ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า "ทสม." เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ตลอดจนเป็นผู้ประสานงานในท้องถิ่นเพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน หน่วยงานของรัฐ และองค์กรท้องถิ่น ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งในระดับชุมชน ท้องถิ่น และจังหวัด จนเกิดผลงานอย่างเป็นรูปธรรมซึ่งปัจจุบัน มีสมาชิก ทสม. จำนวน 290,976 คน ครอบคลุมทั่วประเทศ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมฯ ได้สร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับเครือข่าย ทสม. เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการส่งเสริมบทบาทให้เครือข่าย ทสม. เป็น "โซ่ข้อกลาง" เชื่อมประสานการทำงานระหว่างภาครัฐและประชาชนในพื้นที่ให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และมีความตระหนักต่อคุณค่า ความสำคัญของฐานทรัพยากรต่าง ๆ ในชุมชน จนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและมีวิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการตั้งรับปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยดำเนินการ ตามหลัก 4 ป. ได้แก่ ประสาน ประชาสัมพันธ์ ปฏิบัติ และประเมินผล พร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเสริมสร้างความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องตามบริบทของพื้นที่ตนเอง
การดำเนินงานในปี 2567 กรมฯ ได้ส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนการดำเนินงานของเครือข่าย ทสม. โดย (1) ปรับปรุงระเบียบ หลักเกณฑ์ และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างและภารกิจ ของกรมฯ ภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (2) ปรับปรุงฐานข้อมูล ทสม. ให้เป็นภาพรวมของกรมฯ (3) การโอนเงินสนับสนุน การพัฒนาเครือข่าย ทสม. 76 จังหวัด (4) ถอดบทเรียนเสริมองค์ความรู้ สู่ผลสำเร็จของ ทสม. และเครือข่าย ทสม. ดีเด่น (6) การอบรม/ประชุม เชิงปฏิบัติการ สร้างการเรียนรู้ การขับเคลื่อนงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และขยายองค์ความรู้ทั้งเชิงประเด็นและเชิงพื้นที่ ในมิติด้านการปรับตัวและการลดก๊าซเรือนกระจก (7) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเครือข่าย ทสม. ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (8) การสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง ไฟป่า ลดหมอกควัน (9) การส่งเสริมบทบาทและพัฒนาศักยภาพเครือข่าย ทสม. โดย "ส่งเสริมเครือข่าย ทสม. สู่สังคมคาร์บอนต่ำ" (10) การส่งเสริมให้เครือข่าย ทสม. เข้าถึงแหล่งทุนด้านสิ่งแวดล้อม (กองทุนสิ่งแวดล้อม) (11) การพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ/พื้นที่ขยายผล เพื่อขอรับใบรับรอง LESS
สำหรับในปี 2568 กรมฯ จะยังคงมุ่งเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งและบูรณาการความร่วมมือของเครือข่ายทุกภาคส่วน โดยมี 5 เป้าหมาย ได้แก่ (1) เครือข่ายและภาคีทุกภาคส่วนสามารถขับเคลื่อนกิจกรรมด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมได้อย่างต่อเนื่อง (2) มีพื้นที่ที่มีการขับเคลื่อนกิจกรรมอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง (3) มีเครือข่ายในการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (4) ประชาชนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนกิจกรรมด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และ (5) ประชาชน ชุมชน มีพฤติกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยการดำเนินโครงการในปี 2568 นี้ จะต้องตอบโจทย์สถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องเวทีโลก COP 29 อีกทั้งจำเป็นต้องทำงานในเชิงรุกเพื่อแสดงพลังร่วมมือ พร้อมกำหนดแนวทางร่วมกัน ทั้งประเด็นการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การบูรณาการการดำเนินงานในระดับพื้นที่ กลไกทางการเงิน รวมถึงการสื่อสารกับภาคีที่เกี่ยวข้องเพื่อกระตุ้นและสร้างกระแสให้สังคมรับรู้ถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ที่มา: กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม