การประชุม UN Global Compact Network Thailand Forum หรือ GCNT Forum 2024 ภายใต้แนวคิด "Inclusive Business โมเดลธุรกิจแห่งอนาคต สร้างกำไรอย่างยั่งยืน" มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและสร้างสังคมที่เท่าเทียม จัดขึ้นโดยสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (UN Global Compact Network Thailand - UNGCNT) ร่วมกับสหประชาชาติในประเทศไทย (UN in Thailand) และสมาชิกกว่า 140 องค์กรจากทุกภาคอุตสาหกรรม ที่ร่วมกันผลักดันธุรกิจอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ทั้ง 17 ข้อภายในปี 2573 มุ่งเน้นการสร้างความเท่าเทียมและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยมีนางสาวมิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ (Michaela Friberg-Storey) ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวในหัวข้อที่เน้นถึงการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่คนรุ่นต่อไปอย่างยั่งยืนและการสร้างสังคมไทยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ในช่วงเสวนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE ได้เน้นถึงความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของเซ็ปเป้ โดยขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้พันธกิจที่ว่า "เราจะทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น ผ่านจิตวิญญาณที่สร้างสรรค์ของเรา" และได้กำหนดนโยบายในมิติสังคมคือ 'ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนที่สำคัญของเราให้เติบโตไปด้วยกัน' ชูตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือกลุ่มพนักงาน โดยเซ็ปเป้มองหาคนที่มี DNA หรือ Passion ในการสร้างแบรนด์ไทยให้เป็น Global Brand และเติบโตอย่างยั่งยืนแบบเดียวกันมาร่วมทีม ไม่ได้เลือกที่เพศ อายุ เชื้อชาติ ศาสนาหรือรูปลักษณ์ภายนอก พร้อมขับเคลื่อนด้วย Core Value 5 ข้อคือ 1. Experimental Creativity 2. Integrity For Sustainability 3. Do The Impossible 4. Dynamic With Speed and Never Give Up และ 5. Fun Teamwork และเมื่อเข้ามาเป็นทีมเดียวกันแล้ว ก็ให้ความสำคัญในการพัฒนาด้านทุนมนุษย์ (Human Capital) ทั้ง Hard Skills Soft Skills และ Well Being สร้างเวทีให้ทุกคนปลอดปล่อยศักยภาพอย่างเท่าเทียม สนับสนุนทุกความหลากหลายซึ่งเป็นสารตั้งต้นของความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม สร้างความแข็งแรงจากภายในไปนอกองค์กร เพราะเชื่อว่าหากแกนกลางของธรุกิจคือคนในองค์กร มีความเป็นอยู่ที่ดีและได้รับการพัฒนาต่อเนื่อง จะสามารถคิดค้นและนำพาผลิตภัณฑ์ที่ดี ส่งมอบไปสู่ผู้คนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จในระยะยาว
"อีกตัวอย่างที่เราภูมิใจคือกลุ่มลูกค้า โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา เซ็ปเป้ได้ส่งมอบสินค้าคุณภาพที่เป็นผลผลิตจากเกษตรกรไทย อย่างวุ้นมะพร้าวในแบรนด์โมกุ โมกุ ให้ผู้บริโภคทั่วโลก โดยพยายามเข้าใจและเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ วิธีการใหม่ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ทันเทรนด์ ทันไลฟสไตล์ที่เปลี่ยนแปลง ล่าสุดได้ออกแคมเปญ 'สวยเรา ไม่ต้องสวยใคร' ของเซ็ปเป้ บิวติ สื่อสารในเรื่องความเท่าเทียมและความหลากหลายอย่างชัดเจน ผ่านหนังโฆษณาและฉลากที่ออกแบบใหม่ภายใต้ Concept: Equality & Diversity แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการผลักดันและสร้างผลกระทบเชิงบวกให้สังคมในเรื่อง Self-Love สนับสนุนให้ทุกคนรักตัวเอง และส่งเสริมความเท่าเทียมกัน" นางสาวปิยจิต กล่าว
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย