การ์ทเนอร์เผย 6 เทรนด์สำคัญส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานและการปฏิบัติงานขององค์กรปี 2568

พุธ ๒๕ ธันวาคม ๒๐๒๔ ๑๖:๕๓
เจฟฟรีย์ ฮิววิตต์ รองประธานนักวิเคราะห์การ์ทเนอร์ กล่าวว่า "แนวโน้มต่าง ๆ เหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้นำ I&O สามารถระบุความต้องการด้านทักษะในอนาคตและค้นหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำหรับการนำไปปฏิบัติใช้ โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะสร้างความแตกต่างที่จำเป็นสำหรับองค์กรเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการปฏิบัติการด้าน I&O ในปี 2568"
การ์ทเนอร์เผย 6 เทรนด์สำคัญส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานและการปฏิบัติงานขององค์กรปี 2568

เทรนด์ที่ 1: Revirtualization/devirtualization การเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตล่าสุดสำหรับโซลูชันในผู้ขายบางรายได้กดดันให้ทีม I&O หลายทีมต้องประเมินและพิจารณาทางเลือกด้านการทำเวอร์ชวลไลเซชันใหม่ โดยบางส่วนย้ายไปใช้พับลิกคลาวด์มากขึ้น บางส่วนหันไปใช้ดิสทริบิวเต็ดคลาวด์ และบางส่วนย้ายไปใช้ไพรเวทคลาวด์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับตัวเลือกหลายอย่างนอกเหนือจากการเปลี่ยนซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ใช้งาน Virtual Machine หลายตัวบนอุปกรณ์เครื่องเดียว หรือที่เรียกว่า ไฮเปอร์ไวเซอร์ (Hypervisors)

"ผู้นำ I&O ต้องสำรวจการใช้งานเวอร์ชวลไลเซชันทั้งหมดในปัจจุบันรวมถึงการพึ่งพาที่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน อาทิ ประเมินหนทางเลือกต่าง ๆ รวมถึงการหา Hypervisors, Hyperconvergence, Distributed Cloud, Containerization, Private Cloud และ Devirtualization เพื่อระบุทักษะ I&O ที่มีอยู่และวิธีที่จำเป็นต้องพัฒนาเพื่อรองรับตัวเลือกที่ดีที่สุด" ฮิววิตต์กล่าวเพิ่มเติม

เทรนด์ที่ 2: Security Behavior and Culture Programsเมื่อความซับซ้อนและความหลากหลายของการโจมตีเพิ่มขึ้น โปรแกรมความปลอดภัยต้องพัฒนาเพื่อจัดการกับพฤติกรรมและวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด โปรแกรมพฤติกรรมและวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย (Security Behavior and Culture Programs หรือ SBCPs) เป็นแนวทางระดับองค์กรเพื่อลดเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของพนักงาน

โปรแกรม SBCP ส่งผลให้พนักงานนำการควบคุมความปลอดภัยมาใช้ได้ดีขึ้นและลดพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัย โปรแกรมนี้ช่วยให้ทีม I&O สามารถสนับสนุนการใช้ทรัพยากรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์โดยพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เทรนด์ที่ 3: Cyberstorage โซลูชันไซเบอร์สตอเรจใช้คลังข้อมูลที่ประกอบด้วยข้อมูลที่แยกย่อยและกระจัดกระจายอยู่ในหลายตำแหน่งการจัดเก็บ ช่วยให้ข้อมูลย่อยสามารถประกอบกลับเข้าด้วยกันได้ทันทีเมื่อต้องการใช้งาน

ไซเบอร์สตอเรจสามารถเป็นโซลูชันเฉพาะทางที่มีฟีเจอร์ครบครัน บริการแพลตฟอร์มดั้งเดิมที่มีโซลูชันแบบบูรณาการ หรือชุดผลิตภัณฑ์แบบสแตนด์อโลนที่เพิ่มความสามารถด้านการป้องกันทางไซเบอร์ให้กับผู้ขายสตอเรจ

