โดยในงานยังมีแขกผู้มีหน่วยงานภาครัฐ หลายหน่วยงานเข้าร่วม ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลในประเทศไทยร่วมงาน
นายสรวงศ์เปิดเผยว่า งานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 9-12 มกราคม 2568 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับพรีเมียมในภูเก็ตและผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตเป็น ศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทางเรือยอชต์ในอาเซียน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และกระตุ้นให้เจ้าของเรือยอชต์จากทั่วโลกมาตั้งฐานธุรกิจในประเทศไทย
สำหรับการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่
- การจัดแสดงเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์มากกว่า 50 ลำ
- การแสดงสินค้าและบริการไลฟ์สไตล์หรู เช่น เรือยอชต์เช่าเหมาลำ เครื่องเล่นทางน้ำ รถคลาสสิกและรถซูเปอร์คาร์ เครื่องบินเจ็ต และสินค้าไลฟ์สไตล์พรีเมียม
- กิจกรรมบันเทิง เช่น การแสดงดนตรี อาหารและเครื่องดื่มท้องถิ่นและนานาชาติ รวมถึงงานเลี้ยงบนเรือยอชต์
- การประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลและการแล่นเรือยอชต์
นายสรวงศ์ต่อว่ากล่าวว่า "งานครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการกว่า 100 ราย และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 6,000 คน สร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลไม่น้อยกว่า 86,130,000 บาท พร้อมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์ของภูเก็ตในฐานะ "Premium Destination" ตามนโยบายรัฐบาล โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมสนับสนุนการจัดงานนี้ เพื่อผลักดันภูเก็ตให้เป็น Maritime Hub และจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวคุณภาพสูง ตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านการท่องเที่ยวทางทะเลในภูมิภาคเอเชียอย่างยั่งยืน"
"งาน Thailand International Boat Show 2025 ไม่เพียงสร้างรายได้ให้กับภาคการท่องเที่ยว แต่ยังช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น พร้อมส่งเสริมชื่อเสียงของไทยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลชั้นนำระดับโลก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและมีคุณภาพสูงในอนาคต" นายสรวงศ์กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: เมพขิงขิง