เครื่องมือ MyCustomer เป็นระบบจัดเก็บ รวบรวม และบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อจำแนก วิเคราะห์ และแบ่งกลุ่มเป้าหมาย นำไปทำการสื่อสาร การตลาดแบบเฉพาะเจาะจงหรือ Personalize จากข้อมูล LINE พบว่า แบรนด์มีการเก็บ 1st Party Data ผ่าน MyCustomer เติบโตอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 18% ในช่วงปี 2021-2024 นอกจากนี้ แบรนด์ที่นำ 1st Party Data มาใช้ในการทำการสื่อสารแบบเฉพาะเจาะจงสามารถเพิ่มอัตราการคลิก (CTR) สูงขึ้นถึง 4 เท่า
อีกหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือ การใช้ช่องทางโฆษณาแบบผสมผสาน (Omni-Media) ด้วยการลงโฆษณารูปแบบ Reservation Ads เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายระดับ Mass ควบคู่กับการลงโฆษณาบน LINE Ads เพื่อเจาะกลุ่มเฉพาะ โดยการทำ Cross-Targeting จากโฆษณาในสองช่องทางนี้ สามารถเพิ่มอัตราการคลิก (CTR) ได้ถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับการใช้ช่องทางเดียว โฆษณาในกลุ่ม Reservation Ads ที่มาแรงแห่งปีคือ Pop-up Ads ที่แบรนด์สามารถเลือกให้ปรากฏบน LINE Wallet, LINE OpenChat และ LINE TODAY ได้ตามต้องการ ในขณะที่โฆษณาในกลุ่ม LINE Ads ที่มาแรงคือ Smart Channel Custom ที่คาดการณ์การเติบโตถึง 128% ในสิ้นปี
ในปีนี้ LINE ได้พัฒนาออกตัวเลือกในการระบุกลุ่มเป้าหมายบน LINE Ads ให้หลากหลายและละเอียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์สามารถขยายฐานการรับรู้ไปยังผู้ใช้กลุ่มใหม่ๆ ผ่าน LINE Ads ได้ดียิ่งขึ้น หลังจากได้มีการเพิ่มตัวเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ติดตาม LINE OA ที่มีพฤติกรรม ความสนใจในหัวข้อที่แตกต่างกันไป สามารช่วยเพิ่มอัตราคอนเวอร์ชันให้โฆษณาได้ถึง 2 เท่า ล่าสุด ภายในงาน LINE ได้ออกตัวเลือกกลุ่มเป้าหมายใหม่บน LINE Ads คือหัวข้อกลุ่มสนทนาใน LINE OpenChat ช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารด้วยโฆษณาถึงกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจ และเป็นไปอย่างแม่นยำขึ้นอีกขั้น
ถอดรหัสใช้เครื่องมือ LINE ปลดล็อกศักยภาพธุรกิจ
โซลูชั่นหลากหลายและมีประสิทธิภาพของ LINE กำลังเปลี่ยนเกมสำหรับธุรกิจที่ต้องการเชื่อมต่อกับลูกค้าในยุคปัจจุบัน เริ่มจากกลุ่มธุรกิจค้าปลีก แบรนด์ค้าปลีกใหญ่ในไทยมักมีหลายสาขาทั่วประเทศ จึงนิยมเปิดใช้งาน LINE OA ส่วนกลางและ LINE OA ของแต่ละสาขาควบคู่กันไป เพื่อกระจายการสื่อสาร สร้างประสบการณ์บริการให้ตรงใจผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ โดยใช้เครื่องมือ Business Manager ทำหน้าที่เป็นตัวกลางแชร์ข้อมูล LINE OA ข้ามสาขา แลกเปลี่ยนข้อมูลผู้ติดตาม เพื่อทำ Cross-Targeting ควบคู่กับโฆษณาบน LINE Ads ได้ ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการใช้ Omni-Channel บน LINE ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมนิยมสร้างประสบการณ์ Chat & Shop อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า สามารถแชตและช็อป ครบจบบน LINE OA และนิยมลงโฆษณาบนหลากหลายตำแหน่งใน LINE เพื่อสร้าง Impact ในการรับรู้ให้ลูกค้าชาวไทยได้มองเห็นโฆษณาในแคมเปญสำคัญ
ขณะที่กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว มีการใช้โซลูชั่นหลากหลายบน LINE เพื่อช่วยให้ธุรกิจเข้าไปมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้ตลอดเส้นทางการวางแผนและเดินทางท่องเที่ยว โดยในช่วงก่อนเดินทาง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวมองหาข้อมูลบริการและโปรโมชันที่โดนใจ แบรนด์มีการนำเสนอเนื้อหาทั้งในรูปแบบโพสต์และโฆษณาด้วยคอนเทนต์ที่น่าสนใจ รีวิวสถานที่พัก ที่ท่องเที่ยวผ่าน LINE TODAY และ LINE VOOM เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสู่จุดหมายปลายทางตามความสนใจของลูกค้า และเมื่อเข้าสู่กระบวนการจองโรงแรม ที่พักหรือแม้กระทั่งร้านอาหาร แบรนด์มีการใช้เครื่องมือ MyShop มาช่วยสร้างประสบการณ์การจอง การสั่งซื้อให้ง่ายและสะดวกสำหรับลูกค้าได้ผ่าน LINE SHOPPING
