กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--กรมการค้าต่างประเทศ
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2550 กระทรวงพาณิชย์ของจีน ได้กำหนดปรับขึ้นอัตราภาษีส่งออกสินค้า 142 รายการ สำหรับสินค้าที่ใช้พลังงานมาก สินค้าที่ก่อให้เกิดมลภาวะ และสินค้าที่มีสัดส่วนการใช้ทรัพยากรสูง
โดยการปรับขึ้นภาษีส่งออกจะอยู่ระหว่างร้อย 5-10 และครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์เหล็กกว่า 80 รายการ สำหรับสินค้าเหล็กขั้นปฐม ปรับขึ้นจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 15 พร้อมกันนี้ได้ประกาศลดอัตราภาษีนำเข้าลงระหว่าง ร้อยละ 0-17 ในสินค้า ทั้งหมด 209 รายการ ซึ่งรวมถึงวัตถุดิบ สำคัญต่างๆ โดยอัตราภาษีนำเข้าของถ่านหินและน้ำมันปรับลดไม่เกินร้อยละ 3 ขณะที่อัตราภาษีนำเข้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น และเครื่องจักร อยู่ที่ร้อยละ 2-6 ส่วนอัตราภาษีนำเข้าของวัตถุดิบก่อสร้าง เครื่องครัว และอาหารทารกลดลงมาอยู่ระหว่างร้อยละ 6-17 การดำเนินมาตรการดังกล่าวของจีนมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการนำเข้าและการส่งออกอันจะทำให้ลดการเกินดุลการค้า ซึ่งก่อนหน้านี้จีนได้ประกาศยกเลิกการขอใบอนุญาตนำเข้าสินค้า จำนวน 338 รายการ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายการสินค้าที่ยกเลิกการขอใบอนุญาตนำเข้า และรายการสินค้าที่ปรับเพิ่มอัตราภาษีส่งออก-ลดอัตราภาษีนำเข้า ได้ที่เวบไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.moc.go.th
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การออกมาตรการดังกล่าวของย่อมส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างไทยและจีน ในส่วนของการปรับเพิ่มอัตราภาษีส่งออก อาจจะทำให้ไทยต้องนำเข้าวัตถุดิบจากจีนแพงขึ้น เช่น สินค้าประเภทเหล็ก ขณะเดียวกันเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านราคาของไทย เนื่องจากสินค้าจีนจะแพงขึ้นในตลาดโลก สำหรับการปรับลดอัตราภาษีนำเข้า อาจช่วยทำให้ไทยส่งสินค้าออกไปยังประเทศจีนได้มากขึ้น เนื่องจากสินค้าที่ได้รับการลดภาษีเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออก เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง และเครื่องครัว เป็นต้น โดยสินค้าบางรายการได้รับการลดภาษีลงเหลือเพียงร้อยละ 2-6 ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้ ผู้ประกอบการสามารถขยายตลาดการส่งออกไปยังประเทศจีนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
อนึ่ง ในปี 2549 ไทยส่งออกสินค้าไปจีนเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 445,296.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 367,405.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21.20