หัวเว่ย และ เจเอ โซลาร์ ร่วมมือกับองค์การยูเนสโกและกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อส่งเสริมการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม

พุธ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ๑๕:๕๖
ณ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก กลุ่มนักเรียนและประชาชนในชุมชนได้มารวมตัวกันภายใต้หลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่งติดตั้งใหม่ เพื่อรับฟังคำอธิบายจากหัวเว่ยและผู้ติดตั้ง เกี่ยวกับการนำพลังงานสะอาดมาใช้ไม่เพียงแต่ในห้องสมุดสาธารณะ แต่ยังสร้างอนาคตที่สดใสและยั่งยืนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอโครงการ "ดิจิทัลบัสเพื่อสังคม" (Digital Bus) ซึ่งได้เข้ามาถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับพลังงานสะอาด การตระหนักรู้ด้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ และการสื่อสารโทรคมนาคมแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ดิจิทัลบัสดังกล่าวได้ทำการฝึกอบรมนักเรียนกว่า 4,500 คนใน 10 จังหวัดพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน
หัวเว่ย และ เจเอ โซลาร์ ร่วมมือกับองค์การยูเนสโกและกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อส่งเสริมการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม

นี่คือจุดเริ่มต้นของโครงการการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ภายใต้โครงการ #TECH4ALL ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความริเริ่มในการสร้างความเท่าเทียมทางดิจิทัลระดับโลกของหัวเว่ย โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างหัวเว่ย, เจเอ โซลาร์, องค์การยูเนสโก และกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีเป้าหมายในการนำโซลูชันพลังงานสะอาดและโอกาสทางดิจิทัลไปสู่ 11 โรงเรียนและศูนย์ชุมชน พร้อมพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาดและทักษะทางดิจิทัลให้กับนักเรียนรุ่นใหม่ เพื่อส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืน

การเปลี่ยนห้องเรียนและชุมชนให้เป็นแรงผลักดันการเปลี่ยนแปลง

โครงการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงแต่เป็นการบริจาคอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ (PV) แต่เป็นการสร้างเส้นทางสู่ความยั่งยืนและโอกาสในการพัฒนา โดยการติดตั้งระบบพลังงานทดแทนในโรงเรียนและส่งเสริมทักษะทางเทคนิค โครงการนี้จึงเป็นการตอบโจทย์ความท้าทายในด้านการศึกษาและพลังงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ขาดแคลนทรัพยากร

โครงการนี้ได้รับการขับเคลื่อนด้วยหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่

  • โรงเรียนสีเขียวสำหรับการศึกษาระดับมัธยมศึกษา - การติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงเรียนมัธยมศึกษา พร้อมการฝึกอบรมครูและนักเรียนเกี่ยวกับประโยชน์และการดำเนินงานของพลังงานสะอาด
  • โรงเรียนสีเขียวสำหรับการศึกษาด้านวิชาชีพ - การเสริมสร้างทักษะทางเทคนิคให้แก่นักเรียนในสถาบันการศึกษาเทคนิคและวิชาชีพ ผ่านการเรียนรู้และการปฏิบัติงานกับระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเตรียมความพร้อมพวกเขาสู่การทำงานในภาคพลังงานทดแทนที่กำลังเติบโต
  • ชุมชนสีเขียว - การสนับสนุนห้องสมุดสาธารณะและศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยระบบพลังงานทดแทน พร้อมโปรแกรมการศึกษาดิจิทัลเคลื่อนที่ รวมถึงการฝึกอบรมด้านพลังงานสะอาดและความปลอดภัยทางไซเบอร์ ผ่านโครงการดิจิทัลบัส (Digital Bus) ของหัวเว่ย

การเปิดตัวที่สถานที่สำคัญ

สองแห่งแรกที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่เป็นรูปธรรม:

  • วิทยาลัยการอาชีพกาญจนาภิเษก หนองจอก: สถาบันการอาชีพนี้จะนำระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้รับการบริจาคมาใช้ในการสอนนักเรียนเกี่ยวกับการติดตั้ง การบำรุงรักษา และการดำเนินงานของระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเสริมสร้างทักษะทางเทคนิคที่จำเป็นสำหรับการจ้างงานในอนาคต
  • ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอบ้านนา: ศูนย์ชุมชนที่ให้การฝึกอบรมแบบไม่มีค่าใช้จ่ายในด้านพลังงานสะอาดและการรู้เท่าทันดิจิทัล โดยมุ่งหวังที่จะเติมเต็มช่องว่างทักษะในพื้นที่ที่ขาดแคลนทรัพยากร

ความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการส่งเสริมความยั่งยืนและการปฏิรูปการศึกษา เป็นหัวใจสำคัญของโครงการนี้ การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของประเทศ สอดคล้องกับความพยายามในการปรับปรุงระบบการศึกษาและเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนด้วยทักษะที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการในอนาคต แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าที่สำคัญ แต่ยังคงมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ: การเข้าถึงการศึกษาด้านพลังงานสะอาดและการรู้เท่าทันดิจิทัลยังคงมีความไม่เท่าเทียม โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท

"โครงการการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เพียงแค่โครงการความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) แต่เป็นการลงทุนระยะยาวในเยาวชนและอนาคตของประเทศไทย" นายเดวิด หลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย ประเทศไทย กล่าว "การผสานโซลูชันพลังงานสะอาดเข้ากับการศึกษาผ่านการปฏิบัติจริง เรามุ่งหวังที่จะสร้างแบบอย่างสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนและการสร้างความเท่าเทียม"

ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเจเอ โซลาร์ กล่าวว่า "ด้วยภารกิจในการ พัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อประโยชน์แก่โลก เจเอ โซลาร์ มุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรชั้นนำที่มีความยั่งยืน เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของประเทศไทย และเสริมสร้างความรู้เชิงปฏิบัติให้กับนักเรียน โครงการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน และสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในชุมชน"

ครูจากโรงเรียนท้องถิ่น ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญและประโยชน์ของโครงการนี้ว่า "โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่มีอิทธิพลเนื่องจากเป็นการร่วมมือระหว่างบริษัทระดับโลกและโรงเรียนท้องถิ่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีคุณค่า การบริจาคอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์จะมอบโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกทักษะในการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบพลังงานทดแทน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดแรงงาน"

โครงการการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมไม่เพียงแต่มอบทรัพยากรที่สำคัญให้กับนักเรียนและชุมชน แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในอนาคต หัวเว่ย, เจเอ โซลาร์ และพันธมิตรจะขยายขอบเขตของโครงการนี้ โดยเชิญชวนองค์กรต่างๆ เข้าร่วมภารกิจสำคัญในการเสริมสร้างทักษะและเครื่องมือให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมไทยที่ยั่งยืน

ที่มา: 124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๓๙ ศิริราชผนึก 3 โรงพยาบาลร่วมจัดโครงการ 72 ข้อเทียม เทิดพระเกียรติ วโรกาส 72 พรรษา ทศมราชา
๑๓:๔๑ CHARLES KEITH เฉลิมฉลองปีมะเส็งด้วยคอลเลคชั่น LUNAR NEW YEAR ที่สะท้อนถึงการเกิดใหม่ และการเปลี่ยนแปลงสุดล้ำสมัย
๑๓:๒๔ นิคเคอิ ออนไลน์ เอดิชัน ขึ้นแท่นรายแรกของญี่ปุ่นที่มีผู้สมัครสมาชิกดิจิทัลแบบเสียค่าบริการทะลุ 1 ล้านราย
๑๒:๓๕ บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี คว้าใบรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27701:2019 ยกระดับมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
๑๓:๐๐ CPANEL จัดงาน Analyst Meeting ให้ข้อมูลกลยุทธ์การเติบโตช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567
๑๒:๕๓ TFG ปักหมุดรายได้ปี 68 เติบโต 10%
๑๒:๓๗ OR ได้รับการประเมินผลหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ติดอันดับรายชื่อหุ้นยั่งยืนที่ระดับสูงสุด AAA ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๒:๕๑ กรุงศรี และ พันธมิตร ร่วมแชร์มุมมองและโอกาสต่อยอดธุรกิจ หนุนไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์
๑๒:๕๙ EGCO Group ติดอันดับดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ DJSI 2024 ต่อเนื่องปีที่ 5
๑๒:๔๕ เดอะ ไทยแลนด์เดอร์ส มอบรางวัล The Tahilanders Best Beauty Awards 2024