"เพื่อให้ไซเบอร์สตอเรจประสบความสำเร็จ ผู้นำ I&O ควรระบุความเสี่ยงของภัยคุกคามด้านการจัดเก็บข้อมูลที่มีค่าใช้จ่ายสูงและสร้างการหยุดชะงัก ประกอบกับค่าใช้จ่ายด้านกฎระเบียบและการรับประกันที่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างยูสเคสทางธุรกิจสำหรับการนำไซเบอร์สตอเรจมาใช้" ฮิววิตต์กล่าวเพิ่ม

เทรนด์ที่ 4: Liquid-Cooled Infrastructure โครงสร้างพื้นฐานที่ใช้การระบายความร้อนด้วยของเหลวประกอบด้วยการแลกเปลี่ยนความร้อนแบบประตูหลัง การแช่ และการระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบตรงถึงชิป ช่วยให้ระบบสามารถรองรับชิปรุ่นใหม่ ๆ ความหนาแน่น และความต้องการด้าน AI พร้อมทั้งให้โอกาสในการวางโครงสร้างพื้นฐานอย่างยืดหยุ่นเพื่อรองรับการใช้งานรูปแบบใหม่ ๆ

"การระบายความร้อนด้วยของเหลวได้รับการพัฒนามาจากการระบายความร้อนในสภาพแวดล้อมของดาต้าเซ็นเตอร์ที่กว้างขึ้นไปสู่การเข้าใกล้และอยู่ภายในโครงสร้างพื้นฐาน โดยโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้การระบายความร้อนด้วยของเหลวยังคงเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มในแง่ของยูสเคสการใช้งานในปัจจุบัน แต่จะมีความโดดเด่นมากขึ้นเมื่อ GPU และ CPU รุ่นถัดไปมีการใช้พลังงานและการผลิตความร้อนเพิ่มขึ้น" ฮิววิตต์กล่าวเพิ่ม

เทรนด์ที่ 5: Intelligent Application Generative AI เผยให้เห็นศักยภาพการทำงานอย่างชาญฉลาดของแอปพลิเคชัน ซึ่งได้สร้างความคาดหวังสำหรับ Intelligent Applications โดยแอปพลิเคชันอัจฉริยะจะปรับตัวเข้ากับบริบทและเจตนาของผู้ใช้ ช่วยลดความขัดแย้งทางดิจิทัล สามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเองและผู้ใช้ โดยการจัดการอินเทอร์เฟซที่เหมาะสมไปยัง API ภายนอกและข้อมูลที่เชื่อมต่อ แอปพลิเคชันอัจฉริยะยังช่วยลดการแทรกแซงและการโต้ตอบที่จำเป็นในส่วนของ I&O อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการและการใช้งานในขณะที่ลดค่าโสหุ้ยด้านทรัพยากร

เทรนด์ที่ 6: Optimal Infrastructure โครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมที่สุดคือเมื่อทีม I&O ให้ความสำคัญอย่างมากกับตัวเลือกโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุดสำหรับยูสเคสการใช้งานที่กำหนดในรูปแบบการปรับใช้ที่หลากหลาย แนวทางนี้ใช้การมุ่งเน้นที่อิงกับธุรกิจเพื่อให้ผู้บริหารที่ไม่ใช่ด้าน IT สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมจึงเลือกโครงสร้างพื้นฐานจากมุมมองของพวกเขา

"ตัวเลือกเหล่านี้สอดคล้องกับการนำแพลตฟอร์มเอนจิเนียริ่งมาใช้ในท้ายที่สุด พวกเขาช่วยให้ I&O สามารถจัดแนวโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจขององค์กรในภาพรวม นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการสนับสนุนและการอนุมัติจากผู้นำธุรกิจและผู้บริหารระดับสูง" ฮิววิตต์กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง

การ์ทเนอร์เผย 6 เทรนด์สำคัญส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานและการปฏิบัติงานขององค์กรปี 2568

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO