กรุงศรี จับมือ ไทยยูเนี่ยน และ ไอ-เทล เปิดตัวโครงการ ESG-Linked Foreign Exchange (FX) ด้วยมาตรฐานสากล

พุธ ๐๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ๑๕:๕๗
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) จับมือ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก พร้อมด้วย บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำระดับโลก เปิดตัวโครงการ ESG-Linked Foreign Exchange (FX) นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของทั้งสามองค์กรอีกครั้งในการสนับสนุนส่งเสริมด้านความยั่งยืนของประเทศไทย ตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของทั้งสามองค์กรในด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน และยังเป็นการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศเพื่อความยั่งยืนที่สอดคล้องและเป็นไปตามมาตรฐานสากล สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการและความก้าวหน้าของนวัตกรรมด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยอีกด้วย
กรุงศรี จับมือ ไทยยูเนี่ยน และ ไอ-เทล เปิดตัวโครงการ ESG-Linked Foreign Exchange (FX) ด้วยมาตรฐานสากล

โครงการ ESG-Linked FX ได้ผสานเอาหลักการและมิติในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เข้ากับการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ โดยเชื่อมโยงเงื่อนไขทางการเงิน อย่างเช่นเรื่องของต้นทุนการประกันความเสี่ยง เข้ากับการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ภายใต้โครงการนี้ ลูกค้าที่ขับเคลื่อนและบรรลุเป้าหมายด้าน ESG ที่กำหนดไว้ อาทิ เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน หรือการปรับปรุงตัวชี้วัดด้านการพัฒนาสังคม จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน เช่น ต้นทุนการประกันความเสี่ยงที่ลดลง

ทั้งนี้ ภายใต้โครงการดังกล่าว กรุงศรีได้ผสานตัวชี้วัดด้านความยั่งยืน (Key Performance Indicators: KPIs) และเป้าหมายด้านความยั่งยืน (Sustainability Performance Targets: SPTs) ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบการเสนอขายตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน (Thai Union's Sustainability-Linked Financing Framework) เข้ากับธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งทั้ง KPIs และ SPTs จะได้รับการพิจารณาและตรวจสอบโดยหน่วยงานภายนอก เพื่อให้มั่นใจว่าแนวทางและการดำเนินงานดังกล่าวสอดคล้องและเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยการบูรณาการนี้จะช่วยให้การบริหารจัดการความเสี่ยงสกุลเงินต่างประเทศมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยรวมเอาปัจจัยด้านความยั่งยืนเข้าไว้ในกลยุทธ์ทางการเงิน และช่วยลดต้นทุนธุรกรรมแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศได้อีกด้วย

นายฮิโรทากะ คุโรกิ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ ไทยยูเนี่ยน และ ไอ-เทล ในโครงการ ESG-Linked FX นี้ โดยในฐานะที่กรุงศรีเป็นสถาบันการเงินที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนด้านการเงินที่ยั่งยืน เราได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน ESG Finance และทำงานเชิงรุกอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า โดยกรุงศรีเห็นถึงความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเงินความยั่งยืนที่เพิ่มมากขึ้นในตลาด เมื่อช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ธนาคารจึงได้ออก ESG-Linked Derivatives และตามมาด้วยโครงการ ESG-Linked FX ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ผสานเอาหลักการด้าน ESG เข้าไว้กับการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ เป็นการต่อยอดการบริหารจัดการความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศแบบดั้งเดิม เพื่อรวมปัจจัยด้านความยั่งยืนเข้าไว้กับกลยุทธ์ทางการเงิน ซึ่งจะเป็นการช่วยสนับสนุนวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนของทั้งสององค์กร"

นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ที่ผ่านมา กรุงศรี และ ไทยยูเนี่ยน ประสบความสำเร็จร่วมกันจากความร่วมมือในโครงการ Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเลของไทยยูเนี่ยน โดยเราได้บรรลุเป้าหมายที่สำคัญในภูมิทัศน์ทางการเงินด้านความยั่งยืนของประเทศไทย ทั้งการออกสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) ครั้งแรกของประเทศไทยและญี่ปุ่น เมื่อปี 2564 และในปีเดียวกันนั้น กรุงศรีและ
ไทยยูเนี่ยนยังประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond หรือ SLB) เป็นครั้งแรกของประเทศไทย สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ยังคงเป็นการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านความยั่งยืนออกสู่ตลาดในประเทศไทย และชี้ให้เห็นถึงจุดยืนของกรุงศรีในการเป็นผู้นำตลาดด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน และเน้นย้ำถึงคำมั่นสัญญาของเราที่จะให้การสนับสนุนลูกค้าสู่การบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง"

นายยงยุทธ เสฎฐวิวรรธน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการบริหารการเงินกลุ่มและศูนย์บริการร่วมทางการเงิน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ความยั่งยืนถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของไทยยูเนี่ยนและไอ-เทล เพื่อเป้าหมายการมีสุขภาพที่ดีและท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ "Healthy Living, Healthy Oceans" ซึ่งขับเคลื่อนภายใต้กลยุทธ์ SeaChange(R)2030 ที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับอุตสาหกรรม ผู้คน และโลก โดยในด้านการเงินไทยยูเนี่ยนมีเป้าหมายจัดหาเงินทุนที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้ได้ 75 เปอร์เซ็นต์ของการจัดหาเงินทุนระยะยาวภายในปี 2568 เพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเล ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการทำงานด้านความยั่งยืนอย่างจริงจัง เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และยกระดับนวัตกรรมทางการเงินเพื่อสร้างสมดุลในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล"

ที่มา: สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๔๔ เปิดยุทธศาสตร์ 'CPNREIT' กองทรัสต์ค้าปลีกศักยภาพสูงที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในไทย
๑๕:๓๖ FWD ประกันชีวิต ยกระดับคุณภาพการขาย 360 องศา เสริมความมั่นใจลูกค้า พัฒนาตัวแทน
๑๕:๓๔ อาดิดาส เปิดตัวรองเท้าวิ่ง Adizero Adios Pro Evo 2 ทะยานข้ามขอบเขตความเร็วอันเป็นที่สุดไปสู่ชัยชนะในการแข่งขัน
๑๕:๒๔ กรมอนามัย-AOT-อบต.หนองปรือ การันตรีด้วยมาตรฐาน SAN 102 ร้านอาหาร ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
๑๕:๔๙ POCO วางจำหน่ายสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น POCO C71 มอบราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 1,999 บาท เฉพาะระหว่างวันที่ 24 เม.ย 68 - 8 พ.ค. 68
๑๕:๑๒ อลิอันซ์ อยุธยา ทำบุญครบรอบ 74 ปี พร้อมจัดกิจกรรม ให้.ไม่รู้จบ
๑๕:๐๗ ศูนย์พัฒนาเด็กซีเอดี เซ็นเตอร์ เปิดหลักสูตรสอนเด็กออทิสติก เน้นส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทางด้านปัญญาในวัยเริ่มต้น
๑๕:๒๓ GUNKUL ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวทุกวาระ เดินหน้าวิสัยทัศน์ใหม่ พาร์ตเนอร์ด้านพลังงานสีเขียวแห่งเอเชีย เชื่อมั่นแผนงานกรอบ 3 ปี ดันรายได้รวมทะลุ 35,000
๑๕:๕๐ ระเบิดศึก เบสบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2025 รอบคัดเลือก 8 ชาติ
๑๕:๒๒ อีวี ไพรมัส จับมือ โกชัน พัฒนาแบตเตอร์รี่ป้อนสายการประกอบรถวู่หลิงในประเทศไทย