ทั้งนี้ ปัจจุบัน สจส. ได้ให้บริการรถ Shuttle bus พลังงานไฟฟ้า ขนาด 20 ที่นั่ง รับ-ส่งประชาชนฟรีในพื้นที่ต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ระบบขนส่งทางราง ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนหลักที่ให้บริการครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ให้บริการใน 5 เส้นทาง ได้แก่ (1) BTS สนามเป้า - ศาลาว่าการ กทม. 2 (ดินแดง) (2) ARL ลาดกระบัง - ชุมชนเคหะร่มเกล้า (3) MRT บางขุนนนท์ - ตลาดน้ำตลิ่งชัน (4) ถนนสามเสน (บนเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง) - ฝั่งธนฯ และ (5) MRT หลักสอง - สำนักงานเขตทวีวัฒนา รวมระยะทาง ประมาณ 110 กิโลเมตร และยังให้บริการรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) สายสาทร - ราชพฤกษ์ ระยะทางประมาณ 16.5 กิโลเมตร โดยในอนาคตจะขยายเส้นทางให้บริการรถ Shuttle bus พลังงานไฟฟ้าให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลและใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้นต่อไป
นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวว่า กทม. ได้กำหนดมาตรการเขตมลพิษต่ำในพื้นที่กรุงเทพฯ (Low Emission Zone) ไว้ในแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2568 ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ "การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง" เพื่อรองรับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ตลอดทั้งปีและในช่วงวิกฤตฝุ่น เพื่อลดจำนวนยานพาหนะบนท้องถนนและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนจากปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยกำหนดเขตมลพิษต่ำในพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษกครอบคลุม 22 เขต ซึ่งครอบคลุม 16 เขตกรุงเทพฯ พื้นที่ชั้นใน กทม. ได้เตรียมความพร้อมการดำเนินงานตามมาตรการเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone) โดยจะออกประกาศเมื่อสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 มีค่ามากกว่า 75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ไม่น้อยกว่า 5 เขต และเกิดต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน ประกอบกับมีอัตราการระบายต่ำกว่า 3,000 ตารางเมตร/วินาที (ตร.ม./วินาที) ผว.กทม.จะประกาศห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป เข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษกภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ยกเว้นรถเครื่องยนต์ไฟฟ้า/แก๊ส NGV รถเครื่องยนต์ดีเซลมาตรฐาน Euro5/Euro6 และรถที่ผ่านการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศเรียบร้อยแล้ว โดยเปิดให้ลงทะเบียนบัญชีสีเขียวตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67 เป็นต้นมา ซึ่งมีผู้ประกอบการลงทะเบียนบัญชีสีเขียวกับ กทม. แล้วมากกว่า 25,000 คัน
ที่มา: กรุงเทพมหานคร