ดังนั้น กรมอนามัย จึงได้ริเริ่มโครงการฯ เพื่อส่งเสริมให้เข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยเน้นพัฒนาองค์ความรู้และฐานข้อมูลด้านการส่งเสริมสุขภาพ กลุ่ม LGBTQ+ สร้างความรู้ความเข้าใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ พัฒนาศักยภาพแกนนำและยกระดับองค์กร ชุมชนให้เป็นต้นแบบในการส่งเสริมสุขภาพ LGBTQ+ ตลอดจนสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพกลุ่ม LGBTQ+ โดยตั้งเป้าหมายให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 2 ปี มีกลุ่ม LGBTQ+ เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 10,000 คน มีแกนนำองค์กร ชุมชน กลุ่ม LGBTQ+ 13 จำนวน 1,300 คน ใน 13 เขตสุขภาพ รวมถึงส่งเสริมให้สื่อมวลชนและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง สื่อสารเรื่องสุขภาพทางเพศ กิจกรรมทางกาย โภชนาการ สุขภาพจิต ยาสูบ สารเสพติด และแอลกอฮอล์ ให้กลุ่ม LGBTQ+ มีความรอบรู้ด้านสุขภาพมากขึ้น สามารถจัดการสุขภาพตนเอง ครอบครัว และชุมชนได้อย่างเหมาะสม อีกทั้ง ยังช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพและสร้างความเท่าเทียมในสังคมได้ เพราะทุกเพศ ทุกวัย มีสุขภาพดีได้อย่างเสมอภาค
ด้านนายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กล่าวเสริมว่า กรมอนามัยยังได้เตรียมพร้อมการส่งเสริมสุขภาพกลุ่ม LGBTQ+ ในรูปแบบของ หลักสูตร "การส่งเสริมสุขภาพกลุ่ม LGBT" โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ซึ่งในหลักสูตรจะมีเนื้อหาการส่งเสริมความรู้และความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับกลุ่ม LGBT สุขภาพจิตและการจัดการความเครียด สุขภาวะทางเพศและการอนามัยเจริญพันธุ์ การส่งเสริมสุขภาพกาย รอบรู้เรื่องฮอร์โมน และการรู้เท่าทันข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ หลักสูตรนี้จะช่วยส่งเสริมให้ประชากรกลุ่ม LGBTQ+ ได้เข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพและมีความรอบรู้มากยิ่งขึ้น
ที่มา: กรมอนามัย