โครงการฯนี้ เป็นสิ่งใหม่สำหรับน้องๆนักเรียน ทุกคนต่างสนใจเรียนรู้วิธีเลี้ยงไก่ไข่ การจัดการผลผลิต การจำหน่ายเข้าโครงการอาหารกลางวันนักเรียน และไข่ไก่ที่เหลือจะนำไปจำหน่ายให้ผู้ปกครองและชาวชุมชน เกิดเป็นรายได้เข้าโครงการฯ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความยั่งยืนของโครงการ
"วันนี้ที่โรงเรียนมีโครงการเกษตรทั้งปลูกพืชผักสวนครัว การเลี้ยงไก่ไข่และไก่พื้นเมือง เลี้ยงแพะเนื้อ รวมถึงปลูกกาแฟและต่อยอดทำร้านกาแฟ Bmst Coffee Shop โดยเฉพาะโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ที่กลายเป็นแหล่งเรียนรู้เสริมทักษะเกษตร ตอนนี้เลี้ยงไก่ไข่รุ่นที่ 2 โดยมีเงินกองทุน 3 หมื่นกว่าบาท ซึ่งเป็นรายได้จากการเลี้ยงรุ่นแรกมาเป็นมีทุนดำเนินการต่อในรุ่นนี้ และกำลังบูรณาการในแผนงานวิชาเกษตร" ผอ.สนอง กล่าว
น้องอาวิกา ตัวแทนนักเรียนที่รับผิดชอบดูแลโครงการฯ บอกว่า ในแต่ละวันเธอกับเพื่อนๆจะมาให้อาหารแม่ไก่ไข่ เก็บไข่ไก่ ทำให้ได้ทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ หากโตขึ้นแล้วยังไม่ได้ทำงานที่ไหนก็สามารถเลี้ยงไก่ไข่ได้ ทุกวันนี้ที่บ้านก็เลี้ยงไก่ ซึ่งพ่อนำความรู้จากเธอที่ได้เรียนรู้มาไปใช้เลี้ยงไก่ เกิดเป็นอาชีพเป็นรายได้ให้กับครอบครัวด้วย
"วันนี้เราได้ทานไข่ไก่สดๆ ทุกคนได้เรียนรู้การเลี้ยงไก่ไข่เป็นพื้นฐานอาชีพ เรายังต่อยอดทำโครงการโรงตากมูลไก่ ใช้เป็นปุ๋ยในแปลงผักในโรงเรียน จำหน่ายให้ผู้ปกครองและเกษตรกรใกล้เคียง เป็นรายได้เสริมเพื่อดำเนินโครงการฯต่อไป ขอบคุณมูลนิธิฯและซีพีเอฟ ที่ให้โอกาสเราได้สร้างคลังอาหารในโรงเรียนและส่งต่ออาหารให้ชุมชน" น้องเอวิกา กล่าว
ตลอด 36 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ซีพีเอฟ และพันธมิตร ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารแก่โรงเรียนพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร ส่งต่อโอกาสเข้าถึงแหล่งโภชนาการอาหารแก่นักเรียนใน 988 โรงเรียนทั่วประเทศ ช่วยให้นักเรียนกว่า 223,000 คน และครู 16,500 คน ได้รับประโยชน์จากโครงการทั้งทางตรงและทางอ้อม จากการเรียนรู้การบริหารจัดการด้านอาชีพ การบริหารการเงิน รู้จักวิธีค้าขาย เกิดเป็นทักษะและสามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันของตนเองและครอบครัว จนกระทั่งสามารถต่อยอดเป็นพื้นฐานอาชีพในอนาคต./
คลิกชมคลิป >> https://youtu.be/2ksU7u_wDQ4
ที่มา: Charoen Pokphand Foods