แอลจีเผยเทรนด์ทำงานปี 2025 พร้อมเทคนิคใช้โน๊ตบุ๊กแบบสมาร์ทเวิร์กเกอร์

จันทร์ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๗ ๑๔:๔๔
77% ของคนทำงานกำลังเผชิญกับความเครียดจากการจัดการระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว ในขณะที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานอย่างรวดเร็วจนหลายคนแทบตั้งตัวไม่ทัน การเตรียมพร้อมสำหรับปี 2025 จึงไม่ใช่แค่การรู้เท่าทันเทรนด์ แต่รวมถึงการปรับตัวและใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ให้ฉลาดขึ้น จากการวิเคราะห์ล่าสุดโดยซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทด้านสวัสดิการพนักงานยุคใหม่ ที่ให้สัมภาษณ์กับ Forbes เผยให้เห็นเทรนด์สำคัญที่จะกำหนดอนาคตการทำงาน ทั้งการแข่งขันด้านบุคลากรที่เข้มข้นขึ้น การปรับสวัสดิการให้ตอบโจทย์ความหลากหลาย การทำงานร่วมกับ AI การปรับรูปแบบสวัสดิการด้านสุขภาพให้ทันสมัย การกลับมาของการทำงานทางไกล การเตรียมพร้อมรับวิกฤตต่างๆ และการพัฒนาทักษะเพื่อรองรับการทำงานในยุค AI
แอลจีเผยเทรนด์ทำงานปี 2025 พร้อมเทคนิคใช้โน๊ตบุ๊กแบบสมาร์ทเวิร์กเกอร์

แล้วคนทำงานยุคใหม่ควรเตรียมตัวอย่างไร? เมื่อดูจากเทรนด์ข้างต้น สิ่งสำคัญคือต้องพร้อมปรับตัวและทำงานให้สมาร์ทขึ้น ทั้งการเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับ AI เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพการทำงานของตัวเอง การพัฒนาทักษะใหม่ๆ อยู่เสมอ และการใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นในการทำงานที่มีมากขึ้น เคล็ดลับสำคัญอยู่ที่การเลือกใช้เครื่องมือที่ใช่และใช้งานได้อย่างคุ้มค่า แอลจีจึงอยากแนะนำวิธีใช้โน้ตบุ๊กคู่ใจให้เป็นมากกว่าแค่เครื่องคอมพิวเตอร์ แต่เป็นผู้ช่วยที่จะทำให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกที่ ทุกเวลา พร้อมรับมือทุกความท้าทายในการทำงานยุคใหม่

1.ลดความซับซ้อน เพิ่มความสมาร์ทด้วยการทำงานพร้อมกันหลายอุปกรณ์

คนทำงานยุคนี้มักใช้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน ทั้งจดไอเดียในมือถือ หาข้อมูลบนแท็บเล็ต ทำงานในโน้ตบุ๊ก หรือแชร์ไฟล์กับเพื่อนร่วมงาน การทำงานจะง่ายขึ้นมากถ้าคุณเลือกใช้โน้ตบุ๊กที่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกันได้ ผ่านการใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ชุดเดียว ซึ่งทำให้คุณสามารถดูรูปจากมือถือบนหน้าจอโน้ตบุ๊ก หรือคัดลอกโน้ตจากสมาร์ทโฟนไปใส่ในงานพรีเซนต์ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลารอส่งไฟล์ไปมา

2.ทำงานคู่กับ AI ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

จากเทรนด์ที่ AI จะเข้ามาเป็นเพื่อนร่วมงานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในปี 2025 คำถามสำคัญคือจะใช้ประโยชน์จาก AI อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด เริ่มจากการเลือกใช้โน้ตบุ๊กที่มีระบบประมวลผล AI ในตัว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อวิดีโอหรือทำงานกราฟิก AI ในโน๊ตบุ๊กบางรุ่นยังมาพร้อมระบบอัจฉริยะที่ใช้กล้องติดตามสายตา ช่วยจัดการหน้าจออัตโนมัติและแจ้งเตือนให้พักสายตาเป็นระยะ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้คือตัวอย่างการใช้ AI เป็นผู้ช่วยที่เพิ่มทั้งประสิทธิภาพการทำงานและดูแลสุขภาพไปพร้อมกัน

