MINISO เปิดตัว Flagship Store แรกในประเทศไทย สร้าง landmark ท่องเที่ยวใหม่สุดไอคอนิกในภูมิภาค

พุธ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๘ ๑๒:๔๕
MINISO ฉลองเปิดตัว flagship store สาขาแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมาที่กรุงเทพฯ โดยมีดาราสาวชื่อดัง ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ เข้าร่วมงานพิธีเปิดตัว ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ สุดไอคอนิกและถือว่าคือสถานที่อันโด่งดังใกล้ Asiatique Sky หรือ ชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขวัญใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่พร้อมมาช้อปปิ้ง ซึ่งถือว่าเป็นงานแห่งประวัติศาสตร์ของแบรนด์ MINISO ในการขยายสาขาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า และเสริมความแข็งแกร่งในตลาดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับผู้บริโภคชาวไทยอย่างเป็นรูปธรรม
MINISO เปิดตัว Flagship Store แรกในประเทศไทย สร้าง landmark ท่องเที่ยวใหม่สุดไอคอนิกในภูมิภาค

ในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา ความต้องการของลูกค้ารุ่นใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนไปสู่การบริโภคสินค้าที่ขับเคลื่อนด้วยความสนใจ (interest-driven consumption) ซึ่งเทรนด์นี้กลุ่มลูกค้าเป็นผู้สร้างขึ้นจากความชื่นชอบส่วนตัวอย่างลึกซึ้ง หรือการสะท้อนความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคล ซึ่งข้อมูลเชิงลึกนี้ผลักดันให้ MINISO นำเสนอไลน์สินค้าลิขสิทธิ์จากการ์ตูนและตัวละครขวัญใจตลาดมาผสมผสานในการรังสรรค์สินค้าต่าง ๆ รวมไปถึงกลยุทธ์ของแบรนด์ที่มีการร่วมงานกับตัวละครชื่อดังกว่า 150 ลิขสิทธิ์ทั่วโลก ซึ่งได้ผลักดันยอดขายสินค้าลิขสิทธิ์ไปแล้วกว่า 800 ล้านชิ้นจนถึงปัจจุบัน

ด้วยกลยุทธ์ของแบรนด์ จึงเป็นที่มาของการเปิด flagship store ครั้งแรกของ MINISO ที่ประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นสวรรค์ของเหล่านักช้อปด้วยเหล่าสินค้าลิขสิทธิ์กว่า 20 คอลเล็กชันของทัพตัวละครขวัญใจนักช้อป อาทิ Harry Potter และ Disney นำโดย Stitch โดยสาขานี้ยกระดับประสบการณ์ในการช้อปปิ้งด้วยโซนแสดงสินค้าที่มีการออกแบบให้เข้ากับตัวละครต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโซนเตาผิงของ Harry Potter โซนพี่หมี Lotso และน้อง Stitch ขนาดยักษ์ อีกทั้งเหล่าตัวละครจาก Winnie the Pooh สุดน่ารัก

ณ งานเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ คุณ Jun Wang CEO ของ MINISO Thailand ได้กล่าวว่า "flagship store ที่ประเทศไทยเรียกได้ว่าคือก้าวสำคัญที่ตอกย้ำในการดำเนินงานในแบรนด์เราที่ประเทศไทย อีกทั้งปฏิบัติตามแผนงานระดับโลกของเรา โดยแน่นอนว่าสาขาใหม่ล่าสุดที่ยิ่งใหญ่ของเราพร้อมประสบการณ์ลูกค้าชาวไทยให้เหนือกว่าเดิมด้วยตัวเลือกการเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย ในขณะเดียวกันเรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำของตลาดที่มอบสินค้าลิขสิทธิ์ในท้องตลาดที่จับมือร่วมกันเจ้าของลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ในการออกแบบสินค้าที่ตอบโจทย์ เสริมแบรนด์ MINISO ให้ประสบความสำเร็จในระดับโลก"

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือว่าเป็นตลาดที่ MINISO ให้ความสำคัญ ในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา MINISO เรียกได้ว่าสร้างแบรนด์ให้เติบโตในภูมิภาคนี้อย่างเป็นประจักษ์ผ่านกลยุทธ์ที่แบรนด์ได้ดำเนินการและการนำเสนอวิถีในการช้อปปิ้งที่ครองใจเหล่านักช้อปอย่างที่ท่วมท้น ซึ่งประกอบด้วยกลยุทธ์ สาขาซูเปอร์สโตร์และ สาขาธีมสินค้าลิขสิทธิ์ โดยแน่นอนว่า MINISO ได้นำเสนอการช้อปปิ้งที่เหนือกว่าและเหมือนใครในภูมิภาคนี้ผ่านการเปิดสาขาในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้าน flagship store ร้านสินค้าธีมต่างๆ หรือแม้กระทั้งช้อปป๊อปอัพต่าง ๆ

