อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ได้รับการจัดให้เป็น Leader ในรายงาน The Forrester Wave(TM): Public Cloud Platforms Q4 2024 นับเป็นครั้งแรกที่อาลีบาบา คลาวด์ ได้รับการจัดอยู่ในระดับ Leader ในบรรดาผู้ให้บริการแพลตฟอร์มพับลิคคลาวด์รายใหญ่อื่น ๆ ในรายงานนี้ ซึ่งอาลีบาบา คลาวด์ เชื่อว่าการได้รับตำแหน่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับในความรู้ความสามารถที่เข้มข้นทั้งด้านกลยุทธ์และการนำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการคลาวด์และ AI ของบริษัท, การดำเนินกิจการในระดับโลกที่ก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ, ตลอดจนความสามารถในการให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายแก่ลูกค้าทั่วโลก
อาลีบาบา คลาวด์ ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในสี่ผู้นำจากผู้จำหน่ายเทคโนโลยีระดับโลกเก้าราย ที่ได้รับการประเมินในรายงานของ Forrester โดยมีคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในประเภทการนำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการและกลยุทธ์ในปัจจุบัน รายงานระบุว่า อาลีบาบา คลาวด์ ได้แสดงให้เห็นความสามารถด้านนวัตกรรม AI ด้วยการสร้างสรรค์โมเดล AI ต่าง ๆ ด้วยตนเอง นำเสนอทางเลือกโมเดลที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน และ model-as-a-service (MaaS) ใหม่ ๆ ที่หลากหลาย รายงานยังระบุว่า โครงสร้างพื้นฐานหลักและความสามารถของ model-as-a-service ช่วยให้อาลีบาบา คลาวด์ จัดสรรพื้นที่เก็บโมเดลสำคัญ ๆ สำหรับการใช้ AI ได้ทั่วประเทศจีน
Forrester กล่าวในรายงานว่า "อาลีบาบา ได้เพิ่มขีดความสามารถด้าน serverless นอกเหนือจาก AI โดยแพ็ครวมโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์-เนทีฟที่ทรงพลังของบริษัท เข้ากับ ข้อเสนอด้านผลิตภัณฑ์/บริการที่ทั้งนักพัฒนาซอฟต์แวร์และผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ด้วยข้อมูลและการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพสูง อาลีบาบาเหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน หรือองค์กรในเอเชียแปซิฟิกทั้งหมดที่ต้องการใช้คลาวด์ที่ปรับขนาดได้ รวมถึงบางส่วนของแอฟริกา ยุโรป และลาตินอเมริกา"
รายงาน Forrester ทำการประเมินผู้ให้บริการแพลตฟอร์มพับลิคคลาวด์รายใหญ่ที่สุดเก้าราย โดยผู้ให้บริการแต่ละรายจะได้รับการประเมินจุดแข็งของข้อเสนอด้านผลิตภัณฑ์/บริการต่าง ๆ, กลยุทธ์ และ สถานะทางการตลาดในปัจจุบัน โดยอาลีบาบา คลาวด์ ได้รับคะแนนประเมินสูงสุด (5.0 จาก 5.0) ในเกณฑ์ 17 ข้อ เช่น ด้านฐานข้อมูล, บริการด้านการบูรณาการข้อมูลและการกำกับดูแล, บริการคอนเทนเนอร์และ Kubernetes, บริการ serverless/FaaS, การประมวลผล, IoT, บริการด้านสตอเรจ รวมถึง บริการด้านการพัฒนา AI
นายจิงเหริน โจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า "สิ่งสำคัญสูงสุดของเรา คือ การขยายความสามารถด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์-เนทีฟและ AI บนพับลิคคลาวด์ เพื่อให้การสนับสนุนลูกค้าของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ความทุ่มเทด้านนี้ของเราได้รับการยอมรับจาก Forrester และเพื่อตอบสนองความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น เรามุ่งมั่นเพิ่มความสามารถอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบผลิตภัณฑ์คลาวด์และแอปพลิเคชัน AI ที่เข้าถึงได้ ปรับขนาดได้ และเชื่อถือได้ให้ลูกค้าของเรา"
ณ งาน Apsara Conference 2024 ซึ่งเป็นงานประจำปีของอาลีบาบา คลาวด์ จัดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา อาลีบาบา คลาวด์ ได้เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานแบบฟูลสแตก (full-stack infrastructure) ที่ปรับโฉมใหม่ให้ตอบสนองความต้องการการประมวลผล AI ประสิทธิภาพสูง ที่เพิ่มขึ้น และเปิดตัว Qwen 2.5 โมเดลภาษาขนาดใหญ่ใหม่ที่มีมากกว่า 100 รายการสู่ชุมชนโอเพ่นซอร์สทั่วโลก Qwen เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่เป็นเอกสิทธิ์ของอาลีบาบา คลาวด์ และมีการนำไปใช้อย่างกว้างขวางนับแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2566 โดยมีการดาวน์โหลดโมเดลต่าง ๆ ของ Qwen มากกว่า 40 ล้านครั้งบนแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สต่าง ๆ เช่น Hugging Face และ ModelScope นอกจากนี้ Qwen ยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง derivative models มากกว่า 78,000 รายการ
ในฐานะผู้สร้างแนวคิด MaaS และผู้สนับสนุนโอเพ่นซอร์ส อาลีบาบา คลาวด์ ยังได้สร้าง ModelScope ซึ่งเป็นชุมชนด้าน AI model ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน โดยมีโมเดลมากกว่า 10,000 โมเดลโฮสต์อยู่บน ModelScope และให้บริการแก่นักพัฒนาซอฟต์แวร์มากกว่า 8 ล้านคน
ในส่วนของการดำเนินงานในระดับโลก อาลีบาบา คลาวด์ยังคงขยายการดำเนินงานทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีดาต้าเซ็นเตอร์ 85 แห่งใน 28 ภูมิภาคทั่วโลก และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 อาลีบาบา คลาวด์ ได้ประกาศแผนเปิดตัวคลาวด์รีเจี้ยนแห่งแรกในเม็กซิโก และจะสร้างดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มเติมในตลาดสำคัญของบริษัท ซึ่งรวมถึง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเกาหลีใต้ ในอีกสามปีข้างหน้า
ที่มา: FAQ