จากข้อมูลของ Tetra Pak Compass1 พบว่ากาแฟคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11 ของการบริโภคเครื่องดื่มทั้งหมดทั่วโลก และยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทย กาแฟถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 3.5 ต่อปี ทั้งนี้ คนไทยมีการบริโภคกาแฟเฉลี่ยปีละ 300 แก้ว นอกจากนี้ ผู้บริโภคกลุ่มวัยทำงานและเจเนอเรชัน Z มีความต้องการเครื่องดื่มกาแฟที่ให้ความสะดวกและมีคุณภาพสูงเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลจากงานวิจัย Thailand Demand Space Research2 ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มผู้บริโภคไทยกว่าครึ่งยังไม่เคยทดลองเครื่องดื่มที่เป็นกาแฟพร้อมดื่มในรูปแบบอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและศักยภาพของตลาดที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเต็มที่นี้ นับเป็นโอกาสสำคัญในการทำตลาดกาแฟพร้อมดื่มที่มีมูลค่ถึง 24,000 ล้านบาท ในปี 25663 และคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 9 ต่อปีในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับทั้งผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจและผู้เล่นรายใหม่ที่มองหาช่องทางเข้าสู่ตลาดกาแฟพร้อมดื่ม
คุณสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ตลาดกาแฟพร้อมดื่มในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะผู้บริโภคกำลังมองหาทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ความชอบที่หลากหลาย ทำให้นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ผลิตและแบรนด์เครื่องดื่มในการเข้าสู่ตลาดกาแฟพร้อมดื่มซึ่งจะสามารถเจาะตลาดเข้าถึงผู้บริโภคไทยได้มากกว่าครึ่ง โดยเราพร้อมร่วมมือกับลูกค้าเพื่อค้นหาช่องทางในการสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มระดับพรีเมียมด้วยนวัตกรรมโซลูชันบรรจุภัณฑ์จากเต็ดตรา แพ้ค ใช้ประโยชน์จากเทรนด์ผู้บริโภคและไม่พลาดโอกาสใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในตลาดกาแฟพร้อมดื่มนี้"
งานอีเวนต์และสัมมนาออนไลน์เรื่อง "มิติใหม่ของการดื่มกาแฟ: ปลดล็อกโอกาสการเติบโตตลาดกาแฟพร้อมดื่มกับเต็ดตรา แพ้ค" ได้กล่าวถึงเทรนด์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการบริโภคกาแฟและพูดคุยถึงการทำงานเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตตลอดกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่แนวคิดไปจนถึงการนำสินค้าออกสู่ตลาด การสนับสนุนที่ครอบคลุมของเต็ดตรา แพ้คยังรวมไปถึงการให้ข้อมูลการตลาดเชิงลึก การสร้างสรรค์และพัฒนาแนวคิดของผลิตภัณฑ์ การตลาด การให้คำปรึกษาทางเทคนิค และโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าและศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่มีอยู่ทั่วโลกสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างสรรค์ไอเดีย การทดสอบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่ม สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เหมาะสมได้
กล่องบรรจุภัณฑ์ เต็ดตรา พริสมา อะเซ็ปติก - Tetra Prisma(R) Aseptic ที่ทันสมัยของเต็ดตรา แพ้คมีให้เลือกหลากหลายขนาด (200 มล., 250มล., 300 มล., 330 มล.) เพื่อให้เหมาะกับกลุ่มตลาดเป้าหมายและโอกาสในการบริโภคที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มระดับพรีเมียมและมีมูลค่าเพิ่ม บรรจุภัณฑ์ที่สร้างสรรค์เหล่านี้ผสมผสานเทคโนโลยีระดับโลกในการผลิตและบรรจุแบบปลอดเชื้อเข้ากับรูปทรงปริซึมของกล่องที่เป็นเอกลักษณ์และการออกแบบที่คำนึงถึงความสะดวกสบายในการบริโภค ช่วยยกระดับการสร้างภาพจำของแบรนด์ พร้อมทั้งให้การปกป้องผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ขณะเดียวกันก็ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความแตกต่างในตลาดได้ กล่องบรรจุภัณฑ์รุ่น Tetra Prisma(R) Aseptic ผลิตจากวัตถุดิบที่ผ่านการรับรองจากองค์การจัดการป่าไม้ หรือ Forest Stewardship Council(TM) (FSC(TM)) จึงช่วยให้ผู้ผลิตตอบโจทย์ทั้งด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและการตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคได้
"บทบาทของเราขยายไปไกลเกินกว่าแค่ผู้ให้บริการโซลูชันบรรจุภัณฑ์ เรากลายเป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจผ่านความสำเร็จที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วในธุรกิจกาแฟพร้อมดื่มทั่วโลก กล่องบรรจุภัณฑ์ Tetra Prisma(R) Aseptic ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งในธุรกิจกาแฟพร้อมดื่มในตลาดสำคัญ ๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา และทั่วทั้งยุโรป ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันครบวงจร เต็ดตรา แพ้คได้นำความเชี่ยวชาญด้านตลาด เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และการสนับสนุนอื่น ๆ ที่ครอบคลุมมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในตลาดที่กำลังเติบโตนี้ด้วย" คุณแพรพร อมรภาณุพันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านบรรจุภัณฑ์ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
นอกจากการสัมมนาออนไลน์แล้ว ในงานอีเวนต์ยังมีกิจกรรมการเสวนาแบบใกล้ชิดและการทดลองชิมกาแฟพร้อมดื่มที่น่าสนใจจากหลายประเทศ โดยผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์ผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มที่มีเอกลักษณ์ซึ่งบรรจุอยู่ในกล่องเต็ดตรา แพ้คที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเน้นย้ำถึงโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนของเต็ดตรา แพ้คที่สอดคล้องกับการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภค แต่ในขณะเดียวกันยังต้องรักษามาตรฐานสูงสุดในด้านการปกป้องคุณภาพของอาหารและความสะดวกสบายในการใช้งานควบคู่กันไป
1 ที่มา: Tetra Pak Compass, All beverages excluded water, 2023 | All Process
2 ที่มา: Thailand Demand Space Research 2023, Tetra Pak Marketing too
3 ที่มา: Transparency Marketing Research, 2023
ที่มา: วีโร่ พับลิค รีเลชั่นส์