3.ขานรับเทรนด์ Work From Anywhere ด้วยโน้ตบุ๊กพลังอึด น้ำหนักเบา

เทรนด์การทำงานทางไกลกำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง สิ่งสำคัญที่สุดในการเตรียมพร้อมรับเรื่องนี้ก็คือการเลือกโน้ตบุ๊กที่ตอบโจทย์การทำงานนอกสถานที่ได้อย่างแท้จริง มีน้ำหนักเบาเพื่อให้พกพาได้สะดวก แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดวัน ไม่ต้องกังวลเรื่องหาปลั๊กไฟเมื่อต้องทำงานที่คาเฟ่ โคเวิร์กกิ้งสเปซ หรือระหว่างเดินทาง พร้อมดีไซน์ที่ทนทาน รองรับการใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างมั่นใจ

4.โน๊ตบุ๊คจอกว้าง ทำงานได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

การทำงานนอกสถานที่จะไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป เมื่อคุณเลือกโน้ตบุ๊กที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ในสัดส่วนที่เหมาะสม ให้พื้นที่จอแสดงผลเพื่อการทำงานที่กว้างขวางจุใจเสมือนนั่งทำงานที่โต๊ะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานที่ต้องการความละเอียดอย่างการออกแบบกราฟิก งานที่ต้องดูข้อมูลหลายส่วนพร้อมกันอย่างการวิเคราะห์สเปรดชีต หรืองานครีเอทีฟอย่างการตัดต่อวิดีโอ ก็ทำได้อย่างคล่องตัว ยิ่งหากโน้ตบุ๊กมาพร้อมเทคโนโลยีถนอมสายตาก็จะช่วยให้ทำงานได้นานโดยไม่เหนื่อยล้า ไม่ว่าจะทำงานที่บ้าน คาเฟ่ สวนสาธารณะ หรือระหว่างเดินทาง

5.ทำงานได้อย่างปลอดภัย มั่นใจในทุกที่

การทำงานนอกสถานที่มาพร้อมความท้าทายด้านความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะเมื่อต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะหรือทำงานในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่าน การเลือกโน้ตบุ๊กที่มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบอัจฉริยะจึงสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นระบบที่ช่วยป้องกันการแอบมองหน้าจอ การล็อคเครื่องอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ไม่อยู่หน้าจอ หรือการล็อกอินด้วยการจดจำใบหน้า นอกจากนี้ ระบบเข้ารหัสข้อมูลและการสำรองข้อมูลอัตโนมัติยังช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญของคุณในทุกสถานการณ์ ให้สามารถทำงานได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

เพื่อเตรียมพร้อมรับการทำงานที่จะเปลี่ยนแปลงในปี 2025 สิ่งสำคัญคือการเริ่มทำงานให้สมาร์ทขึ้นตั้งแต่วันนี้ เริ่มจากการใช้โน้ตบุ๊กอย่างชาญฉลาด ทั้งการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ การทำงานร่วมกับ AI การทำงานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัว และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้มีอยู่อย่างครบครันใน LG gram Pro ไม่ว่าจะเป็น ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ LG gram Link ชิป Intel(R) Core(TM) Ultra ที่รองรับการทำงานร่วมกับ AI น้ำหนักเบาราวๆ 1 กิโลกรัม มีให้เลือกทั้งหน้าจอกว้างจุใจทั้งขนาด 16 นิ้วและ 17 นิ้ว และระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ ฟีเจอร์เหล่านี้พร้อมเป็นผู้ช่วยคู่ใจที่จะทำให้คุณก้าวสู่การทำงานยุคใหม่ได้อย่างมั่นใจ

สำหรับใครที่พร้อมจะเริ่มต้นทำงานสมาร์ทขึ้นด้วย LG gram Pro สามารถสั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่ https://www.lg.com/th/promotions/promotion-gram-dec24/ โปรโมชันพิเศษส่งท้ายปี รับส่วนลดสูงสุด 10% พร้อมรับฟรี Microsoft 365 Personal มูลค่า 2,690 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2567 ดูข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ [https://www.lg.com/th/laptops/] หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี โทร. 0-2057-5757 และติดตามข่าวสารกิจกรรมจากแอลจีได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ LG Global และอินสตาแกรม lg_thailand

ที่มา: แอลจี-วัน ประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