จากสถิติข้อมูลผู้สูงอายุ ส่งผลให้การเคหะแห่งชาติต้องทบทวนนโยบายการสร้างที่อยู่อาศัย โดยจะเพิ่มสัดส่วนการสร้างและออกแบบที่อยู่อาศัยรองรับผู้สูงอายุให้มากขึ้น จากปัจจุบันมีจำนวน 10% ของจำนวนหน่วยทั้งหมด จะเพิ่มเป็น 20% ภายในปีหน้า และในอนาคตจะเพิ่มสัดส่วนมากขึ้น ตั้งเป้าไว้ที่ 100% เพื่อรองรับจำนวนผู้สูงอายุที่มีมากขึ้น รวมทั้งมุ่งเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามโครงการชุมชนอัจฉริยะและน่าอยู่อย่างยั่งยืนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี (Smart and Sustainable Community: SSC) ให้ครอบคลุมทั้ง 4 มิติได้แก่ มิติเศรษฐกิจ มิติการมีส่วนร่วม มิติสุขภาพ และมิติสิ่งแวดล้อม รวมถึงเปิดกว้างให้ผู้ที่กำลังเริ่มก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุได้มีโอกาสซื้อที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติอีกด้ว
นายทวีพงษ์ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาตินำหลักการออกแบบอารยสถาปัตย์ (Universal Design) มาเป็นหัวใจหลักในการออกแบบที่อยู่อาศัย เพื่อคนทุกเพศ ทุกวัย และทุกสภาพร่างกายอย่างเท่าเทียม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และให้ทุกคนสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ (Housing for All) โดยจะจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำแบบมีราวจับ มีที่นั่งสำหรับอาบน้ำ ทางลาด ทางเชื่อม ประตูบานเลื่อน ลิฟต์เพื่อรองรับผู้สูงอายุ รวมถึงพื้นที่สันทนาการ พื้นที่สีเขียว และพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งการออกแบบดังกล่าวจะครอบคลุมทั้งส่วนของที่พักอาศัยและสภาพแวดล้อมภายในชุมชนโดยคำนึงถึงความเท่าเทียมในการใช้งานทุกพื้นที่ในชุมชน มีความยืดหยุ่นสำหรับคนทุกประเภท สามารถเข้าใจการใช้งานตามองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน รวมถึงการใช้สัญลักษณ์จะต้องเข้าใจง่ายและสอดคล้องตามมาตรฐานสากลไปในทิศทางเดียวกัน
ที่มา: บมจ.พีเอ็มพี