ผลคะแนนสูงสุดครั้งนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงความตั้งใจจริงของแสนสิริในการสร้างธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญผลประเมินหุ้นยั่งยืนหรือ SET ESG Ratings นี้ ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้จัดการกองทุน ใช้ควบคู่กับข้อมูลอื่น ๆ ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงและโอกาสการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งนับวันปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) จะยิ่งส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ และคาดว่าในอนาคตจะมีกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนด้าน ESG เพิ่มขึ้น
การทำงานทางด้าน ESG ของแสนสิริ ประกอบไปด้วยแกนหลักสำคัญๆ ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม แสนสิริเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593) มุ่งเน้นพัฒนาโครงการอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด Sansiri Green Living Design ออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ ต่อมาคือด้านสังคม เราให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 4 เสาหลัก ได้แก่ สังคม พนักงาน ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม รวมถึงการดำเนินโครงการ No One Left Behind ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อที่ทุกคนจะสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความปลอดภัยในชีวิต และด้านบรรษัทภิบาลที่มีการจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน ผ่านโมเดล Green Supply Chain เพื่อใช้ทำงานร่วมกับกับคู่ค้า คัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และผลักดันให้คู่ค้าพัฒนาวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อต่อยอดการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน การันตีด้วยรางวัล Highly Commended การจัดการห่วงโซ่อุปทาน จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงแสนสิริยังส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์โลก และดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ตามหลักบรรษัทภิบาล
ที่มา: แสนสิริ