MINISO มุ่งมั่นในกลยุทธ์ "ซูเปอร์สโตร์" และได้เพิ่มสาขา ณ หลากหลายสถานที่และรูปแบบที่มีอิทธิพลสูงหลายแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนสิงหาคม 2024 MINISO ได้เปิด global store ที่ใหญ่ที่สุดที่ Central Park Mall ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีพื้นที่ประมาณ 3,000 ตารางเมตร มีโซนจัดตามธีมของสินค้าลิขสิทธิ์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มากมาย ซึ่งสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับภูมิทัศน์ของวงการค้าปลีกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนธันวาคม 2024 MINISO ได้เปิดร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ที่ PLQ Mall ซึ่งถือเป็นการผลักดันกลยุทธ์ซูเปอร์สโตร์ของแบรนด์ สาขานี้มีสินค้ากว่า 5,000 SKU รวมถึงกลุ่มไลน์สินค้าลิขสิทธิ์ยอดนิยมระดับโลกอย่าง Harry Potter และ Pokemon ซึ่งมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งในแดนมหัศจรรย์ของเหล่าทัพสินค้าลิขสิทธิ์ที่ไม่ซ้ำใคร

นอกเหนือจากสาขาขนาดใหญ่แล้ว กลยุทธ์สาขาธีมสินค้าลิขสิทธิ์ ของ MINISO ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างสถานการณ์การช้อปปิ้งที่ไม่เหมือนใครทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยร้านค้าและสาขาป๊อปอัพที่มีธีมสินค้าลิขสิทธิ์ เหล่านี้ดึงดูดผู้บริโภครุ่นใหม่ ๆ ด้วยธีมและตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น ตัวอย่างเช่น ร้านคอลเลกชันลิขสิทธิ์แห่งแรกของ MINISO ใน กรุงกัวลาลัมเปอร์ดึงดูดความสนใจด้วยการออกแบบในธีมสีชมพูซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากตุ๊กตาบาร์บี้ ในขณะที่ร้านป๊อปอัพธีม Harry Potter ในฮ่องกงดึงดูดแฟน ๆ มากมายที่พร้อมจะสำรวจโลกมหัศจรรย์ตามแบบฉบับเหล่าโลกเวทมนตร์ นอกจากนี้ การเปิดร้านธีม Sanrio แห่งแรกของเวียดนามและร้านธีม Loopy ของสิงคโปร์ที่สนามบินชางงี ได้ผสมผสานเอกลักษณ์ของธีมสินค้าลิขสิทธิ์ เข้ากับสภาพแวดล้อมของร้านค้าได้อย่างลงตัว ช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดของแบรนด์ไปอีกขั้น

ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง MINISO ยังคงมุ่งมั่นที่จะมุ่งเน้นไปที่สาขารูปแบบซูเปอร์สโตร์ และ สาขาธีมสินค้าลิขสิทธิ์ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในภูมิภาคนี้ผ่านประสบการณ์ของผู้บริโภคที่ขับเคลื่อนโดยความสนใจ ในอนาคต แบรนด์มีแผนที่จะเพิ่มสาขาและป๊อปอัพธีมสินค้าลิขสิทธิ์มากขึ้น เพื่อขยายความนิยมของสินค้าลิขสิทธิ์ที่โดดเด่น ขณะเดียวกันก็ยังมอบความน่าตื่นตาตื่นใจและประสบการณ์การช็อปปิ้งที่น่าจดจำแก่ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าถึงได้อย่างมากยิ่งขึ้นไป

ที่มา: Midas PR

MINISO เปิดตัว Flagship Store แรกในประเทศไทย สร้าง landmark ท่องเที่ยวใหม่สุดไอคอนิกในภูมิภาค

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๑๕ มนต์เสน่ห์ฤดูหนาว: ห้วงเวลาบทกวีแห่งรสกับเมนู Winter Guestronomic Journey ณ ห้องอาหาร เอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล
๑๒:๑๗ กระทรวงพาณิชย์ประกาศขึ้นทะเบียน GI หอยนางรมท่าโสม ของดีจังหวัดตราด เนื้อแน่น อวบอ้วน รสสัมผัสนุ่ม หวานฉ่ำ สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้ชุมชนกว่า 190
๑๒:๑๑ วางใจกับทีมจัดเลี้ยงห้องประชุมสัมนาใหญ่ที่สุดในเชียงราย พร้อมเมนูตระการตาที่โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย แอนด์
๑๒:๕๖ Easy E-Receipt กับศูนย์การค้าในเครือ เอ็ม บี เค ลดหย่อนภาษี ตั้งแต่ 16 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2568
๑๒:๑๖ MINISO เปิดตัว Flagship Store แรกในประเทศไทย สร้าง landmark ท่องเที่ยวใหม่สุดไอคอนิกในภูมิภาค
๑๒:๐๔ NDBS Thailand เชิญร่วมงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อSMEs Fast-Growing Business with SAP Business One on HANA - วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์
๑๒:๓๕ ป๊อปมาร์ท (POP MART) ต่อยอดความสำเร็จรับปี 2025 เปิดตัวป๊อปอัพ สโตร์ สุดล้ำ ขยายตลาดสู่ต่างจังหวัดครั้งแรก! นำร่อง เซ็นทรัล พัทยา เมืองท่องเที่ยวหลักแห่งภาคตะวันออก ตั้งเป้า!!
๑๒:๕๓ เสียงสะท้อนจากโซเชียล ร้านค้าโชห่วยโอดของขายยากเพราะบุหรี่เถื่อนทะลัก
๑๑:๔๖ เปิดทิศทางสื่อไทยปี 2568: Niche คอนเทนต์และอินฟลูเอนเซอร์มาแรง สตรีมมิ่งแข่งเดือด
๑๑:๕๐ อนันดาฯ ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน ชำระคืนหุ้นกู้เต็มจำนวน 100% พร้อมดอกเบี้ย มูลค่า 2,988 ลบ. พร้อมปิดการขาย 5 โครงการรวด