ในการนี้ การท่องเที่ยวบาเลนเซีย (วาเลนเซีย) กำหนดเข้าร่วมงาน Business Networking พบปะเอเย่นต์ไทยที่นำเสนอแพ็คเกจท่องเที่ยวต่างประเทศกว่า 400 ราย โดยเฉพาะในเส้นทางยุโรป เพื่อนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวบาเลนเซีย (วาเลนเซีย) และไฮไลท์ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งงาน Business Networking เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมงานเที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก ครั้งที่ 30 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดโดยสมาคมบริการการไทยท่องเที่ยว (Thai Travel Agents Association หรือ ทีทีเอเอ) นอกจากนั้นกิจกรรมในประเทศไทยในปีนี้ยังรวมถึงกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ การประชุมร่วมกับสายการบิน และเอเย่นต์ท่องเที่ยวด้วย
แต่ะปีมีนักเดินทางจากทั่วโลกราว 2.3 ล้านคน (สองล้านสามแสนคน) ไปเยือนบาเลนเซีย (วาเลนเซีย) ซึ่งมีครบครันทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี เทศกาล และงานที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักทั่วโลก และด้วยสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ บาเลนเซีย (วาเลนเซีย) นักเดินทางที่ไปเยือนสามารถเพลิดเพลินกับอากาศสบาย ๆ มีแสงแดดสาดส่องถึง 300 วันต่อปี และอุณหภูมิเฉลี่ย 19 องศาเซลเซียส
จากเส้นทางกรุงเทพฯ นักเดินทางสามารถเลือกเดินทางด้วยสายการบินที่ให้บริการไปยังประเทศสเปน และบาเลนเซีย (วาเลนเซีย) โดยสนามบินบาเลนเซีย (วาเลนเซีย) ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 15 นาที หรือหากเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากมาดริดใช้เวลาเพียง 90 นาทีเท่านั้น
ล่าสุดผู้อ่าน คอนเด นาส ทราเวลเลอร์ (Conde Nast Traveller) โหวตให้บาเลนเซีย (วาเลนเซีย) เป็นเมืองที่ดีที่สุดในยุโรป (Best city in Europe) คว้ารางวัล 2024 Readers' Choice Awards ด้วยคะแนนสูงสุดถึง 92.78 ผลโหวตดังกล่าวตอกย้ำว่าบาเลนเซีย (วาเลนเซีย) เป็นเมืองที่น่าไปท่องเที่ยวอย่างแท้ยิ่ง นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่ฉากถ่ายทำภาพยนตร์และซีรีย์รายการโทรทัศน์ยอดฮิตระดับโลก เช่น มหากาพย์ศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones) ดอกเตอร์ฮู (Doctor Who) ภาพยนตร์แฟนตาซีผจญภัยแดนอนาคต (Tomorrowland: The World of Tomorrow) ซีรีย์ฟอร์มยักษ์เวสวู๊ด (Westwood) เป็นต้น
จากความมุ่งมั่นปรับปรุงสภาพแวดล้อมเพื่อสร้างความยั่งยืน ตลอดจนถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนในปี 2567 ที่ผ่านมา บาเลนเซีย (วาเลนเซีย) ได้รับรางวัลเมืองหลวงสีเขียวของยุโรป (European Green Capital) จากคณะกรรมมาธิการยุโรป อีกทั้งยังมีพื้นที่สงวนชีวมณฑล (Biosphere Reserve) ที่ได้รับการคัดสรรโดยองค์การยูเนสโก 2 แห่ง ได้แก่ พื้นที่สงวนชีวมณฑล อัลโต ทูเรีย (Alto Turia Biosphere Reserve) และพื้นที่สงวนชีวมณฑล คาเบรียล วัลเลย์ (Cabriel Valley Biosphere Reserve)
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมจากนักเดินทางทั่วโลก เช่น ศาสนสถานมหาวิหารบาเลนเซีย (วาเลนเซีย) (Velencia Cathedral) ที่มีจอกศักดิ์สิทธิ์ (Holy Grail) เก็บอยู่ สามารถเข้าร่วมฟังคำบรรยายโดยไกด์ที่มีบริการแก่นักท่องเที่ยวได้ และในวันพฤหัสบดีสัปดาห์สุดท้ายเดือนตุลาคมปี 2568 นี้ จะมีกิจกรรมฉลองปีแห่งจอกศักดิ์สิทธิ์ Jubilee Year of the Holy Grail ครั้งที่ 3 ต้อนรับนักแสวงบุญที่เดินทางไปยังมหาวิหารเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาด้วย
แต่ละปีมีงานและเทศกาลที่ได้รับความสนใจจากนักเดินทางทั่วโลก เช่น งานฉลองเทศกาล ลา ฟายาส หรือเทศกาลเผาหุ่นที่มีขึ้นระหว่าง 15-19 มีนาคม ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage of Humanity) อาคาร ลา ลงคา (La Lonja (The Silk Exchange)) อาคารสัญลักษณ์ของเมือง หนึ่งในสถาปัตยกรรมสไตล์กอทิกที่มีชื่อมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป และ Tribunal de Las Aguas (The Water Court) หนึ่งในสถาบันทางกฎหมายที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกด้วยเช่นกัน
ปาเอญ่า หรือข้าวผัดสเปน ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในบาเลนเซีย (วาเลนเซีย) เป็นเมนูยอดนิยมในประเทศสเปน และในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรวมถึงยังมีรายการอาหารอื่น ๆ และทาปาสสไตล์ดั้งเดิมที่สามารถเลือกสรรรับประทานได้เมื่อไปเยือน สำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่แนะนำให้ไปเยือนเมืองแห่งศิลป์และวิทยาศาสตร์ (The City of Arts and Science) สถานที่แหล่งรวมหลากหลายความทันสมัย เช่น พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ โรงภาพยนตร์ สถานที่จัดแสดงโชว์และคอนเสิร์ต รวมทั้งยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์และรายการโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
สำหรับมูลนิธิหรือการท่องเที่ยวบาเลนเซีย (วาเลนเซีย) ดำเนินงานในรูปแบบมูลนิธิที่ไม่แสวงหาผลกำไรก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ.2534 โดยเป็นความร่วมมือของสภาเมืองบาเลนเซีย และหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว มีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารงานและส่งเสริมงานด้านการท่องเที่ยว ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีส่วนร่วมพัฒนาและกระตุ้นเศรษฐกิจของบาเลนเซีย (วาเลนเซีย) ประเทศสเปนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก www.visitvalencia.com/en
ที่มา: On 3 Communication
