นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า "หุ้นสหรัฐฯ เป็นกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสเติบโตโดดเด่นกว่าตลาดรวม จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนปี 2568 โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกยังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว อย่างไรก็ดี การลงทุนปีนี้ SCBAM ยังแนะนำให้มีการกระจายความเสี่ยง จึงมองว่าการลงทุนกับดัชนีหุ้นสหรัฐฯ เป็นทางเลือกที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงหุ้นของบริษัทชั้นนำระดับโลกของสหรัฐฯ ที่หลากหลาย รวมถึงหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีปัจจัยพื้นฐานดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มีเสถียรภาพในระยะยาว ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ของ SCBAM ที่มีให้เลือกครบทุกดัชนีหลักได้"
SCBAM มีกองทุนดัชนีที่ครอบคลุมทั้ง 4 ดัชนีเด่นของสหรัฐฯ คือ (1) กองทุน SCBS&P500 (กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส) เน้นลงทุนตามดัชนี S&P500 ที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจหลักของสหรัฐฯ เน้นลงทุนในหุ้นธุรกิจใหญ่ 500 ตัวแรก ครอบคลุม 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ (2) กองทุน SCBNDQ (กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส เอ็นดีคิว) เน้นลงทุนตามดัชนี Nasdaq-100 ที่สะท้อนการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยีและกระแส AI ผ่านกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีขนาดใหญ่ชั้นนำของสหรัฐฯ 100 บริษัท (3) กองทุน SCBDJI (กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส ดีเจไอ) เน้นลงทุนตามดัชนี Dow Jones ที่เน้นหุ้น Blue Chip 30 บริษัทสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ จากหลากหลายอุตสาหกรรม และ (4) กองทุน SCBRS2000 (กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอสสมอลแคปพาสซีฟ) เน้นลงทุนตามดัชนี Russell 2000 ตัวแทนกลุ่มธุรกิจสหรัฐฯ ขนาดเล็กที่มีมูลค่าพื้นฐานที่น่าสนใจ 2,000 บริษัทจากหลายอุตสาหกรรม นอกจากกนี้ SCBAM ยังมีชนิดหน่วยลงทุนหลายประเภทให้เลือกลงทุนเพื่อตอบโจทย์วัตถุประสงค์การลงทุนที่แตกต่าง ทั้งชนิดสะสมมูลค่า และชนิดจ่ายปันผล รวมถึงชนิด e-class ฟรีค่าธรรมเนียม ที่ลงทุนได้ผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click เท่านั้น
ที่มา: บลจ.ไทยพาณิชย์