กทม. พร้อมเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง-น้ำเค็มรุกล้ำ ป้องกันชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ-จุดฟันหลอ

อังคาร ๐๓ ธันวาคม ๒๐๒๔ ๐๘:๐๑
นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวกรณีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำช่วงตั้งแต่วันนี้ - 10 ธ.ค. 67 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กทม. ได้บูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมชลประทาน กรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อติดตามปริมาณการเก็บกักน้ำใน 4 เขื่อนหลักได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่มีการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดย กทม. ได้ติดตามและเฝ้าระวังค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ ไว้ที่ค่าความเค็มไม่เกิน 1.2 กรัม/ลิตร (ระดับที่ค่าความเค็มเกิน 1.2 กรัม/ลิตร อาจส่งผลกระทบต่อพืชทั่วไปควรระมัดระวังในการใช้น้ำกับการเกษตร) หากค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาเกินมาตรฐานที่กำหนดในช่วงเวลาน้ำขึ้นจะปิดประตูระบายน้ำแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อป้องกันน้ำเค็มจากอ่าวไทยไม่ให้ไหลเข้าสู่พื้นที่คลองชั้นใน ซึ่งเป็นน้ำจืดที่มีอยู่ในคลองโดยทั่วไป รวมทั้งติดตามสถานการณ์ช่วงเวลาน้ำขึ้นและน้ำลงของแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมตรวจวัดค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นประจำทุกวัน
กทม. พร้อมเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง-น้ำเค็มรุกล้ำ ป้องกันชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ-จุดฟันหลอ

นอกจากนี้ กรมชลประทานได้กำหนดแผนการบริหารจัดการน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศ (ความเค็ม) ในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเพิ่มการระบายท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จากระบายวันละ 25 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วัน เป็น 45 ลบ.ม./วัน จนถึงวันที่ 6 ธ.ค. 67 ตามแผนปฏิบัติการผลักดันลิ่มน้ำเค็ม (Water Hammer Operation) ไม่ให้น้ำเค็มขึ้นสูงไปถึงสถานีประปาสำแล อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อลดผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาให้มากที่สุด โดยเฉพาะช่วงน้ำทะเลหนุนสูงในแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงวันที่ 10 ธ.ค. 67

ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูง กทม. ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความแข็งแรงของเขื่อนตามแนวริมแม่น้ำทั้งสองฝั่ง รวมถึงเฝ้าระวังจุดแนวฟันหลอที่ยังไม่มีการสร้างเขื่อน ซึ่งได้เตรียมพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณนอกแนวคันกั้นน้ำ พร้อมทั้งตรวจสอบและดำเนินการเรียงกระสอบทราย เพื่อเสริมความสูงบริเวณแนวป้องกันตนเองบางแห่งที่คันกั้นน้ำมีระดับต่ำและไม่สามารถป้องกันน้ำเอ่อล้นได้ ส่วนพื้นที่ชุมชนที่ยังไม่มีแนวป้องกัน หรือแนวฟันหลอและบริเวณที่คาดระดับน้ำอาจจะเอ่อล้น เช่น บริเวณทางขึ้น-ลงท่าเรือ สะพาน ฯลฯ กทม. ได้ดำเนินการเรียงกระสอบทรายทุกจุด อีกทั้งจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำชนิดเคลื่อนที่ สำรองกระสอบทรายที่บรรจุแล้วและสำรองกระสอบเปล่าที่พร้อมบรรจุทราย หากเกิดเหตุกรณีฉุกเฉินสามารถจัดส่งเจ้าหน้าที่เร่งเข้าดำเนินการแก้ไขได้ในทันที นอกจากนี้ ยังได้แจ้งสำนักงานเขตพื้นที่ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง รวมถึงกรณีคุณภาพน้ำที่มีค่าความเค็มเกินกว่ามาตรฐาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้อุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตรของประชาชนต่อไป

ที่มา: กรุงเทพมหานคร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO