"นับเป็นเวลานานหลายปีที่ ชไนเดอร์ อิเล็คทริคยึดมั่นเรื่องความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงาน การเป็น IMPACT company สำคัญมากกว่าการเป็นแค่เป้าหมายขององค์กร โดยเป็นทั้งแรงผลักดันที่กำหนดทิศทางการตัดสินใจทางธุรกิจของเรา และเป็นแรงบันดาลใจให้กับพนักงานของเราด้วยเช่นกัน" โอลิเวียร์ บลูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว "การได้รับการยกย่องให้เป็นบริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในโลกจาก Corporate Knights ถึงสองครั้ง และการได้รับการยอมรับด้าน ESG ในอีกหลายเรื่องด้วยกัน นับเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เราสร้างผลกระทบเชิงบวกที่มีคุณค่าในระยะยาวได้จริง"
ในปีนี้ การที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งอีกครั้ง เป็นการสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทฯ ในแนวทางปฏิบัติด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น ความหลากหลายทางเพศของผู้บริหารและกรรมการบริษัท และโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การใช้ไฟฟ้าและการลดคาร์บอน ซึ่ง ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้คะแนนสูงจากความมุ่งมั่นพยายามในการสร้างธุรกิจให้เติบโตได้ โดยที่ไม่เพิ่มการใช้พลังงานหรือไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่ม รวมถึงมีการลงทุนอย่างจริงจังในการวิจัยและพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้ Corporate Knights ยังเน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงระหว่างแรงจูงใจในการจ่ายค่าตอบแทนผู้บริหารกับประสิทธิภาพความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการที่ชไนเดอร์ ได้รับการจัดอันดับในด้าน ESG อีกหลายรายการ
"การที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในดัชนี Global 100 ถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่น เพราะยังไม่เคยมีบริษัทใดที่สามารถครองตำแหน่งอันดับหนึ่งถึงสองครั้ง" โทบี้ ฮีพส์ ซีอีโอของ Corporate Knights กล่าว "ความสำเร็จนี้เกิดจากการที่ชไนเดอร์ สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงกว้าง ให้ผลลัพธ์ที่มากกว่าการมุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรตัวเอง โดยชไนเดอร์ฯ มอบทั้งเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน สนับสนุนการลดคาร์บอน และช่วยเหลือบริษัทอื่นๆ อีกมากมายในการเปลี่ยนองค์กรสู่ความยั่งยืน"
ดัชนี Global 100 ประจำปี เป็นการรวบรวมโดย Corporate Knights ซึ่งเป็นบริษัทสื่อและบริษัททำวิจัยของแคนาดา โดยอาศัยฐานข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative data) ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวข้องกับทรัพยากร พนักงาน ซัพพลายเออร์ รายได้ที่ยั่งยืน และการลงทุน โดยวิธีการจัดอันดับของดัชนี Global 100 จะใช้ตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลักแบบคงที่ (fixed) และแบบแปรผัน (variable) เพื่อจัดอันดับบริษัทในกลุ่มเดียวกัน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการจัดอยู่ในทำเนียบของ Global 100 ทุกปี ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา และอยู่ในอันดับท็อป 10 ถึง 7 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดในกลุ่มคู่แข่งที่ทำธุรกิจด้านการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า
การได้รับรางวัลนี้ทั้งในปี 2021 และ 2025 เกิดขึ้นพร้อมกันในช่วงเริ่มต้นและช่วงสิ้นสุดของโปรแกรม Schneider Sustainability Impact ที่มีระยะเวลา 5 ปี โดยเป็นโปรแกรมวัดความก้าวหน้าของบริษัทตามเป้าหมาย ESG ในหลายแง่มุม ซึ่งกำหนดสิ้นสุดปลายปี 2025 และช่วยรักษาความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการบรรลุความพยายามทั้งในระดับโลกและระดับท้องถิ่น
ความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนของชไนเดอร์ ได้รับการยืนยันเพิ่มเติมด้วยคะแนนล่าสุดจากผู้ให้บริการจัดอันดับ ESG ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นหลายรายตามที่ปรากฏอยู่ในตารางข้างล่างนี้
ที่มา: เอพีพีอาร์ มีเดีย