นายกฤษณ์จันทโนทกกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า "โครงการ "กล้าใหม่...ใฝ่รู้" ระดับประถมศึกษา เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมที่ธนาคารภาคภูมิใจในการมีส่วนร่วมพัฒนาศักยภาพเยาวชน เสริมสร้างพัฒนาการ ทักษะการเรียนรู้ และประสบการณ์นอกห้องเรียน ให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสวางแผน ลงมือทำจริง ส่งเสริมจินตนาการอย่างเหมาะสมกับช่วงวัย รวมทั้งส่งเสริมทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 พัฒนาคุณลักษณะที่ดี 4 ด้าน (4Cs) ประกอบด้วย การคิดแบบวิจารณญาณ (Critical Thinking) การสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมาย (Communication) การทำงานเป็นทีม (Collaboration) และความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) พร้อมปลูกฝังคุณธรรมความดีให้เยาวชนเป็นทั้งเด็กดีและเด็กเก่ง เพื่อร่วมสร้างสังคมที่ดี ภายใต้แนวคิด "อยู่ อย่าง ยั่งยืน" "
ดร.สังคมทองมี ผู้อำนวยการศูนย์ศิลป์สิรินธร ประธานคณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า "โครงการ "กล้าใหม่...ใฝ่รู้" มีการออกแบบกระบวนการแข่งขันที่แตกต่างจากการแข่งขันทั่วไปโดยสิ้นเชิง เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ จากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศได้มีส่วนร่วม กิจกรรมมีความหลากหลาย ไม่เพียงแต่ให้เยาวชนได้เกิดความคิดสร้างสรรค์ แต่ได้เรียนรู้มากขึ้น นอกจากนักเรียนแล้ว ครูก็มีส่วนร่วมในกิจกรรมไปพร้อม ๆ กัน กระบวนการเหล่านี้ทำให้เกิดการพัฒนาการศึกษาด้านศิลปะ ระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมาได้เห็นพัฒนาการของโครงการ ซึ่งครูหรือนักการศึกษาศิลปะสามารถนำไปปรับใช้ได้ เด็ก ๆ ที่ผ่านจากเวทีนี้ทุกคนมีศิลปะนิสัย ไม่ว่าจะเติบโตไปเรียนสาขาไหน ประกอบอาชีพอะไร สิ่งนี้จะติดตัวไป สามารถนำเอามาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และมีหลายคนที่ใช้ศิลปะเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพด้านศิลปะ"
ผศ.ดร.อภิชาติพลประเสริฐ หัวหน้าภาควิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรรมการตัดสิน กล่าวว่า "โครงการนี้มีความสำคัญในการปลูกต้นกล้าให้กับประเทศ เป็นกล้าใหม่ที่พร้อมจะเติบโตแข็งแรง เพื่อเป็นกำลังสำคัญของชาติ เป็นโครงการที่ธนาคารไทยพาณิชย์จัดมาอย่างต่อเนื่อง มีผลลัพธ์ที่ดีต่อการพัฒนาเยาวชนอย่างครบวงจร นอกจากเด็ก ๆ แล้ว ครูและสถาบันการศึกษาจากทั่วประเทศยังได้มีส่วนร่วม ผมในฐานะผู้ออกแบบกระบวนการแข่งขันได้มีการวางแผนเป็นเวลานานเพื่อให้ออกมาดีที่สุด เป็นวิธีการบ่มเพาะที่มีทฤษฎีรองรับ พยายามเพิ่มเติมให้เด็กได้แสดงศักยภาพความเป็นเด็กออกมาได้มากที่สุด ได้ลงมือทำเอง เกิดประสบการณ์จริง ซึ่งจะเป็นความรู้ที่ยั่งยืน ฝังอยู่ในตัวเด็ก สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาตัวเองในด้านอื่น ๆ และการดำเนินชีวิตต่อไป"
ในปีนี้มีเยาวชนจากทั่วประเทศเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 160 ทีม ๆ ละ 4 คน (คละชั้นปีระหว่างประถมศึกษาปีที่ 1 - 6) แบ่งการแข่งขันเป็น 4 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ และธนาคารได้คัดเลือกทีมตัวแทนที่มีผลงานยอดเยี่ยมภาคละ 5 ทีม รวม 20 ทีม เพื่อเข้าร่วมแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ในหัวข้อ "ความดีวิถีไทย" ภายหลังได้รับโจทย์ น้อง ๆ ได้ประมวลความคิด จินตนาการร่วมกันภายในทีม และถ่ายทอดลงบนผืนผ้าใบ ขนาด 2x3 เมตร ภายใต้ระยะเวลาที่จำกัดเพียง 2 ชั่วโมง นอกจากการแข่งขันแล้ว น้อง ๆ ยังได้ไปทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทยเพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการทางการเงินการธนาคารของประเทศไทย ชมนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ และสถานที่สำคัญต่าง ๆ รอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และสถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อจุดประกายให้เยาวชนได้ร่วมสืบสานรักษามรดกทางวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไป
ผลการแข่งขัน มีดังนี้
- รางวัลชนะเลิศ: โรงเรียนบ้านเอราวัณ จ.เลย
- รองชนะเลิศอันดับ 1: โรงเรียนสารสาสน์วิเทศเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
- รองชนะเลิศอันดับ 2: โรงเรียนพิมานวิทย์นราธิวาส จ.นราธิวาส
- รางวัลชมเชย 4 รางวัล ได้แก่
- โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ จ.ภูเก็ต
- โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดทุ่งสวน) จ.กำแพงเพชร
- โรงเรียนผดุงวิทย์ จ.เพชรบูรณ์
- โรงเรียนวัดสมัยสุวรรณ จ.สุราษฎร์ธานี
ผลงานของน้อง ๆ ในรอบชิงชนะเลิศทั้งหมด จะนำไปจัดนิทรรศการ ณ พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม - 15 มีนาคม 2568 ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ (เว้นวันหยุดธนาคาร) เวลา 9.30 - 16.30 น. ติดตามรายละเอียดได้ทาง Facebook : SCB Challenge "กล้าใหม่...ใฝ่รู้"
ที่มา: ธนาคารไทยพาณิชย์