ทั้งนี้ สำนักงานเขตพระนครและ สนน. ได้มีคำชี้แจงและแก้ไขข้อบกพร่องแล้ว ส่วน กทม. ได้มีหนังสือที่ กท 1303/ว349 ลงวันที่ 16 พ.ย. 66 เรื่อง การควบคุมและกำกับการโอนเงินให้ผู้มีสิทธิรับเงินของหน่วยงานในสังกัดผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Krungthai Corporation Online) และหนังสือที่ 1303/199 ลงวันที่ 16 ม.ค. 67 เรื่องการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการโอนเงิน การจ่ายเงินผ่านระบบ Krungthai Corporation Online รวมทั้ง สนค. ได้มีหนังสือรายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ สตง. เสนอผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินครบถ้วนแล้ว
นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวว่า สนน. ได้ดำเนินการตรวจสอบและส่งคำชี้แจงพร้อมเอกสารประกอบกรณี สตง. สรุปรายงานผลการตรวจสอบปัญหาเงินขาดบัญชีของหน่วยงานรัฐ พบหน่วยงานในสังกัด กทม. มีข้อบกพร่องในการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Krungthai Coporate Online) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายวินัยการเงินการคลังของรัฐและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ เป็นเหตุให้ราชการได้รับความเสียหาย ตามจดหมายบันทึกของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ ตผ 0050/248 ลงวันที่ 12 ก.ย. 66 ให้ สตง. แล้วเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 66 โดยมีรายละเอียดดังนี้ มีหน่วยงานที่ไม่ได้จ่ายเงินค่าตอบแทนอาหารทำการนอกเวลาผ่านระบบ Krungthai Corporate Online เนื่องจากบุคลากรมีภาระหนี้สินจึงมีความประสงค์ขอรับเงินเป็นเงินสด ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการจ่ายผ่านระบบ Krungthai Corporate Online ตั้งแต่เดือน ต.ค. 66 เป็นต้นมา
ส่วนกรณีเกิดความคลาดเคลื่อนของการโอนเงินสลับบัญชีกันของหน่วยงานภายใน สนน. จำนวน 2 ราย ที่รับเงินไม่เท่าจำนวนจริงที่ควรจะได้รับ ต่อมาผู้รับเงินได้โอนเงินส่วนต่างคืนระหว่างกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 66 แต่ไม่ได้แจ้งให้หน่วยการคลังทราบ ซึ่งหน่วยงานได้ชี้แจงว่า เนื่องจากมีข้อมูลการโอนจำนวนมากและผู้รับเงินทั้งสองรายมีรายชื่อติดกัน จึงทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน ในอนาคตหากเกิดกรณีดังกล่าวจะดำเนินการเรียกเงินคืนทันทีที่ทราบและตรวจทานทุกครั้ง เพื่อความถูกต้องและป้องกันการผิดพลาด สำหรับกรณีหน่วยงานจัดพิมพ์เอกสารรายงานสรุปผลการโอนเงินในรูปแบบไฟล์ PDF เพื่อรอการตรวจสอบ แต่ดำเนินการไม่ครบถ้วน เนื่องจากเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการลาป่วย ต่อมาจึงได้ขอเอกสารย้อนหลังไปยังธนาคารกรุงไทยส่งให้ สตง. ครบถ้วนแล้ว พร้อมมอบหมายงานให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเรื่องดังกล่าว เพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น และกรณีหน่วยงานมีการโอนเงินผ่านระบบให้ข้าราชการที่อยู่ภายในหน่วยงานคนหนึ่งแล้วพบว่า เลขบัญชีธนาคารไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวได้ชี้แจงว่า ข้าราชการรายดังกล่าวมีบัญชีธนาคารกรุงไทยสำหรับรับเงิน 2 บัญชี โดยบัญชีหนึ่งใช้รับเงินเดือนและอีกบัญชีหนึ่งใช้รับเงินค่าอาหารทำการนอกเวลา
นอกจากนี้ ยังมีกรณี สตง. ตรวจสอบพบเอกสารแบบแจ้งข้อมูลการรับโอนเงินผ่านระบบ KTB Corporate Online (แบบ K-Corp 1) กับ KTB iPay Report ตั้งแต่เดือน เม.ย. 66 - มิ.ย. 66 ของ 7 ส่วนราชการในสังกัด สนน. (ยกเว้นกองสารสนเทศระบายน้ำ) จำนวน 4,093 บัญชี พบว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ได้แก่ แบบแจ้งฯ ไม่ระบุวันที่ขอแจ้ง เอกสารแนบท้ายแบบแจ้งไม่ครบถ้วน ไม่ได้รับรองสำเนาเอกสารแนบ และบัตรประชาชนหมดอายุ การลงลายมือชื่อในแบบแจ้งฯ ไม่ตรงกัน ลงลายมือชื่อเป็นสำเนา ไม่มีแบบแจ้งฯ ให้ตรวจสอบ ไม่ระบุเลขที่ของแบบแจ้งฯ บางรายระบุข้อมูลด้วยดินสอ ระบุเลขที่ซ้ำกันและไม่มีทะเบียนคุมให้ตรวจสอบ เลขที่บัญชีในแบบแจ้งฯ ไม่ตรงกับรายงาน KTB iPay Report ไม่ลงลายมือชื่อในแบบแจ้ง ระบุเลขที่ในแบบแจ้งซ้ำกันฯ และไม่ระบุเลขที่บัญชีเงินฝากในแบบแจ้งฯ สนน. ได้ดำเนินการตรวจสอบ แก้ไข และส่งคำชี้แจงพร้อมเอกสารประกอบให้ สตง. เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ สนน. ได้กำชับและเน้นย้ำแนวทางปฏิบัติการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Krungthai Corporate Online) ของทุกส่วนราชการในสังกัดให้มีความถูกต้องและครบถ้วนสมบูรณ์ตามแนวทางปฏิบัติ รวมทั้งเป็นไปตามหนังสือ กทม. ที่ กท 1303/ว349 ลงวันที่ 16 พ.ย. 66 เรื่อง การควบคุมและกำกับการโอนเงินให้ผู้มีสิทธิรับเงินของหน่วยงานใน กทม. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Krungthai Corporate Online)
ที่มา: กรุงเทพมหานคร