ดร.นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรม สบส. เผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในเขตภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งจากการ สำรวจพบสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบรวม 132 แห่ง โดยสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ 42 แห่ง เปิดให้บริการบางส่วน 8 แห่ง และปิดการให้บริการ 82 แห่ง กรม สบส. จึงมอบหมายให้กองวิศวกรรมการแพทย์ ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 5 ,11 และ12 เร่งส่งทีมสนับสนุนระบบบริการด้านสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน หรือทีมเอ็มเสิร์ท (MSERT).เข้าสำรวจ ประเมินความเสียหายสถานพยาบาลภาครัฐ โดยเบื้องต้นพบโรงพยาบาลที่ได้รับความเสียหาย 5 แห่ง อยู่ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลทุ่งยางแดง โรงพยาบาลแม่ลาน โรงพยาบาลยะหริ่ง และโรงพยาบาลหนองจิก ซึ่งทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าระบบไฟฟ้าหลัก ระบบไฟฟ้าสำรองได้รับความเสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ โรงซักฟอก ระบบประปาและหน่วยจ่ายกลาง พบอุปกรณ์ชำรุดเนื่องจากถูกน้ำท่วม
ส่วนอีก 2 แห่ง อยู่ในพื้นที่ จังหวัดสงขลา คือ โรงพยาบาลควนเนียง พบระบบสายล่อฟ้า ระบบเซิร์ฟเวอร์และระบบวิทยุสื่อสารถูกฟ้าผ่าได้รับความเสียหาย และโรงพยาบาลจะนะ พบยูนิคทันตกรรมได้รับเสียหาย ทีมเอ็มเสิร์ท(MSERT).จึงได้วางแผนร่วมกับโรงพยาบาลดำเนินการตรวจเช็ค พร้อมให้การช่วยเหลือซ่อมแซมระบบดังกล่าว รวมทั้งครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสำนักงาน ให้กลับมาให้บริการประชาชนและผู้ป่วยในพื้นที่ได้โดยเร็ว
นอกจากนี้ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และสนับสนุนการปฎิบัติงานของ อสม.ในพื้นที่ประสบอุทกภัย กรม สบส.ยังได้มอบหมายศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 11 และศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 12 ลงพื้นที่เยี่ยมเสริมพลังแก่ อสม. ใน 5 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส พร้อมมอบชุดปฏิบัติการฉุกเฉิน อาทิ รองเท้าบูท ถุงขยะ ชุดกันฝน ยาสามัญประจำบ้าน ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า และถุงมือยางเป็นต้น เพื่อใช้สำหรับปฏิบัติหน้าที่ให้กับ อสม.ที่ประสบอุทกภัย จำนวน 400 ชุด โดยได้รับการสนับสนุนจากกองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน กรม สบส.
ที่มา: กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