กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 34.25-34.80 เกาะติดนโยบายทรัมป์

จันทร์ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๘ ๑๓:๐๓
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.25-34.80 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.45 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.42-34.84 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือนก่อนจะพลิกกลับมาแข็งค่า เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีดอลลาร์หยุดสถิติการพุ่งขึ้น 6 สัปดาห์ติดต่อกัน หลังดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเดือนธันวาคมของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ทำให้ตลาดเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)อาจลดดอกเบี้ยได้อย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีนี้และการชะลอตัวของแรงเทขายในตลาดพันธบัตรประเทศเศรษฐกิจหลักสะท้อนว่าก่อนหน้านี้นักลงทุนกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ขณะที่เงินเยนแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือน ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)จะขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทย 5,539 ล้านบาท และ 10,386 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะติดตามความชัดเจนด้านนโยบายการค้าสหรัฐฯหลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของประธานาธีบดีทรัมป์ในวันที่ 20 มกราคม หลังจากดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ตลาดกำลังรอการยืนยันว่าทรัมป์จะดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าเชิงรุกในช่วงเริ่มต้นวาระที่สองหรือไม่อย่างไร โดยมีรายงานว่าทรัมป์อาจออกคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive Order) กว่า 1 ร้อยฉบับในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง อนึ่ง กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ มองว่าระดับการคาดการณ์ของผู้ร่วมตลาดดังกล่าวเปิดความเสี่ยงด้านขาลงของค่าเงินดอลลาร์ในระยะสั้น หากมีแนวโน้มว่าการบังคับใช้มาตรการทางการค้าในเบื้องต้นรุนแรงน้อยกว่าหรือล่าช้ากว่าที่นักลงทุนวิตกมาตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/2567 นอกจากนี้ เราคาดว่ามีโอกาสสูงที่บีโอเจจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยจากระดับ 0.25% เป็น 0.50% ในวันที่ 24 มกราคม หลังมีสัญญาณว่าบีโอเจมั่นใจมากขึ้นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นสนับสนุนเป้าหมายเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพที่ 2% อย่างไรก็ดี ค่าเงินเยนได้รับข่าวการปรับดอกเบี้ยไปมากพอสมควรแล้ว ปฏิกิริยาของตลาดจึงขึ้นอยู่กับท่าทีด้านนโยบายในระยะข้างหน้า

สำหรับปัจจัยในประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะขยายตัวได้เกิน 3% และจะเป็นแรงส่งต่อเนื่องถึงปีถัดไป หากนโยบายและมาตรการต่างๆที่ภาครัฐได้เร่งดำเนินการเห็นผลชัดเจน

ที่มา: บลจ.กรุงศรี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๕ โบว์ เมลดา เปิดตัว สวยปัง ขายแปลก พร้อมประมูลตัวคณิกาน้องใหม่!!
๑๗:๐๐ เขตพระนครประสานเจ้าของพื้นที่-ผู้เช่าเร่งหาข้อยุติรื้อย้ายแผงค้าตลาดส่งเสริมการเกษตร
๑๗:๐๐ กทม. กำชับ รฟม. เข้มมาตรการลดผลกระทบโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม-ล้อมย้ายต้นไม้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
๑๗:๑๗ คุ้ย-ทวีวัฒน์ รุกหนักตลาดหนังสยองขวัญ-เปิด 13 สตูดิโอ ยิ่งใหญ่ ไลน์อัพหนังบิ๊กโปรเจค-ดึงดาราเอลิสต์ร่วมงาน 7 เรื่อง 7
๑๗:๐๗ Zelection Interior บริการอินทีเรียดีไซน์หรู จากเอสบี ดีไซน์สแควร์ ยกระดับงานตกแต่งภายในไปอีกขั้น ด้วยนวัตกรรมจากคอลเลกชันใหม่
๑๗:๔๔ SAM ยกระดับบริการ สายด่วน 1443 ตอบครบจบในเบอร์เดียว
๑๗:๕๒ บางกอกแอร์เวย์สชวนหอเจี๊ยะฉลองรับตรุษจีน เสิร์ฟเมนูมงคล ขนมหัวผักกาดกุ้ง ณ บลูริบบอนคลับเลานจ์ สนามบินสมุย
๑๗:๑๘ พิซซ่า ฮัท เสิร์ฟความฟิน Melts Fever ลดฟินเวอร์ เริ่มต้นเพียง 119 บาท
๑๗:๑๐ อิ่มอร่อยพร้อมรับโชคต้อนรับปี มะเส็ง ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนกับแมริออท บอนวอย ในประเทศไทย
๑๖:๐๓ บิ๊กบอส LEO ลั่น!กอดหุ้นแน่น มั่นใจปัจจัยพื้นฐานแกร่ง-อนาคตสดใส ย้ำ! ลุยธุรกิจตามยุทธศาสตร์ LEO Go Green