นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เปิดเผยในการลงพื้นที่ จ.นราธิวาส และสงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ 7 จังหวัด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและมีความเสี่ยงดินโคลนถล่ม สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างมาก โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยผสานความร่วมมือช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะ น้ำ ข้าว ต้องถึงมือประชาชน เร่งอพยพประชาชนให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย สนับสนุนยานพาหนะ เครื่องจักรและอุปกรณ์จำเป็น พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการสัญจร ติดตั้งป้ายแจ้งเตือนเส้นทางเลี่ยงและเร่งระบายน้ำท่วมขัง นอกจากนี้ สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตน้ำประปาจึงได้สั่งการให้ กปภ. เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นและกำชับให้เร่งวางมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็ว
นายจักรพงศ์ คำจันทร์ ผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า กปภ. ได้ปฏิบัติตามแผนการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและแผนการรับมือสถานการณ์อุทกภัย ของ กปภ. เพื่อป้องกันและฟื้นฟูระบบผลิตน้ำประปาให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด และลดผลกระทบต่อการบริการประชาชนให้น้อยที่สุด ปัจจุบัน กปภ.สาขาในพื้นที่ภาคใต้ได้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และรายงานข้อมูลให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีมาตรการในการให้ความช่วยเหลือเยียวยา โดยระดมพนักงานเร่งผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดตราสัญลักษณ์ กปภ. ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ทั่วถึงมากที่สุด ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุขัดข้องได้ที่ PWA Contact Center 1662 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทาง Line OA: การประปาส่วนภูมิภาค (@PWAThailand) และแฟนเพจ Facebook: การประปาส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่
ที่มา: กองสื่อสารองค์กร การประปาส่วนภูมิภาค