ในส่วนกลุ่มธุรกิจรถยนต์ แบรนด์มีการใช้ LINE ช่วยในการหา Leads ตลอดจนฟูมฟักความสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เพื่อสร้างความไว้วางใจจนกลายเป็นลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อหรือทำการซื้อในที่สุด ด้วยการลงโฆษณาและสื่อสาร นำเสนอเนื้อหาแตกต่างกันไปตามระดับความสนใจของลูกค้า เช่น กลุ่มที่มีแนวโน้มจะซื้อรถภายใน 1 เดือน แบรนด์อาจเน้นนำเสนอรายละเอียดโปรโมชัน ข้อเสนอพิเศษให้ สำหรับกลุ่มที่ยังลังเลหรือเริ่มสนใจ แบรนด์อาจเน้นนำเสนอข้อมูลรถรุ่นต่างๆ หรือราคาให้เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้น เป็นต้น นอกจากนี้ แบรนด์ยังมีการใช้เทคโนโลยี LINE Log-in เพื่อเก็บข้อมูล User ID ของลูกค้าไว้ เพื่อให้แบรนด์สามารถนำมาใช้ต่อยอด สร้างประสบการณ์แบบ Personalize ให้กับลูกค้าแต่ละคนได้ตรงใจ ตรงความต้องการ
ด้านกลุ่มธุรกิจธนาคาร การเงิน และประกันภัย เป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการสื่อสารและให้บริการ จึงมีการใช้งานโซลูชันของ LINE อย่างหลากหลาย เพื่อสร้างการสื่อสาร บริการที่ Personalize ตรงตามการใช้งานของผู้ใช้แต่ละบุคคล และเชื่อถือได้ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้า โดยนิยมส่งข้อความ Broadcast หาลูกค้าผ่าน LINE OA ด้วยเทคนิคที่หลากหลาย เทคนิคที่นิยมมากสุดคือการส่งข้อความบรอดแคสต์แบบ Push Message หาผู้ใช้แต่ละบุคคลผ่าน User ID โดยในปี 2023 พบว่า กลุ่มธุรกิจนี้มีการส่ง Push Message หาลูกค้าเพิ่มจากปีก่อนถึง 130% อีกทั้งยังมีการพัฒนาสร้างแชตบอทเพื่อตอบกลับหาลูกค้าผ่าน LINE API เพิ่มมากขึ้นถึง 82% อีกหนึ่งเครื่องมือที่ธุรกิจกลุ่มนี้นิยมใช้งานมากสุดจากทุกกลุ่มธุรกิจคือ LINE Official Notification (LON) โซลูชันข้อความแจ้งเตือนผ่าน LINE OA โดยอาศัยข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าที่แบรนด์มี สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ปิดท้ายด้วยกลุ่มธุรกิจ FMCG ที่ให้ความสำคัญกับการทำ Hyper Segmentation เพื่อตอบโจทย์ความสนใจของลูกค้าที่หลากหลายและเฉพาะกลุ่มเป็นอย่างมาก แบรนด์จึงมีการใช้ LINE OA เชื่อมต่อระบบต่างๆ เพื่อสร้างแบบสอบถาม สำรวจความชื่นชอบ ความสนใจของลูกค้า เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาต่อยอดสร้างแคมเปญให้ตรงใจ ตรงกลุ่มมากที่สุด และนิยมใช้หลากหลายช่องทางบน LINE เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมในแคมเปญการตลาดร่วมกัน อาทิ การลงโฆษณาผ่าน LINE Ads หรือโพสต์คอนเทนต์ผ่าน LINE VOOM เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าร่วมกิจกรรมบน LINE OA การลงโฆษณาแคมเปญบน LINE Ads ด้วยโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมเพื่อกระตุ้นการเพิ่มเพื่อนใน LINE OA ซึ่งพบว่าทำให้ CTR เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าและอัตราการเพิ่มเพื่อนดีขึ้น 1.4 เท่า นอกจากนี้ ยังพบว่า การลงโฆษณาบน LINE Ads ด้วยวิดีโอที่มี KOL เพื่อกระตุ้นการเพิ่มเพื่อนใน LINE OA ช่วยทำให้ CTR ดีขึ้น 4 เท่า และอัตราการเพิ่มเพื่อนดีขึ้นถึง 2 เท่า
ทังหมดนี้ คือ ภาพรวมของการถอดรหัสทิศทางเทรนด์การตลาดบน LINE ที่เกิดขึ้นในปีนี้และจะดำเนินต่อไปในปี 2025 โดยโซลูชั่นบน LINE สามารถเข้าไปช่วยปลดล็อกศักยภาพธุรกิจไทยให้สอดคล้องกับบริบทเฉพาะของแต่ละธุรกิจได้เป็นอย่างดี สำหรับแบรนด์ที่สนใจใช้งานแพลตฟอร์มหรือโซลูชั่นต่างๆ บน LINE สามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อติดต่อสอบถามทีมที่ปรึกษาธุรกิจองค์กร LINE ประเทศไทยได้ที่ https://lineforbusiness.com/th/contact หรือติดต่อสอบถามเอเจนซี่ที่ดูแลแบรนด์ของท่านได้ทันที หรือเลือกติดต่อพันธมิตรเอเจนซี่ของ LINE ได้ที่ https://lineforbusiness.com/th/partner
ที่มา: ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์