นายแม็กซิม วองเดอเรเกน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สโกมาดิ (ประเทศไทย) กล่าวว่า "สโกมาดิ เป็นแบรนด์สกู๊ตเตอร์สไตล์ บริทิช โมเดิร์น คลาสสิก ที่ดำเนินธุรกิจในหลายประเทศทั่วโลก ตลอดปี 2567 สโกมาดิมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่เป็นตลาดสำคัญของธุรกิจรถจักรยานยนต์ รวมถึงในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตและส่งออกประจำภูมิภาค โดยมุ่งสร้างความประทับใจให้ลูกค้าทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำเสนอโมเดลรถสกู๊ตเตอร์ทรงคลาสสิกขนานแท้ ที่ใช้งานในชีวิตจริงได้อย่างคล่องตัว สำหรับผู้ขับขี่ทุกไลฟ์สไตล์ ตามแนวคิด Timeless design with high functionality"
สำหรับประเทศไทยในปีที่ผ่านมา ได้ชูรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่น "Turismo Electronica" เป็นโมเดลหลักประจำปี นอกจากเอกลักษณ์สวยงามมีระดับตามแบบฉบับสโกมาดิ รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ใช้งาน ด้วยสมรรถนะจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น
- ประสบการณ์การขับขี่ที่คล่องตัว ความหน่วงต่ำ ทำความเร็วได้สูงสุด 90 กม./ชม. นอกจากการขับขี่ในที่ราบ รถรุ่นนี้ยังมีจุดเด่นที่มอเตอร์แบบ DC Brushless Permanent Magnet Synchronous ให้กำลัง 3,000 วัตต์ รวมถึงยางล้อหน้า Tubeless 110/70-12 และล้อหลัง Tubeless 120/70-12 ให้การยึดเกาะดีเยี่ยม สามารถขับขึ้นเนินชันได้อย่างคล่องตัว ปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ Economy Normal และ Sport พร้อมเกียร์ถอยหลัง มีโช้ค หน้าและหลังแบบไฮดรอลิกปรับพรีโหลดได้ และระบบเบรก CBS เพื่อประสบการณ์ขับขี่ที่ปลอดภัย พร้อมให้สนุกสนานกับการเดินทางทุกรูปแบบ
- มาพร้อมฟีเจอร์ทันสมัยอย่าง หน้าจอ TFT Screen ขนาดใหญ่ 5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อจากโทรศัพท์มือถือมายังเรือนไมล์ ผ่านแอปพลิเคชัน Carbit Ride สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ทั้งการเปิดแผนที่แบบ Real-time รวมถึงสามารถเปิดเพลงหรือวิดีโอ มอบความบันเทิงขณะขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่ตลอดการเดินทาง
- สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยสูง พร้อมความจุแบตเตอรี 72 โวลต์ 40Ah ให้การขับระยะทางไกลถึง 101 กิโลเมตร ในระยะเวลาการชาร์จเต็มเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถูกติดตั้งอย่างมั่นคง ป้องกันการช็อตหรือเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงมอเตอร์ที่ได้รับการซีลป้องกันน้ำ ลุยน้ำได้ถึงระดับครึ่งล้อแบบไร้กังวล
"นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความต้องการรถสกู๊ตเตอร์ที่ให้การขับขี่เร้าใจ และระบบเบรคที่มอบการควบคุมรถอย่างเฉียบคม ทำให้ในช่วงปลายปี 2567 ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดเพิ่ม 2 รุ่น ได้แก่ "Technica 200i Adventure Series ABS" และ "Technica 200i Urban Series ABS" ที่มาพร้อมระบบเบรค ABS และตัวเลือกสีใหม่ พร้อมให้ออกเดินทางไปกับโร้ดทริปแบบมีสไตล์ สอดรับเจตนารมณ์การเป็นแบรนด์ที่รองรับความต้องการของคนรักสกู๊ตเตอร์คลาสสิก ทั้งในเชิงฟังก์ชันการใช้งาน ดีไซน์ และไลฟ์สไตล์ อย่างครบครันที่สุด" นายแม็กซิม กล่าวสรุป
นายแฟรงก์ แซนเดอร์สัน ผู้ร่วมก่อตั้งสโกมาดิ เสริมว่า "สโกมาดิ ถือกำเนิดจากความหลงใหลในรูปลักษณ์ที่อยู่เหนือกาลเวลาของรถสกู๊ตเตอร์แบบดั้งเดิม ผสานกับความรู้ด้านวิศวกรรมรถจักรยานยนต์ ที่สั่งสมจากการเป็นเจ้าของสำนักแต่งรถสกู๊ตเตอร์ และประสบการณ์การทำงานกว่า 60 ปี แรงบันดาลใจนี้นำมาสู่การสร้างสรรค์รถสกู๊ตเตอร์สโกมาดิคันแรกในปี 2548 ณ ประเทศอังกฤษ ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี เรามีการพัฒนารถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยยังคงยึดมั่นในดีเอ็นเอ "บริทิช โมเดิร์น คลาสสิก" อย่างเข้มข้น สะท้อนในการออกแบบทั้งโครงรถ ตัวถังเหล็ก เส้นสายโค้งมน เบาะหนังเย็บอย่างปราณีต ไปจนถึงไฟ LED ทรงกลม ที่รักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวครบถ้วน ผสานนวัตกรรมทันสมัย เช่น ระบบเบรค หน้าจอดิจิทัล และสมรรถนะเหนือระดับ เพื่อครองใจนักขับขี่ผู้มีใจรักความคลาสสิกในทุกยุคสมัย"
ด้าน นายพรเศก ภาคสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สโกมาดิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "สำหรับปี 2568 สโกมาดิ พร้อมนำเสนอความตื่นเต้นให้คนรักสกู๊ตเตอร์ทั่วโลก ด้วยแผนการดำเนินงานและกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ เปิดตัวรถสกู๊ตเตอร์ บริทิช โมเดิร์น คลาสสิก โมเดลใหม่ ที่ครบเครื่องด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มาในรูปลักษณ์ต้นตำรับอังกฤษ การสร้างความแข็งแกร่งให้ชุมชนคนขับสโกมาดิ ผ่านกิจกรรมทดลองขับขี่ และกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ตลอดจนการขยายดีลเลอร์ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้ผู้สนใจสามารถชมรถรุ่นต่าง ๆ รวมถึงให้ลูกค้าปัจจุบันสามารถเข้ารับบริการจากสโกมาดิได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
"นอกจากนี้ ในปีหน้าสโกมาดิยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจในตลาดเอเชีย ด้วยการยกระดับมาตรฐานโรงงานผลิตในไทย เพื่อรองรับความต้องการและการส่งออก รวมถึงเตรียมขยายการดำเนินธุรกิจในทวีปยุโรป ด้วยการทำใบรับรองมาตรฐานยูโร เพื่อให้สามารถจำหน่ายรถรุ่นใหม่ได้ในหลายประเทศ ทั้งหมดนี้จะทำให้สโกมาดิสามารถสร้างความสำเร็จในฐานะแบรนด์ สกู๊ตเตอร์ บริทิช โมเดิร์น คลาสสิกที่ครองใจผู้ขับขี่ทุกคน" นายพรเศก กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามรายละเอียดของสโกมาดิเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ www.scomadithailand.com เฟซบุ๊ก Scomadi Thailand อินสตาแกรม @scomadithailand และ ยูทูบ Scomadi Thailand
ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์